เริ่มด้วยที่แรกยังไม่อยากไปไกล ขอเริ่มที่ทวีปเอเชียกันก่อนเลยละกัน
บันทึกการเดินทางของนายวิชัย มาตกุล คนไทยเชื้อสายจีนที่ไม่เคยไปประเทศจีนมาก่อน แต่ฝันว่าอยากไปกำแพงเมืองจีน อยากเห็นสนามกีฬารังนกสักครั้ง และซื้อรองเท้าไนกี้สักคู่
...
..
ค่ะ จบแล้ว
ยัง! นี่มันแค่ชื่อหนังสือ ชื่อหนังสือที่น่าจะกวนตีน และตรงไปตรงมาที่สุด
10 วันในประเทศจีนของวิชัยถูกถ่ายทอดออกมาเป็นชื่อหนังสือเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวทั้ง 10 วันก็เป็นไปตามนั้นเขาตามหาไนกี้ เยือนกำแพงเมืองจีน เดินเล่นที่สนามกีฬารังนก ลองชิมอาหารจีนแต่ตกหลุมรักอาหารเกาหลี และสิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดในทริปก็คือการเล่นไพ่สลาฟ
10 วันในประเทศจีนของวิชัยทำให้เราได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง และก็ไม่เห็นอะไรอีกหลายๆ อย่าง
บอกไม่ถูกเหมือนกัน เพราะนี่นับว่าเป็นหนังสือท่องเที่ยวประเทศจีนเล่มแรกที่เราเคยอ่านก็ว่าได้
หนังสือท่องเที่ยวประเทศจีนที่เหมือนคนเขียนไม่ได้ไปจีน
หนังสือท่องเที่ยวประเทศจีนที่ไม่ค่อยจะมีเกร็ดความรู้อะไรเกี่ยวกับจีน
หนังสือท่องเที่ยวประเทศจีนที่อ่านไปอ่านมาก็อยากจะเขวี้ยงหนังสือทิ้ง แล้วบอกพี่เค้าว่า เฮ้ย! พี่ไม่ต้องไปจีนก็ได้มั้ง (ฮา)
แต่ถึงอย่างนั้นหนังสือท่องเที่ยวประเทศจีนเล่มนี้ ก็ให้ความสนุกสนานได้ดีเกินคาด แถมยังอัดแน่นไปด้วยความป่วง ความฮา ความนก ความมีสาระประกอบในเล่มเล็กน้อย (ถึงน้อยมาก) แต่ก็ยังอยากให้ไปหาอ่านกันนะ แช่แฟ้บดี
ปล. สิ่งที่รำคาญใจที่สุดในการอ่านก็พวกศัพท์แบบนี้นี่แหละ (แช่แฟ้บ แม้กแม้ก) ถ้าได้อ่านในปี 2011 เราน่าจะอินกับศัพท์พวกนี้กว่านี้ เซ็งแม้ก
ถ้าพูดถึงทวีปเอเชียจะขาดประเทศนี้ไปก็คงไม่ได้ ประเทศที่คนไทยไปเที่ยวกันเหมือนเป็นห้างใกล้บ้าน
ญี่ปุ่น!
HOKKAIDO HOME - MADE
หนังสือท่องเที่ยวของนักเขียนคนโปรดของเรา - แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ เป็นหนังสือที่เรานึกถึงเมื่อใครต่อใครพูดถึงญี่ปุ่น
เราอาจอ่านหนังสือเกี่ยวกับญี่ปุ่นมามากมาย เห็นภาพบ้านเมืองที่นั่นจนชินตา
แต่ภาพวิวทิวทัศน์ภายในหนังสือเล่มนี้ รวมไปถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ถูกถ่ายทอดออกมาก็ยังคงติดตาตรึงใจอยู่แม้ว่าจะอ่านจบไปนานแล้วก็ตาม
หลายๆ คนที่จำภาพของแวววรรณเป็นแบ็คแพ็คเกอร์สาวขาลุย พอได้อ่านเรื่องนี้ก็ต้องมีตกใจกันบ้างที่การเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ของเธอนั้นไปกับทัวร์ แถมยังพกพ่อ แม่ พี่ น้องและหลานตัวน้อยไปกันอีกเป็นโขยงใหญ่ แค่คิดก็วุ่นวายจนพาลให้เที่ยวไม่สนุกแล้ว
แต่กับหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่อย่างนั้นเลย แวววรรณเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส
ใช้ความญาติเยอะได้อย่างมีประโยชน์ เธอเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในทริปนี้ได้อย่างสนุกสนาน ค่อยๆ ให้เราทำความรู้จักกับญาติของเธอชนิดที่ว่า รู้ตัวอีกที ฉันก็ติ่งทั้งตระกูลไปซะแล้ว นอกจากจะได้เต็มอิ่มกับเรื่องราวและบรรยากาศสวยๆ ของฮอกไกโดแล้ว เรายังได้มุมมองดีๆ ของการไปเที่ยวกันแบบครอบครัวใหญ่กลับมาอีกด้วย ทำเอาอยากชวนครอบครัวเก็บกระเป๋าไปกินเมล่อนกันทันทีเลย
หนังสือท่องเที่ยวญี่ปุ่นนี่มีวางขายกันมากมายจริงๆ
และเราก็ซื้อมามากมายเหมือนกัน
พาร์ทนี้เลยขอพิเศษหน่อย เพราะเค้ามากันเป็นคู่
นักเขียนคู่นี้ไปญี่ปุ่นมาด้วยกัน พอกลับมาเลยออกหนังสือกันคนละเล่ม
หนังสือที่ไม่เหมือนกันเลยสักนิด เหมือนไม่ได้ไปด้วยกัน (ฮา)
TOKYO DIARY โตเกียว จุด จุด จุด - SAHRED TOY
มันเป็นหนังสือที่เราชอบอาร์ตข้างในมาก ชอบการเอารูปภาพมาแปะๆ แล้วเขียนอธิบายด้วยลายมือพี่ต๊อด หรือวาดอะไรเล็กๆ น้อยๆ ทับไปบนรูปภาพนั้นอีกที
จริงๆ ไม่ชอบหนังสือที่เขียนเป็นหัวข้อๆ แล้วสรุปแบบนี้เท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไอ้หัวข้อพวกนั้นถูกเขียนออกมาได้สนุกจริงๆ คือมันไม่ได้สรุปแบบมั่วๆ ซั่วๆ มันเป็นการสรุปแบบที่คิดมาแล้ว การสรุปที่ไม่สั้นไปจนไม่ได้อะไร แต่ก็ไม่ยาวไปจนน่าเบื่อ เป็นการสรุปแบบพอดีๆ ในสไตล์สเลดทอยนั่นแหละ ตลก กวนตีน เรียกเสียงหัวเราะ
อีกอย่างที่ชอบคือในเล่มมีรูปอาร์ต จีโนเยอะดี น่ารักอ่ะ อิอิ
โตเกียวเก้อ - ART JEENO
ถ้าการไปเที่ยวญี่ปุ่นของพี่ต๊อดเป็นการไปแบบมีสีสัน ไปตามหาความฝันในวัยเยาว์ การไปเที่ยวญี่ปุ่นของพี่อาร์ตก็คงจะเป็นอะไรที่ตรงข้ามกัน
หนุ่มหล่ออาร์สติสคลีโอคนนี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบคุมโทน เนือยๆ ไปแบบหาสาเหตุไม่ได้ว่าไปทำไม
ถึงภายนอกจะดูเฉยเมยต่อการไปเที่ยวครั้งนี้ แต่การ์ตูนของเขาก็ยังแฝงไปด้วยมุกฮาๆ แบบที่ไม่คิดว่าจะออกมาจากหน้าตายๆ อยู่ดีและที่สำคัญเลยก็คือ...
ครั้งนี้เค้าเป็นพระเอกของเรื่องเองเลยนะ
เราเพิ่งเคยได้ยินชื่อแคว้นนี้ครั้งแรก
จากหนังสือเล่มนี้แหละ
Kashmir If You Can แคชเมียร์เท่าที่รัก
มันเป็นหนังสือเล่มแรกของแพร ฉัตรพร หนังสือเกี่ยวกับแคว้นหนึ่งในประเทศอินเดีย
ตอนซื้อมาไม่ได้สนใจแคชเมียร์เท่าไหร่ เราสนใจแพรต่างหาก
ก่อนหน้านี้เราชอบกระทู้หนึ่งในพันทิปมาก มันเป็นการรีวิวท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใครดี เจ้าของกระทู้ถ่ายรูปสิ่งของที่อยู่ในสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง สมุดบันทึกการเดินทางที่มีตั้งแต่ตั๋ว รูปวาดสีน้ำ ตัวหนังสือขยุกขยิก และบิลต่างๆ เธอแปะเอาไว้ในสมุดเล่มนั้น แล้วนำมารีวิว
หนังสือเล่มนี้ก็คล้ายๆ กัน และแน่นอนว่าทั้งสองอย่างที่เราพูดถึงมีผู้เขียนคนเดียวกัน
ใช่แล้ว แพร ฉัตรพร นี่แหละ
ตัวหนังสือของแพรที่ถ่ายทอดออกมาในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้หวือหวานัก เป็นตัวหนังสือที่อ่านแล้วอุ่นๆ อ่านได้เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้นจัง อยากอ่านต่อให้จบไวๆ หรืออยากจะออกเดินทางในทันที ตัวหนังสือของแพรต้องใช้เวลาในการซึมซับ ใช้เวลาสักนิด พออ่านจบแล้วมันก็ประทับใจดีนะ :)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in