เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ชีวิต 1 ปีในญี่ปุ่น#8e6ab9
BBQหน้าร้อนกับเท้าที่พังไปแล้ว
  • เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โรงเรียนได้จัดงานบาร์บีคิวหน้าร้อนโดยสามารถเลือกที่จะเข้าร่วมหรือไม่เข้าร่วมก็ได้ตามอัธยาศัย คลาสเรามีแค่เรากับโอปป้าเกาหลี แค่2คนที่เข้าร่วม (แต่สุดท้ายก่อนถึงวันงานโอปป้าก็มานั่งหาคนไปแทนเพราะไม่อยากไป555555555)
    ซึ่งงานครั้งนี้โรงเรียนได้จำกัดให้สมัครได้แค่ 30 คนเท่านั้น แต่เนื่องจากมีค่าสมัครเพิ่มเติมอีกคนละ 2,000 เยน ทำให้มีนักเรียนสมัครกันไม่ถึงจำนวนที่จำกัดไว้ด้วยซ้ำค่ะ...

    เมื่อกลางเดือนจนถึงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาอากาศร้อนมากๆ แทบจะเหยียบ 40 องศากันเลยทีเดียว ส่วนReal Feel ก็ทะลุ40กันไปแล้วเพราะประเทศญี่ปุ่นมีความชื้นในอากาศมาก ทำให้อบไอน้ำกันไปถ้วนหน้า รู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นติ่มซำหรือไม่ก็ซาลาเปาขึ้นไปทุกวันๆ

    แต่ด้วยความโชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ วันก่อนหน้าBBQแค่วันเดียว มีข่าวแจ้งว่าพายุไต้ฝุ่นจะเข้าโตเกียวช่วงบ่าย-เย็นวันเสาร์ ทำให้ช่วงวันศุกร์มีเมฆมาก กลายเป็นอากาศกำลังดีเหมาะสำหรับทำกิจกรรมกลางแจ้ง

    เฮ้ออ ตอนแรกนึกว่าตัวเองจะกลายเป็นบาร์บีคิวไปซะแล้ว.... รอดตัวไปรอบนี้

    โดยครั้งนี้โรงเรียนได้เปลี่ยนที่จัดงานบาร์บีคิว มาอยู่ที่สวนสาธารณะริมทะเล Kasai Rinkai Koen  (葛西臨海公園) อยู่ใกล้ๆกับ Disney land ถ้าใครมาเที่ยวดิสนี่ย์ก็อย่าลืมแวะมาได้นะคะ สวนค่อนข้างกว้างพอสมควร มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำและชิงช้าสวรรค์ให้นั่งด้วย

    ทางเดินยาวในสวน ถ้าฤดูใบไม้ร่วงแล้วใบไม้เปลี่ยนสีต้องสวยมากแน่ๆ


    สะพานที่ใช้ข้ามไปโซนBBQ


    พอถึงงานบาร์บีคิวของโรงเรียน ก็ทักทายเพื่อนๆและอาจารย์ตามปกติ หยิบอาวุธพร้อมกาย หลังจากนั้นก็ลงมือจ้วงอย่างเอร็ดอร่อย
    แต่ด้วยความที่งานจัดกลางแจ้ง และอยู่ในสวนสาธารณะ ทำให้พื้นบางส่วนไม่เท่ากัน ไม่ได้เรียบแบบพื้นในตึก และด้วยความโง่ของเราเองที่ใส่รองเท้าแตะพื้นสูงมา เมื่อเดินอย่างไม่ระวังก็เลยทำให้ล้มเท้าพลิกไปตามระเบียบ


    ที่เลือกซื้อรองเท้าแตะพื้นสูงเพราะเวลาฝนตกน้ำจะได้ไม่เปียกเท้า ไม่คิดว่าจะทำพิษแบบนี้...

    เวลาที่อ่านโชวโจวมังงะ (การ์ตูนตาหวาน) ก็สงสัยมาตลอดว่านางเอกมันสำออยใช่ไหม เท้าพลิกแค่นี้ทำไมถึงจะเดินไม่ได้ ถึงกับต้องอุ้มแทนเลยเหร๊อออ
    มารู้ซึ้งเอาก็วันนี้นี่แหละ ว่าถ้าล้มแรงๆ...มันเดินไม่ได้จริงๆ โฮฮฮฮ

    พอล้มเสร็จก็รีบเดินไปนั่งที่เก้าอี้เพราะเท้ามันเจ็บมากกว่าปกติ ตอนนั้นก็เริ่มเอะใจแล้วว่า เอ๊ะ เท้าพลิกล้มเด๋อๆมาทั้งชีวิต ไม่เคยเจ็บขนาดนี้นะ แต่เอาน่า..เดี๋ยวก็หาย
    ผ่านไป20นาที ทนไม่ไหว สุดท้ายต้องบอกคุณแฟนว่าเราเท้าพลิก ปวดมาก
    คุณชายเลยอุส่าห์ไปหาถุงเย็นมานั่งประคบให้ แต่ก็ไม่ช่วยให้ความเจ็บลดลงไปสักเท่าไหร่

    พอถึงเวลาเลิกงาน อาจารย์เรียกให้ทุกคนไปรวมตัวกันฝั่งทะเลเพื่อถ่ายรูปรวมก่อนกลับ
    ตอนแรกคิดว่าตัวเองน่าจะเดินไปได้ แต่เดินได้2-3ก้าวก็อยากยอมแพ้แล้ว แต่แฟนก็อุส่าห์ช่วยพยุงจนไปถ่ายรูปหมู่สำเร็จจนได้ต้องขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ *cry*

    พื้นมันชันจริงๆนะ ถึงเราจะเด๋อแต่ก็ไม่ได้เด๋อที่พื้นเรียบนะฮืออ

    ทว่าสิ่งที่กังวลที่สุดไม่ใช่การถ่ายรูปหมู่ แต่คือการกลับบ้านนั่นเองค่ะ...
    ฉันจะกลับด้วยเท้าแบบนี้ได้ยังง๊ายยย?!
    กว่าจะเดินจากกลางสวนสาธารณะ (สวนดันใหญ่อีก โอ้ย) ไปถึงสถานี กว่าจะเดินเปลี่ยนสถานี แล้วต้องเดินจากสถานีกลับบ้านอีก แค่คิดก็อยากจะร้องไห้แล้วค่ะตอนนั้น
    ทันใดนั้นก็มีเสียงสวรรค์ดังขึ้นมา..

    "ยูจีนซังเจ็บเท้าใช่ไหมครับ ดูท่าทางเดินลำบากมากเลยนะ วันนี้ผมกับภรรยาขับรถกันมาเอง เดี๋ยวผมขับรถไปส่งคุณที่บ้านแล้วกัน"
    พออาจารย์ประจำชั้นของแฟนเห็นเราเจ็บเท้าก็เดินเข้ามาเสนอให้ความช่วยเหลือโดยไม่ลังเล แถมภรรยาของอาจารย์ก็ยังอุตส่าห์หาน้ำแข็งมาให้ประคบเท้าไปจนถึงบ้านด้วยอีกต่างหาก รู้สึกอยากจะขอบคุณจนไม่รู้ว่าจะขอบคุณยังไงเลยค่ะTT
    ถ้าอาจารย์คนนี้ไม่มาส่ง เราจินตนาการภาพตัวเองไม่ออกจริงๆว่าจะกลับถึงบ้านได้ไหม ไม่รู้เลยว่าจะกลับถึงบ้านมาด้วยสภาพที่แย่ขนาดไหนถ้าอาจารย์ไม่มาส่ง 

    5ชั่วโมงต่อมาหลังจากที่ล้ม ก็ยิ่งอดคิดไม่ได้ว่าเท้าตูพังไปแล้วฮือออ

    เท้าบวมแล้วก็เขียวช้ำมาก ต้องคอยเอาน้ำแข็งประคบไม่ให้มันบวมไปมากกว่านี้

    ผ่านมาคืนนึงแล้วก็ยังเดินไม่ได้เหมือนเดิม ต้องคลานไปไหนมาไหนในห้องแทน...
    โชคดีที่ตอนนี้ปิดเทอมหน้าร้อนโดยสมบูรณ์แบบแล้ว ทำให้มีเวลาให้พักเท้าได้อีกนิดหน่อยก่อนที่จะไปเที่ยวปิดเทอมหน้าร้อน
    ภาวนาว่าขอให้หายให้ทันก่อนเที่ยวเถ๊อะะ สาธุ๊

    นกพิราบในสวนรุมกันแย่งเนื้อที่ตกพื้น

    Isopod ที่เจออยู่ริมทะเล

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in