เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First Storyyingkim
เสียมเรียบ- นครวัด - นครธม – โตนเลสาบ 3 วัน 2 คืน (ยิงทำ)
  • ชื่อโปรแกรม : เสียมเรียบ - นครวัด - นครธม – โตนเลสาบ 3 วัน 2 คืน
    ประเทศ : กัมพูชา
    จำนวนวัน : 3 วัน 2 คืน
    สายการบิน : แอร์เอเซีย
    ที่พัก : 4 ดาว
    ไฮไลท์ : ชมความยิ่งใหญ่ ปราสาทนครวัด 1 ใน 7 มหัศจรรย์ของโลก เปิดตำนานกวนเกษียรสมุทร จุดกำเนิด “นางอัปสรา” อลังการ!เที่ยวทะเลสาบเขมร โตนเลสาบ ชมวิถีชีวิตลอยน้ำเต็มอิ่มบุฟเฟต์นานาชาติพร้อมชมโชว์การแสดงชุดระบำอัปสร ศิลปะพื้นเมืองของกัมพูชา

    จำนวนกิจกรรม = 2
    จำนวนร้าน shopping =  3
    มื้ออาหาร = 7/9
    วันอิสระ = 0
    จำนวนที่เที่ยว = 11


    วันที่ 1 : กรุงเทพฯ – เสียมเรียบ –ล่องเรือโตนเลสาบ - ศาลองค์เจ๊ก - องค์จอม – ชมโชว์ระบำอัปสรา

    07.00 น.      พร้อมกันที่สนามบินนานาชาติดอนเมือง ชั้น 3อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เคาน์เตอร์สายการบิน THAI AIR ASIA เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯคอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน โดยสายการบินTHAI AIR ASIA ใช้เครื่อง AIRBUS A319/A320 จำนวน 142-158 ที่นั่งจัดที่นั่งแบบ 3-3 (น้ำหนักกระเป๋า20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่มต้องเสียค่าใช้จ่าย)

    09.55 น.      ออกเดินทางสู่เมืองเสียมราฐ โดยสายการบินแอร์เอเซียเที่ยวบินที่ FD 610 (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง

    11.00 น.      เดินทางถึงสนามบินเสียมเรียบ (เสียมราฐ-อังกอร์)ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่กัมพูชาเท่ากับประเทศไทย) (เวลาบินสำหรับวันที่ 26 ตุลาคม 2562 - 28 มีนาคม 2563)

    10.10 น.      ออกเดินทางสู่เมืองเสียมราฐ โดยสายการบินแอร์เอเซียเที่ยวบินที่ FD 610 (ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง)

    11.10 น.      เดินทางถึงสนามบินเสียมเรียบ (เสียมราฐ-อังกอร์)ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (เวลาท้องถิ่นที่กัมพูชาเท่ากับประเทศไทย) (เวลาบินสำหรับวันที่ 29 มีนาคม 2563 – 24 ตุลาคม 2563)

    ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมราฐหรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “สนามบินเสียมราฐ” เป็นสนามบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศราชอาณาจักรกัมพูชา (KINGDOMOF CAMBODIA) และเป็นสนามบินที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่นที่สุดในประเทศเนื่องจากสนามบินแห่งนี้อยู่ใกล้กับนครวัดซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของกัมพูชา จึงมีเที่ยวบินจาก

    ต่างประเทศบินตรงมาลงที่นี่เป็นจำนวนมากประกอบกับสนามบินยังมีความใหม่ โดยเพิ่งได้รับการปรับปรุง เปิดให้บริการเมื่อปีพ.ศ. 2549 ที่ผ่านมา 

    กลางวัน       บริการอาหารณ ภัตตาคา

    โตนเลสาบ โตนเล ในภาษาเขมรหมายถึงแม่น้ำใหญ่ส่วนสาบหมายถึงไม่เค็ม เนื่องจากโตนเลสาบเป็นพื้นที่น้ำท่วมที่เกิดจากแม่น้ำโขงอีกทั้งยังมีแม่น้ำสำคัญคือแม่น้ำเสียมเรียบไหลลงสู่โตนเลสาบมีพื้นที่มีขนาดใหญ่ประมาณ 2,700 ตร.กม. ในหน้าน้ำน้อย และขนาดใหญ่มากถึง 16,000ตร.กม. ในหน้าน้ำหลากพัดพาเอาสายแร่ธาตุไหลล่องมาจากเมืองจีนผ่านแม่น้ำโขงลงพักไว้ที่โตนเลสาบก่อนจะไหลออกทะเลจีนใต้ทางตอนใต้ของกัมพูชาความยิ่งใหญ่ของพื้นที่ทะเลสาบขนาดที่หน้าน้ำน้อยยังใหญ่กว่าเกาะภูเก็ตตั้งเกือบ 5เท่า อีกทั้งยังเป็นแหล่งชุมชนกลางน้ำให้ชาวบ้านได้ปลูกเรือนอยู่อาศัยและใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่กลางโตนเลสาบมาเป็นเวลายาวนานอีกด้วย

    ศาลองค์เจ๊กองค์จอม เป็นที่รู้จักในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่2 มีธิดาอยู่ 2 พระองค์ ดำรงตำแหน่งแม่ทัพมีความสามารถในเรื่องของการรบเป็นอย่างมากเป็นที่เกรงขามของข้าศึกศัตรูเป็นผู้ที่มีจิตใจงดงามเป็นอย่างมากในยามว่างเว้นจากศึกสงครามหากมีนักโทษคนไหนที่ไม่ได้ทำความผิดที่ร้ายแรงมาก พระองค์ก็จะขออภัยโทษให้  จึงเป็นที่เคารพรักนับถือของคนในเมืองเสียมเรียบเป็นอย่างมาก 

    400 ปีต่อมา กัมพูชาเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธและได้มีการศึกษาประวัติของเจ้าเจกและเจ้าจอมและเห็นว่าเป็นบุคคลตัวอย่างที่ประพฤติตนดีมาก จึงได้มีการสร้างรูปเคารพเป็นองค์ใหญ่แทนเจ้าเจก องค์เล็กแทนเจ้าจอมสมัยก่อนเจ้าเจกเจ้าจอมไม่ได้ประดิษฐานอยู่บริเวณนี้ อยู่ในนครวัด คนโบราณเลยย้าย
    มาอยู่ที่นี่เพื่อความสะดวกในการเคารพบูชา

    เย็น              บริการอาหาร ณ ภัตตาคารบริการอาหารค่ำแบบบุฟเฟ่ต์ อิ่มอร่อยกับอาหารนานาชาติชนิดพร้อมชมโชว์การแสดงชุดระบำอัปสร ศิลปะพื้นเมืองของกัมพูชาที่เป็นการแสดงที่สวยงามให้ทุกท่านได้เก็บภาพเป็นที่ระลึกไว้เป็นความทรงจำที่ดี

    จากนั้นนำท่านสู่ที่พัก พักที่ PACIFIC BOUTIQUE SIEM REAP //ROYAL EMPIRE HOTEL //ANGKOR HOLIDAYHOTELหรือเทียบเท่า


    วันที่ 2 : ปราสาทบันทายศรี– นครธม –ปราสาทบายน - ปราสาทตาพรหม – นครวัด – ไนท์มาร์เก็ต

    เช้า               บริการอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

    ปราสาทบันทายศรี (BANTEAY SREI) เป็นปราสาทหินที่ถือได้ว่างดงามที่สุดในประเทศกัมพูชามีความกลมกลืนอย่างสมบูรณ์ และเป็นปราสาทแห่งเดียวที่สร้างเสร็จแล้วกว่า 1000 ปีแต่ลวดลายก็ยังมีความคมชัด เหมือนกับสร้างเสร็จใหม่ ๆปราสาทบันทายศรีหรือเรียกตามสำเนียงเขมรว่า บันเตียไสร หมายถึง ปราสาทสตรีหรือป้อมสตรีอยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมเรียบไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 30 กิโลเมตรใกล้กับแม่น้ำเสียมเรียบในบริเวณที่เรียกว่า อิศวรปุระหรือเมืองของพระอิศวรนั่นเอง

    นครธม มีความหมายว่าเมืองใหญ่(ธม แปลว่า ใหญ่) นครธม เป็นเมืองหลวงแห่งสุดท้ายและเมืองที่เข้มแข็งที่สุดของอาณาจักรขะแมร์สถาปนาขึ้นในปลายคริสต์ศวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่9 ตารางกิโลเมตร อยู่ทางทิศเหนือของ นครวัดภายในเมืองมีสิ่งก่อสร้างมากมายนับแต่สมัยแรกๆ และที่สร้างโดยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7และรัชทายาท

    ใจกลางพระนครเป็นปราสาทหลักของพระเจ้าชัยวรมันเรียกว่า ปราสาทบายน และมีพื้นที่สำคัญอื่น ๆ รายล้อมพื้นที่ชัยภูมิถัดไปทางเหนือจุดเด่นที่สุดคือทางเข้าด้านใต้ ที่มีลักษณะเป็นหน้า 4 หน้า ก่อนจะเข้าสู่บริเวณนี้ จะเป็นแถวของยักษ์ (อสูร) ทางด้านขวาและเทวดาทางด้านซ้าย เรียงรายแบกพญานาคอยู่สองข้างสะพานเมื่อเข้าสู่ใจกลางนครธมจะพบสิ่งก่อสร้างต่างๆบริเวณประตูด้านใต้นี้ได้รับการอนุรักษ์ฟื้นฟูไว้ได้ดีกว่าบริเวณอื่น ๆ อีก 3ด้าน

    ปราสาทบายน ปราสาทบายนอยู่ในบริเวณใจกลางของนครธมสร้างในปีพุทธศตวรรษที่ 18 รัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เป็นศิลปะแบบบายน ศาสนาพุทธนิกายมหายานปราสาทบายนเป็นปราสาทหลวงประจำรัชสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปราสาทบายนถูกสร้างโดยการนำหินมาวางซ้อนๆกันขึ้นเป็นรูปร่าง แม้จะเป็นปราสาทไม่ใหญ่โตเท่านครวัดแต่มีความแปลกและดูลี้ลับทั้งปราสาทมีแต่ใบหน้าคน

    หากขึ้นไปยืนอยู่ภายในปราสาทนี้ไม่ว่ามุมไหนก็หาได้รอดหลุดพ้นจากสายตาเหล่านี้ได้เลยคนส่วนมากเชื่อกันว่ายิ้มบายนคือการจำลองใบหน้าของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มาไว้บนยอดปรางค์ทั้ง 4 ทิศโดยสายตาที่มองลงต่ำนั้นเป็นการมองราษฎร ส่วนจำนวนปรางค์ 54 ยอดที่มีแต่ดั้งเดิมนั้นแทนจำนวนจังหวัด54 จังหวัดที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ปกครองในยุคนั้น

    ปราสาทตาพรหม ปราสาทตาพรหมจัดได้ว่าเป็นวัดในพุทธศาสนาและเป็นวิหารหลวงในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7 ทางเข้าประกอบด้วยโคปุระชั้นนอกและชั้นในบริเวณผนังที่อยู่เชื่อมระหว่างโคปุระชั้นนอกและชั้นในมีการสลักภาพตามคติธรรมของพุทธศาสนานิกายมหายาน

    ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1729 เพื่ออุทิศให้แก่พระราชมารดาของพระเจ้าชัยวรมันที่7 คือพระนางชัยราชจุฑามณีผู้เปรียบประดุจกับพระนางปรัชญาปรมิตาซึ่งหมายถึงเมื่อพระองค์เป็นอวตารของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรพระราชมารดาของพระองค์จึงเปรียบดังพระนางปรมิตาเช่นกัน

    กลางวัน        บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร

    นครวัด หรือปราสาทนครวัดกันสักครั้ง ปราสาทนครวัด เป็นสิ่งก่อสร้างทางศาสนาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ที่ถูกบันทึกให้เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ"เมืองพระนคร" ตัวเทวสถานถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมร

    ในสมัยที่ยังรุ่งเรือง ในอาณาบริเวณปราสาทอันกว้างใหญ่ได้ถูกก่อสร้างด้วยหินทรายขนาดมหึมา นำมาเรียงรายต่อกันและสลักลวดลายอย่างงดงามกว่าจะได้หินมาแต่ละก้อนต้องชักลากมาจากเขาพนมกุเลน ชึ่งอยู่ห่างออกไปถึง 50 กิโลเมตร ต้องใช้แรงงานคนและสัตว์มานับไม่ถ้วน ใช้ช่างแกะสลัก 5,000คน ใช้เวลาสร้างร่วม 100 ปี

    การจะนำหินขนาดใหญ่แต่ละก้อนมาสร้างเป็นปราสาทที่งดงามได้ขนาดนี้จะต้องมีการวางผังแบบแปลนในการก่อสร้างมาเป็นอย่างดีซึ่งถือได้ว่าเป็นฝีมือของวิศวกรชั้นเอกในสมัยนั้นกันเลยทีเดียว ตัวปราสาทสูง 60 เมตร ตั้งอยู่บนฐานสูงตามคติของศูนย์กลางจักรวาล ล้อมรอบด้วยปราสาท 5หลัง มีคูน้ำล้อมรอบตามแบบอย่างของมหาสมุทรที่ล้อมรอบเขาพระสุเมรุกำแพงด้านนอกล้วนแต่เป็นงานแกะสลักเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระเจ้าสุริยวรมันที่2 และเรื่องราวจากวรรณคดีเรื่อง รามายณะ

    รูปแกะสลักที่มีชื่อที่สุดก็คือรูปที่เทวดากับอสูรกวนเกษียรสมุทรด้วยเขาพระสุเมรุและยังมีรูปแกะสลักนางอัปสรอีกถึง 1,635 นาง ที่ทั้งหมดแต่งกายและทรงผมไม่ซ้ำกันเลยลองหาดูกันให้ดีๆ จะมีนางอัปสรที่ยิ้มเห็นฟันเพียงองค์เดียวเท่านั้นปราสาทนครวัดได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี จนเป็นศูนย์กลางทางศาสนาที่สำคัญเพียงแห่งเดียวที่ยังเหลือรอดมาจนถึงปัจจุบันและได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของประเทศกัมพูชา

    อังกอร์ ไนท์ มาร์เก็ต (ANGKOR NIGHTMARKET) อิสระให้ท่านได้เที่ยวชมพร้อมเลือกซื้อสินค้าพื้นเมืองที่มีให้เลือกมากมายหลายอย่างได้ตามอัธยาศัย 

    เย็น              บริการอาหารณ ภัตตาคาร 

    จากนั้นนำท่านสู่ที่พัก พักที่ ROYAL EMPIREHOTEL //ANGKOR HOLIDAY HOTELหรือเทียบเท่า


    วันที่ 3 : ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าไหม– ศูนย์ฝึกวิชาชีพ – วัดพระพรหมรัตน์ - ร้านเครื่องเงิน– ตลาดซาจ๊ะ –  สนามบินเสียมเรียบ – ดอนเมือง

    เช้า               บริการอาหารเช้าณ ห้องอาหารของโรงแรม

    ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าไหม+ศูนย์ฝึกวิชาชีพ ศูนย์รวมหัตกรรมที่จัดทำขึ้นเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงงานหัตถกรรมทอผ้ารวมถึงการสืบทอดศิลปกรรมโบราณให้ของคนท้องถิ่นให้ดำรงอยู่สืบต่อไป

    วัดพระพรหมรัตน์ ภายในพระวิหารของวัดมีพระนอนศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างด้วยกาบเรือของพระชื่อดังที่ชื่อว่า Preah Ang Chong Han Hoy ที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวพนมเปญ และ กัมพูชา มาตั้งแต่สมัย พ.ศ.1900


    ภายในโบสถ์มีพระประธานที่ถูกสร้างอย่างเรียบง่ายแต่หากเดินไปทางด้านหลังพระองค์ใหญ่นั้น นักท่องเที่ยวก็จะได้พบพระนอนที่นอนซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอย่างน่าเลื่อมใสภายนอกอาคารของวัดมีศาลารายที่ประดับตกแต่งด้วยภาพพุทธประวัติซึ่งเป็นศิลปะแบบใหม่ที่ศิลปินแนวใหม่ของกัมพูชาสร้างสรรค์ขึ้นมีเอกลักษณ์แตกต่างตรงเล่นความนูนต่ำที่ยื่นออกมาจากฝาผนังให้ดูมีมิติมากขึ้นนั่นเอง


    กลางวัน      บริการอาหาร ณภัตตาคาร  


    ตลาดซาจ๊ะ แหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดเป็นตลาดเก่าแก่ ที่มีอาคารร้านค้าที่สร้างในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครองรูปทรงทางสถาปัตย์ส่วนมากจึงออกไปแนวยุโรป ในตลาดซาจ๊ะ จะขายที่ระลึกที่เป็นสินค้าพื้นเมืองของเขมรด้านหน้าตลาดจะเป็นผลิตภัณฑ์ของแห้งจากโตนเลสาบ ได้แก่ปลากรอบ หรือปลาย่างปลาช่อนแดดเดียว กุนเชียง และปลาที่อยู่ในโถ เช่นปลาร้า ปลาหมักชนิดต่างแบบเขมร 


    ลึกเข้าไปในตลาดจะเป็นตลาดสด ขายพวกพืชผักและผลไม้ต่างๆบางอย่างก็นำเข้าจากไทย ส่วนอีกซีกหนึ่งจะเป็นตลาดปลาสดๆที่มาจากทะเลสาบโตนเลมีปลาหลากหลายชนิดมาก เด่นๆ ก็มีปลาเนื้ออ่อน ปลาดุก ปลากด ปลาเทโพ ปลาสวายช่วงเย็นๆบริเวณหน้าตลาดจะคึกคักไปด้วยคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวหากมีเวลาก็น่าจะใช้บริการรถสามล้อของเขมรพาเที่ยวรอบเมืองเสียมเรียบในราคาไม่แพงนักอีกด้วย


    สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเสียมเรียบ

    16.35 น.      เหินฟ้าสู่เมืองไทย โดยสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ FD 615 (ใช้เวลาบินประมาณ1 ชั่วโมง 15 นาที)

    17.50 น.      เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจ (เวลาบินสำหรับวันที่27 ตุลาคม 2562 - 28                      มีนาคม 2563)

    15.15 น.      เหินฟ้าสู่เมืองไทย โดยสายการบินแอร์เอเซีย เที่ยวบินที่ FD 615(ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที)

    16.25 น.       เดินทางถึงเมืองไทย พร้อมกับความประทับใจ(เวลาบินสำหรับวันที่29 มีนาคม 2563 – 24                       ตุลาคม 2563)


    สายการบิน : แอร์เอเซีย


    ข้อมูลใส่ในตารางสรุปรายละเอียดทัวร์ :

    สถานที่เที่ยว

    กิจกรรม

    Shopping

    วันที่ 1

    ล่องเรือโตนเลสาบ,โชว์การแสดงชุดระบำอัปสร

    -

    วันที่ 2

    -

    อังกอร์ ไนท์ มาร์เก็ต

    วันที่ 3

    -

    ร้านเครื่องเงิน,ตลาดซาจ๊ะ


    อาหาร :

     

    เช้า

    กลางวัน 

    เย็น

    วันที่ 1

    -

    มี

    มี

    วันที่ 2

    มี

    มี

    มี

    วันที่ 3

    มี

    มี

    -

                   

    ข้อมูล SEO

    เมือง : เสียมราฐ,อังกอร์,โตนเลสาบ,เสียมเรียบ,ศาลองค์เจ๊กองค์จอม,ชมโชว์การแสดงชุดระบำอัปสร,ปราสาทบันทายศรี,นครธม,ปราสาทบายน,ปราสาทตาพรหม,นครวัด,อังกอร์-ไนท์-มาร์เก็ต,angkor-night-market,ศูนย์หัตถกรรมทอผ้าไหม-ศูนย์ฝึกวิชาชีพ,วัดพระพรหมรัตน์,ตลาดซาจ๊ะ,ตลาดซาจ๊ะแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุด

     

Views