ต้นเดือนที่ผ่านมาฉันกลับบ้าน ด้วยสองภารกิจหลัก
หนึ่ง ไปงานแต่งเพื่อนที่คบกันมานาน สองไปงานวิ่งเขาชะโงกซุปเปอร์ฮาล์ฟมาราธอนที่เว้นจากการจัดมาสองปีเพราะเจ้าโควิดตัวร้าย
.
เขาชะโงกซุปเปอร์ฮาล์ฟมาราธอน 65งานวิ่งลำดับที่ 3 ของปีนี้ (งานแรกบางแสนสิบ งานที่สองขุนด่านมาราธอน)สำหรับคุณผู้อ่านที่กำลังอ่านอยู่จนถึงตรงนี้ ฉันต้องขอออกตัวก่อนว่า
ฉันเป็นคนวิ่งไม่เก่งที่อยากจะวิ่งเก่งค่ะ
แต่ในสิ่งที่กำลังจะเขียนต่อไปนี้ ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับเทคนิคการวิ่ง
มันเป็นเพียงบันทึกความรู้สึกลึกซึ้งของฉันที่มีการวิ่งที่สนามแห่งนี้
.
ฉันเป็นคนนครนายกค่ะ แต่ถ้าจะให้พูดจริงๆ ฉันว่าฉันเป็นคน จปร มากกว่าเป็นคนนครนายก
ถ้าถามฉันเรื่องเส้นทางในนครนายกฉันไม่รู้มากสักเท่าไหร่ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรกับพื้นที่นี้
แต่ถ้าถามถึง จปร ฉันตอบได้ทุกเส้นทางและแทบจะทุกเรื่องราวเลยล่ะค่ะ
.
ถ้าจะพูดถึงสนามวิ่งเขาชะโงก
ตั้งแต่จำความได้ทุกปีจะมี 1 วันที่ฉันจะต้องตื่นขึ้นมาชะโงกระเบียงหลังบ้าน
ดูนักวิ่งวิ่งผ่านเส้นทางหลังบ้านฉัน
.
ฉันเกิดที่ รพ จปร และเติบโตในแฟลตของโรงเรียนนายร้อย จปร มันเป็นความทรงจำเก่าเก็บในวัยเยาว์ ฉันผู้ไม่เคยออกกำลังกายเลยตั้งแต่ 0-24 ปี (เริ่มออกวิ่งตอนอายุ 25) มีความสงสัยอยู่ตลอดว่าทำไมคนต่างถิ่นถึงอยากจะมาวิ่งที่บ้านของฉันกัน แต่ก็ต้องเฝ้าดูตลอด อาจจะตื่นไม่ทันคนแรกแต่รับรองว่าดูจนหมดระลอกสุดท้ายในช่วงสายๆแน่นอน ตอนแรกก็ดูเพราะสงสัย แต่พอเติบโตขึ้นก็รู้สึกว่า มันเป็นหน้าที่ของเจ้าบ้านอย่างฉันที่ต้องให้กำลังใจนักกีฬาสิ ดังนั้นฉันจึงตื่นมาดูทุกปี
จนวันนึงที่พ่อเกษียณและฉันต้องย้ายออกมาจาก จปร ฉันไม่ได้เห็นภาพนั้นอีกต่อไป ภาพนักวิ่งที่วิ่งผ่านหลังบ้านฉัน ไม่ได้ถึงกับเศร้าแต่ก็ต้องยอมรับว่าคิดถึงภาพและบรรยากาศเหล่านั้น
.
ฉันเติบโตขึ้นและเริ่มเดบิวต์เข้าสู่วงการวิ่ง ฉันพาตัวเองมากลับมาที่สนามแห่งนี้
เปลี่ยนตำแหน่งตัวเองจากผู้ชมลงไปเป็นผู้เล่น.ทุกเส้นทางของสนามนี้มีความทรงจำของฉันอยู่ ฉันผูกพันกับมันมาก ทุกก้าวที่ได้วิ่งไปตั้งแต่เริ่มที่กองบัญชาการ ภาพฉันในวัยเด็กใส่ชุดนักเรียนไปเรียนโครงการเสาร์ประทีปที่เหล่านักเรียนนายร้อยจัดขึ้น หรือภาพที่ฉันตะลอนขี่จักรยานเล่นกับเพื่อนวัยเด็กก็ซ้อนทับขึ้นมา.ตอนประมาณกิโลที่ 7 ผ่านหลังบ้านของฉัน ผ่านจุดที่ฉันในวัยเยาว์เคยเป็นผู้ยืนดูอยู่หลายปี แต่วันนี้ฉันเป็นผู้เล่นที่มีฉันในวันเก่ายืนชะเง้อชะแง้อยู่ที่ระเบียงแฟลตคอยดูอยู่.กิโลที่ 8-9 คือเส้นทางที่พ่อจะขี่จักรยานไปทำงาน เส้นทางนั้นมันคือเส้นทางของพ่อ ภาพพ่อผอมกระหร่องขี่จักรยานเสือหมอบแฮนด์สีเหลืองไปตามเส้นทางนั้นยังชัดเจน.สนามนี้ก็ยังเป็นสนามเดียวที่ฉันคิดไว้ว่าจะมาวิ่งให้ได้ในทุกปี ฉันบอกทุกคนเสมอว่า สนามนี้สวย เป็นสนามที่ดี ไม่มีเส้นทางไหน ระยะไหนของสนามนี้ที่ไม่สวย จปร คือที่ที่สวยมาก เป็นที่ที่ดีต่อใจเสมอ อากาศเย็นๆ เส้นทางอาจะไม่เหมาะกับการทำ pb เท่าไหร่ แต่รับรองว่าจะไม่เสียใจที่ได้มา.
เวลาสนามนี้ยังไม่ sub 1 (1:00:42 /pace 5:47)แต่มีพัฒนาการที่ดีสำหรับการวิ่งได้ที่ 19 ของรุ่นอายุ ที่ 106 ของ gender ได้ใบประกาศมาด้วย หวังว่าปีหน้าจะฉันจะยังวิ่งได้อยู่และวิ่งได้ดีกว่าวันนี้
จบ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in