จัดเรียงและเขียน โดย กฤษฎ์ พรหมใจรักษ์
ฤดูกาลของเฟสติเวิลกำลังจะมาถึงอีกครั้ง เหมือนฟ้าหลังฝนที่สวยงามเสมออันมาพร้อมกับอากาศเย็นสบาย ในภูมิภาคอีสานบ้านเฮา ก็มีเฟสติเวิลให้เลือกไปมากมายซึ่งหลายๆ ที่ก็เริ่มประกาศขายบัตรกันแล้ว หลังจากที่พวกเราร่วมฝ่าฟันพายุ (พายุจริงๆ ฝนตกบ้านน้ำท่วม ที่ปีนี้มีเยอะมาก) รวมถึง พายุทางเศรษฐกิจอันมีผลกระทบการโรคภัยและวิกฤตทางการเมืองที่ยังไม่คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อเสมอว่าทุกคนสมควรที่จะได้พักเบรก สมควรที่ได้รับความสุข ได้รับความทรงจำดีๆ ไม่ว่าโลกจะเหวี่ยงความชิบหายมาใส่พวกเราขนาดไหน วันนี้ผมจึงอยากขออนุญาตคัดสรรบทเพลงที่ผมชอบและเห็นว่าควรค่าแกการบอกต่อของเหล่าศิลปินที่จะมาทำการแสดงในงาน "หอบสาด ฟังโฟล์ค" เทศกาลดนตรีโฟล์ก บรรยากาศอีสาน ที่กำลังจะเกิดในวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม 2020 ที่ ตลาด Hello โคราช (บ้านเกาะ) จังหวัด นครราชสีมา ซึ่งไลน์อัพน่าสนใจที่เดียว รวมถึงศิลปินหลายๆ วงที่มาก็ใช่ว่าจะหาโอกาสได้ดูกันบ่อยๆ อีกด้วยนะ อะลองฟัง
WHATFALSE - อะไรเอ่ยสวยกว่า...ทะเล
“ทะเลตอนนี้หมดความหมาย สายตาของฉันมอบให้เธอ
แก้มนิดจมูกหน่อยชวนพร่ำเพ้อ น้ำเสียงของเธอเพราะจับใจ”
“WHATFALSE” ครอบครัวดนตรีจากจังหวัด ราชบุรี ที่พวกเขานิยามซาวน์ดนตรีของตัวเองว่าเป็นแนว ‘Retro Pop’ โดย บทเพลงของพวกเขาฟังแล้วรู้สึกได้เลยว่ารับอิทธิพลมาเต็มๆ มาจากเพลงป๊อปไทยยุค 60’s - 70’s และ ซาวน์แบบบับเบิลกัมพ์-ป๊อป อาทิ อย่าง “Simon & Garfunkel” มาเต็มๆ ทั้งการเลือกใช้ทำนอง คำร้อง และเอกลักษณ์ของเสียงออร์แกน ที่ให้ความรู้สึกละมุน ปะหนึ่งว่ามันบทเพลงได้นำพาเราเข้าไปอยู่ในภาพยนตร์ฟีลกู๊ดที่ใครๆ ต่างก็หลงรักอย่าง “แฟนฉัน” อีกหนึ่งข้อเท็จจริงอันน่าสนใจของวงดนตรีนี้คือ ที่ผู้เขียนใช้คำว่าครอบดนตรีในการเกริ่นเข้าเนื้อหาเป็นเพราะว่าสมาชิกในวงเป็น “ครอบครัว” กันจริงๆ อันประกอบไปด้วย “คุณพ่อหรั่ง - สุรางค์ จิตรศาลา (เบส)”, “มาร์ค - สุรวัฒน์ จิตรศาลา (ร้องนำ, กีต้าร์, คีย์บอร์ด)”, “ม่อน - สุรนารถ จิตรศาลา (กีต้าร์)” และ เพื่อนบ้าน “ต้น - พิพัฒน์ ศิริอินทร์ (กลอง)” ผมว่านี่ก็อาจจะเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกำได้รู้สึกถึงความอบอุ่นและละมุนในบทเพลงของพวกเขา
“อะไรเอ่ยสวยกว่า...ทะเล” ที่เลือกเพลงนี้มาแนะนำหลักๆ ไม่ใช่อะไรเลยนอกจาก “อาร์ทเวิค” (ไม่ช่ายยยย) มันเป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกฟีลกู๊ดมากๆ จริงๆ ฟังแล้วรู้สึกเขินแทนคนที่เขาเขียนให้เลย เหมาะกับการไปเปิดแล้วนั่งเพลงริมทะเลบางแสนตอนเช้าตรู่กับใครสักคน
ฮิวโก้ & ใหม่ สิบล้อ - รักเป็นเช่นใด
“หากความรัก ทำให้สุขสม ก็อยากไขว่คว้ามาชื่นชม
แต่ความรัก ทำให้อกตรม ต้องจมน้ำตากันไป”
ผมขอคาดการณ์เอาเองว่าทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “Hugo” หรือ “ฮิวโก้ - จุลจักร จักรพงษ์” ศิลปินไทยคนแรกที่สามารถปักธงไทยลงไปในแผนที่ดนตรีโลกอย่างแท้จริง แต่สำหรับคนที่โตไม่ทัน สมัยเป็นบ่าวพี่แกกับเพื่อนๆ เคยทำวงดนตรีร๊อกแอนด์โรลด้วยกันในนามว่า “สิบล้อ” ซึ่งเป็นที่ฮือฮาพอสมควรในช่วงต้นยุค 2000’s กับการพลิกบทบาทของพี่แกจากเดิมที่ผู้คนจะรู้จักฮิวโก้ในฐานะพระเอกลูกครึ่งและนายแบบ สู่การเป็นฟอร์นแมนวงร๊อกมาดจิ๊กโก๋ พูดถึงผลงานของวง “สิบล้อ” ถือว่าค่อนข้างไปได้สวยพอสมควรเลยทีเดียวมีเพลงฮิตที่ฮิตแบบที่ร้องกันได้ทั้งบ้านทั้งเมืองอย่าง “ความลับในใจ” และมีเส้นทางอาชีพที่มั่นคงยาวนานร่วม 10 ปี ได้เดินทางตระเวณเล่นดนตรีมาทั่วประเทศและได้ทัวร์กับวงเพื่อชีวิตระดับตำนวนอย่าง “คาราบาว” และ น้าปู “พงสิทธิ์ คำภีร์” ก่อนที่ฮิวโก้จะตัดสินใจยุบวงเพื่อไปตามฝันในการเป็นศิลปินที่ต่างประเทศ
การมาเยือนเมืองโคราชครั้งนี้เป็นการมาแบบเอ็กครูซีฟของ “Hugo” ในฐานะ “ฮิวโก้ & ใหม่ สิบล้อ” ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะเล่นผลงานเดี่ยวของทั้งสองแล้ว ยังไงก็ต้องมีการเล่นเพลงของ “สิบล้อ” ให้แฟนๆ หายคิดถึงกันแน่นอนซึ่งหาฟังไม่ได้ไม่บ่อยๆ ผู้เขียนขอแนะนำเพลง “รักเป็นเช่นใด” อีกหนึ่งเพลงฮิตของวงจากอัลบั้มชุดที่ สอง “มนต์รักสิบล้อ” เพราะชอบเป็นการส่วนตัว
บ.บางพระ AKA วิน ศรีราชาร๊อกเกอร์ - ตากแดด
“อยากจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดกลายเป็นหมา
วัฏฏะสงสารไม่เคยดับสิ้นสุดเขตปรารถนา
อย่าอ่อนล้าแม้ปัญหาใดใด อย่าหวั่นไหว”
ถ้าพูดนึงซีนดนตรีเร็กเก้ในบ้านเรา คงเป็นที่ประจักษ์แจ้งแล้วว่าจนถึงวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก “ศรีราชาร๊อกเกอร์” ถ้าวัดกันตามเจอเนอร์เรชั่นคงไม่มีใครใหญ่เกินพวกเขา คณะดนตรี 11 ชีวิต ภายใต้การนำของ “บ. บางพระ” หรือ ในอีกชื่อไม่เป็นทางที่คนมักเรียกกันจนติดปาก “วิน สีชา” ที่จะมาร่วมขับกล่อมบทเพลงแห่งสันติภาพในรูปแบบอคูสติด-ดั๊บให้ทุกคนฟัง เป็นอีกเโชว์น่าสนใจและน่าจับตาชมในงาน “หอบสาด ฟังโฟล์ค” วิน จะถ่ายทอดบทเพลงเขาตัวในฟอแมต์ดังกล่าวออกอย่างไร
“ตากแดด” คือซิงเกิ้ลแรกจาก “WS” อัลบั้มเต็มชุดล่าสุดของวง “ศรีราชาร๊อกเกอร์” ที่อยากแนะนำเพราะชอบเอ็มวีที่ capture วิถีชีวิตและบรรยากาศของอินเดียได้ดี จากเท่าที่ตัวผู้เขียนเองเคยไปสัมผัสชีวิตคนอินเดียที่อินเดียส่วนใหญ่คือ แร้นแค้น แต่พวกเขาก็ไม่เคยเลยที่ปราศจากร้อยยิ้ม ความสนุก และอารมณ์ขัน ซึ่งแมทช์กันพอดีกับเนื้อของเพลง ‘ตากแดด’ ที่เขียนเกี่ยวกับความพยายามหลุดพ้นจากวัฎสงสาร ซึ่งผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้ฟังเพลงนี้ในรูปอคูสติกในงานครั้งนี้ ซึ่งถ้าเขาหยิบมาเล่นก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะออกมาท่าไหน
Thada - เวลาที่ฟ้าเปลี่ยน Feat. Rie Kubota
“แต่เวลาไม่เคยจะหยุดพักเลย บนฟ้าเดี๋ยวก็คงจะเปลี่ยนสี”
ดูโอ้-โฟล์ก จากจังหวัด เชียงใหม่ ที่ผู้เขียนเคยเขียนถึงไปแล้วครั้งหนึ่งจากการที่ได้ไปดูงาน “Sit On The Poon” ตอนนั้นสารภาพตามตรงว่ายังไม่เคยฟังเพลงของวงมาก่อนที่จะไปชม และก็รู้สึกค่อนข้างเฉยๆ กับการแสดงของพวกเขาวันนั้น เลยไม่ได้ไปหาฟังต่อ ซึ่งตอนทำรีเสิร์ชผู้เขียนว่าพบว่า “ธาดา” ศิลปินที่มีคนพูดถึงบ่อยบนโซเชี่ยล แถมทำอะไรออกมาขายก็ขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็ว และพอกดฟังเพลงนี้เท่านั้นแหละ โอโห้ ทำไมมันเพราะจังวะ ขัดกับการพรีเซนต์ตัวเองของวงที่เหมือนจะเอาฮาตลอดเวลา สุดจะ contrast กับผลงานเพลงของวง
“เวลาที่ฟ้าเปลี่ยน” เป็นบทเพลงที่สวยมาก ฟังแล้วทำให้นึกถึงท้องฟ้าโพล่เพล้ยามเย็น และการนั่งสนทนากับใครสักคนยามพระอาทิตย์อัสดง การได้เสียงร้องของน้อง “ริเอะ คุโบต้า” มาอยู่ในเพลงยิ่งช่วยเพิ่มความโรแมนติกแบบหวานปนเศร้าไปอีก
The Luis - เจ้าจอมขวัญ
“โอ้แม้เจ้าจอมขวัญ อยู่หนใดหนอแก้วตาของพี่
พี่คอยเจ้าอยู่ตรงนี้ ตรงที่เจ้าเคยสบตา”
“The Luis” วงดนตรีโฟล์กจากสังกัด “Stockhome Records” ค่ายเพลงทางเลือกคุณภาพจากจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ที่สร้างเอกลักษณ์ให้กับซาวน์ของวงด้วยการนำเครื่องดนตรีไทยอย่าง ระนาดเอก ขลุ่ย และกลองแขก มาเล่นร่วมกับเครื่องดนตรีตระวันตกแท้ๆเช่นกีต้าร์โปร่งได้อย่างลงตัวเป็นเนื้อเดียวกัน ผนวกเข้าทำนองร้องการเลือกใช้ภาษาและถ้อยคำสไตล์ที่เราพบมักเห็นในกาพย์ กลอน ทำนองเสนาะและกลิ่นอายของเพลงลูกทุ่งภาคกลางในยุคหนึ่ง ผู้เขียนเคยมีโอกาสได้สองหนุ่มจากกรุงเก่าคู่นี้แสดงสดมาแล้วหนึ่งครั้งถ้วน จึงอยากจะแนะนำบอกต่อว่าควรลองเปิดไปหาดูหาฟังกันสักครั้ง เป็นการผนวกวัฒนธรรมดนตรีจากโลกสองฝั่งที่ลงตัวทีเดียว
สำหรับเรา “เจ้าจอมขวัญ” เป็นเพลงที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ละครพีเรียดหลังข้าวบนช่อง 3 ในซีนที่พระเอกของเรื่องกำลังอารัมภบทถึงคนรักในยามที่จำต้องห่างกันไกลและรอการกลับมาพบกัน ซึ่งผู้เขียนขอหยิบเวอร์ชั่น Live Session บรรยากาศมันดีจริงๆ
Scoots lande - ฉันอยู่กับความจริง
“ฉันโดดเดี่ยวเดียวดายอยู่กลางทะเลไร้ผู้คน นั่งอยู่กับความสับสนไม่มีใคร
เรือตังเกลำน้อยพาฉันนั้นได้ออกไปออกจาก สั่งคมที่วุ่นวายจนหนาวกาย”
“Scoots lande” คณะดนตรีโมเดิร์น-โฟล์ก ที่ได้รับแรงบัลดาลใจมาจากไลฟ์สไตล์และความชอบของ "ปู่ก๋ง ( เพอคัชชั่น )", "อั๋น (กีต้าร์)" และ "ฮาร์ป (ร้องนำ,กีต้าร์)" ที่หยิบสิ่งรอบตัวไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยว หนังที่ชอบ หนังสือที่อ่าน รวมถึงประสบการณ์จริงๆ ของสมาชิกวงมาร้อยเรียงเป็นเรื่องราวผ่านบทเพลง ทำออกมาได้น่าสนใจและ ‘ถึง’ ที่เดียว ถ้าใครชอบฟังงานของศิลปินอย่าง “The Head and The Heart”, “Gregory Alan Isakov” น่าจะถูกใจเพลงของพวกเขาไม่มากก็น้อย
สำหรับที่มาของเพลง “ฉันอยู่กับความจริง” ทางวงได้เขียนเล่าให้ฟังบนหน้ายูทิวป์ของเพลงนี้ว่าดังนี้
“เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจเขียนจากหนังที่ชื่อเรื่องว่า “A D R I F T (รักเธอฝ่าเฮอร์ริเคน)” เอาชีวิตรอดใจกลางมหาสมุทร ตัวเอกเป็นผู้หญิงหนึ่งเดียวที่เหมือนโดนทดสอบความแข็งแกร่ง ทางด้านจิตใจและความรู้สึกมากๆ ในกลางทะเลนั้นเราต่างไม่รู้ว่าเราจะเจอกับอะไรบ้าง ทั้งความเงียบสงัดภาพหลอน และเสียงที่หลอกหลอนเราจากภายใต้ความคิดของเราเองทั้งนั้น แม้แค่เสียงของเราที่ตะโกนออกไปเพื่อร้องขอความช่วยเหลือก็ไม่มี แต่สิ่งสุดท้ายเรารู้สึกได้ว่า ตัวเราเองต่างหากที่ต้องอยู่กับความเป็นจริงให้ได้ ไม่ว่าเราจะเจอกับเหตุการณ์ไหนๆก็ตาม”
ยามราตรี - ฉันคือความฝัน
“หากคืนนี้เธอ มีเรื่องใด ที่เศร้าใจ
ให้ฉัน ได้ช่วยปลอบ ร้องเพลงกล่อม”
“ยานอนหลับ” คือคำอธิบายบนหน้าแฟนเพจเฟสบุ๊กของ “ยามราตรี” ที่ถือเป็นคำอธิบายซาวน์และบทเพลงของวงได้เป็นอย่างเยี่ยมยอดและครบถ้วนจริงๆ บทเพลงของ “ยามราตรี” ถูกออกแบบและสร้างสรรค์เพื่อเป็นซาวน์แทร๊คประกอบช่วงเวลายามค่ำคืนอย่างแท้จริง ด้วยท่วงทำนองที่เนิบช้า เสียงร้องนุ่มๆ สุดปลอบประโลม เหมาะกับการฟังในแสงสลัว หรือได้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว หากใครนอนไม่หลับ ผมว่าเพลงของ “ยามราตรี” จะช่วยทำให้คุณหลับสบายหรืออย่างน้อยก็ไม่เศร้าหรือเหงาจนเกินไปนัก
ศรีนวล - นภา
เอาจริงๆ เพลง “ศรีนวล” ให้มู้ดและโทนคล้ายๆ กับเพลงของ “ยามราตรี” คือมีความเป็นเพลงสำหรับตอนกลางคืนเหมือนกัน ที่แตกต่างคงจะเป็นเฉดของช่วงเวลากลางคืนที่ทั้งสองวงพรีเซนต์ซึ่งมีความแตกต่างกัน โดยส่วนตัว ผู้เขียนรู้สึกว่าบทเพลงของ “ยามราตรี” เป็นเพลงที่เหมาะกับไว้ฟังก่อนนอน นอนฟังบนเตียง หรือสูบบุหรี่ริมระเบียง ในขณะที่งานของ “ศรีนวล” มีความเป็นกลางคืนแบบร้านนั่งชิลล์ นั่งแดกเบียร์ร่ำสุรากับเพื่อนๆ หรือนั่งซึมๆ กระดกเหล้าอยู่ที่หน้าบาร์เงียบๆ คนเดียว ขึ้นอยู่กับว่าใครจะชอบบรรยากาศแบบไหน หรือคืนนั้นเป็นแบบไหน
Fxxk the Air - ภวังค์
“ขอแค่ได้ฝันก็สุขใจเหลือเกิน ที่ได้เจอ เธอในฝัน
มันคือฝันแห่งความสุขยามนิทรา”
หากวัดกันที่เพลงที่บันทึกเสียงในรูปแบบสตูดิโอ ดูเหมือนว่า “Fxxk the Air” น่าจะเป็นวงที่มีดรีกรีที่มีความเป็นร๊อกสูงที่สุดบรรดาไลน์อัพทั้งหมด หรือจะเรียกว่าวงร๊อกได้แบบเต็มปากเต็มคำ แต่พอเลื่อนมาดูหน้าเครดิตพบว่า วงมีสมาชิกเพียงแต่ 2 คน คือคุณ “มาร์ค (ร้องนำ, กีต้าร์)” และ “คุณ ทาโร่ (กีต้าร์)” เป็นที่น่าสนใจว่าพวกเขาจะถ่ายทอดผลงานของตัวในฟอแมตอคูสติกร๊อกได้น่าสนใจแค่ไหน เพราะเวอร์ชั่นออดิโอแต่ละเพลงทำออกมาเป็นเพลงร๊อกที่ละเมียดทีเดียว
__________________________________________________________________________________________________
ทองไล ทินสาร
Present
"หอบสาด ฟังโฟล์ค"
Anniversary 3 year ทองไล ทินสาร
งานดนตรีโฟล์ค บรรยากาศอีสาน
หอบสาด ปูเสื่อ กลางเดิ่น ดูดาว
- ฮิวโก้ & ใหม่ สิบล้อ
- วิน สีชา
- What false
- ยามราตรี
- ธาดา
- Scootlands
- ศรีนวล
- The Luis
-Fxxk the air
วันที่ 3 ต.ค. 63 นี้
ที่ ตลาด Hello โคราช(บ้านเกาะ)
บัตร ราคา350.-
Earlybird 250.- (วันนี้ - 25 ก.ย.2563)
โอนเข้าบัญชี ธนาคารทหารไทย
เลขที่บัญชี 650-2-05971-7
วาธิณี วรรณกัมมิโก
20+
งานดี ดนตรีโดนใจกลางเมือง
แบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ นะจ๊ะ
อย่าพลาด!!!.
.
ปล. เตรียมเสื่อ เตรียมสาด เก้าอี้สนาม มากันเด้อ
ถ้าไม่เอามา หน้างานมีขาย!!
.
#งานดนตรี #เทศกาลดนตรี #ดนตรีโฟล์ค
#เทศกาลดนตรีโคราช #หอบสาดมาฟังโฟล์ค #โคราช #นครราชสีมา
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in