เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
dear me,life is not daijoubu
บ่เป็นหยัง, บ่จากมื้อนี้ มื้อหน้าก็จากกันคือเก่า
  • จริง ๆ แค่อยากเขียนระบายสิ่งที่อยู่ในใจต่อเหตุการณ์ที่เสียแม่ไป ไม่กล้าที่จะเอาไปพูดกับคนใกล้ตัวหรือใคร คำว่าแม่แทบจะเป็นหัวข้อที่ถูกละเว้นไปโดยปริยาย อาจจะเพราะตอนแม่เริ่มป่วยช่วงแรก ไปกำชับกับคนรอบตัวว่าถ้าไม่อยากให้ร้องไห้ก็อย่าถามถึง ตอนนั้นทุกครั้งที่พูดเรื่องแม่ร้องไห้ได้ตลอดเสมอ (ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่ดีขึ้นมานิดนึง)

    สับสนนิดหน่อยที่หลังความตายของแม่มันเงียบเหงาผิดปกติ ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายขนาดนั้น (ล้อเล่น ร้องหนักเอาเรื่องอยู่ แต่หยุดไว ไม่ยืดเยื้อ) พ่อยิ่งแทบไม่ร้องเลย พี่นี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมันเล่นร้องให้แม่เห็นตั้งแต่แรกละ ไอ้นี่แม่งแย่งซีนสุดละเนี่ย (ต้นตอคือนี่เองละ อิอิ เดาได้ว่าหมอจะบอกอะไร เพราะบังเอิญได้ยินตอนหมอคุยกับพี่พยาบาลถึงเคสแม่ เลยบอกพี่แม่งหมดเลย)

    ตอนช่วงแรกที่รู้ว่าแม่ป่วย ไม่รู้ด้วยว่าระยะไหน ส่วนใหญ่ก็จะได้อัพเดทอาการจากพ่อเป็นหลัก พ่อเป็นฝ่ายรับบทวางมือเกือบจะทุกอย่างมาดูแม่แทน ตอนนั้นพี่กับนี่ยังงง ๆ อยู่เลย เพราะปกติพ่อไม่ใช่คนแบบนี้ คือในสายตาของทั้งสองที่มองพ่อมาก่อนหน้านี้จนถึง ณ ตรงนี้ไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยอมรับจากใจว่าพ่อทำหน้าที่ดูแลแม่ในระยะสุดท้ายได้ดีอย่างมากเลยทีเดียว ช่วงระยะนี้พี่กับนี่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย ทุกครั้งมันจะมีสักแวบหลังจากใช้ชีวิตของตัวเองจบวัน จะประมาณว่าช่วยอะไรไม่ได้เลย ไม่ได้จริง ๆ หน่วง ๆ หนึบ ๆ ในใจทุกวันสิ่งที่นี่ทำได้ก็แค่เลิกงานแล้วไปหา เวลาว่างมีก็ไป ดูแลแบบถึงที่สุดสักทีก็ไม่ค่อยจะได้ทำสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับที่พ่อทำแล้ว ยังจะแอบแถมไปงอแงใส่ในช่วงแรกที่รู้ด้วย ยอมรับเลยว่าหนีแม่มากตอนที่ป่วย ทำตัวเหมือนเพิ่งอายุ 13 ไม่สามารถยอมรับความจริงที่รู้อยู่แก่ใจได้ว่าแม่จะไม่อยู่ตรงนี้แล้ว พยายามร้องไห้ไม่ให้ใครเห็น ไม่ให้มีเสียงที่สุด (ช่วงนึงร้องไห้ก่อนนอนบ่อยมาก และเก็บเสียงไม่ค่อยได้แล้ว พี่คิดว่าผีหลอก เพิ่งได้มาเฉลยนี่แหละว่าเสียงนี่เอง ขอโทษที่ปล่อยให้หลอนมาเป็นเดือนสองเดือนละกัน เจ๊ากันไปในหลาย ๆ เรื่องนะ)

    มาประมวลผลได้ไม่นานหลังแม่เสียนี่เองว่าระยะที่แม่ตรวจเจอตอนนั้นไม่ใช่ 2 เข้าระยะ 3 แต่เป็น 3 เข้าระยะ 4 หมอแจ้งแค่ว่าอยู่ระยะที่สาม ช่วงนี้มีซีนในหนังเพียบ ช่วงเวลาการตัดสินว่ายื้อโดยการแพทย์หรือตัวโรค เคยคิดว่าถ้าได้อยู่ในซีนแบบนี้โลกคงพังหูคงดับ แต่พอเอาเข้าจริง ทำได้แค่ร้องไห้ให้เบาที่สุด ดีนะที่ใส่แมสก์ตอนหมอมาอธิบายไหลไปรวมในแมสก์หมด ต้องออกมาขอแมสก์กับพี่พยาบาลที่เคาท์เตอร์ใหม่ละลงไปสงบสติอารมณ์ใต้ตึก สรุปขึ้นมาแม่รู้เพราะตาแดงผิดปกติ 55555555555 แต่จากที่หมอแจ้งตอนนั้นก็ยังไม่มีใครตัดสินใจอะไรไป แต่ท้ายที่สุดเลือกที่จะปล่อยให้เวลา่ผ่านไปทั้งอน่างนั้นตามอาการของโรค

    ช่วงหลังก่อนที่แม่จะไป ก็ไม่มีค่อยอะไร(มีเป้นอาการว่างเปล่าที่อธิบายไม่ถูก) เหมือนมันนิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ความหน่วงความเศร้าค่อย ๆ ระงับได้ เพราะแม่ได้ยานอนหลับร่วมกับมอร์ฟีนตลอด ไม่ค่อยได้เห็นเจ็บแบบทรมานอย่างก่อนหน้า เพราะก่อนจะได้ยาเวลาที่แม่ตื่นมาก็เจอแต่อาการเจ็บจากตัวโรค เวลาไปหาก็จะเจอในสภาพหลับปุ๋ยตลอด ขนาดตอนแม่ไปแม่ยังไปแบบหลับ ๆ เสียดายนิดหน่อย(มาก) วันที่แม่เสียไปเป็นเวรเฝ้าของนี่ แต่ป่วยเข้าใกล้คนป่วยกว่าไม่ได้ เดี๋ยวอาการทรุด คนที่อยู่กับแม่ยันลมหายใจสุดท้ายของแม่ก็เลยเป็นพี่ 

    ตอนพ่อบอกว่าแม่ไม่อยู่แล้วนะ มันไม่รู้สึกอะไรเลย แบบไม่ลย ไม่เศร้า ไม่สับสนอะไร แต่พอมาเจอแม่ที่ไม่มีลมหายใจแล้ว น้ำตาก็ไหลแบบยั้งไม่อยู่ เก็บของในห้องผู้ป่วยแบบน้ำตาไหลทั้งอย่างนั้น (จับนู่นจับนี่นิดหน่อย ส่วนใหญ่พี่กับพ่อทำ) จนถึงวันที่พาร่างแม่มาทำพิธียังคิดว่าแม่หลับไปเฉย ๆ อยู่เลย ไม่รู้เพราะดูเป็นอย่างนั้นจริง ๆ หรือเพราะหลอกตัวเองอยู่ จนวินาทีสุดท้ายตอนเปิดโลงก่อนเผายังคิดว่าหลับอยู่เลย แอบปลุกแกในใจแบบดัง ๆ แต่ไม่พูด 

    ตอนพิธีพูดส่งวิญญาณก่อนเปิดไฟเผา ใจหายแบบสุด ๆ วินาทีที่เข้าใจและรับรู้ กลับมาอยู่กับปัจจุบันของแท้ ร้องไห้แบบลืมอาย และยิ่งร้องมากขึ้นอีกตอนเสียงเร่งไฟเผา ไม่เคยคิดว่าจะมีเสียงอะไรที่ทำให้เสียใขได้หนักขนาดนั้น และวันนั้นก็ได้เจอเข้าแบบจัง ๆ

    หลังเผาแม่ วันที่ต้องลาแขก และเปลี่ยนจากสถานะเจ้าภาพเป็นลูกสาวที่สูญเสียแม่ไป ภาพที่นั่งอยู่ตรงบันไดศาลาเผาแม่ข้างพ่อที่สูบบุหรี่ และนี่ที่ถือรูปแม่ไว้บนตัก พร้อมบรรยากาศที่เงียบ ๆ ไฟศาลาเปิดอยู่แค่บ้างดวง ความอ้างว้างตีเข้าหน้าอย่างจัง เป็นอะไรที่อธิบายไม่ถูกว่ามันเคว้งแค่ไหน มันว่างเปล่าแค่ไหน 

    จนถึงตอนนี้ก็มีพ่อที่ดูจะอาลัยอาวรณ์แม่ขึ้นมาอย่างชัดเจน ส่วนนี่ทำอะไรไม่ได้ เวลาพ่อพูดถึงก็ทำได้แค่เออ ๆ ออ ๆ ไปด้วย เรื่องแม่ยังคงเป็นหัวข้อที่ไม่อยากพูดมากที่สุด ยิ่งใกล้ชิดและสนิทกันแค่ไหนยิ่งไม่อยาก ไม่อยากให้เห็นว่าจริง ๆ แล้วยังทำใจไม่ได้ ไม่อยากให้รู้ว่ายังอยากให้แม่อยู่แค่ไหน ไม่อยากให้ฟังประโยคที่ทำให้รู้ว่ายังคิดถึงแบบทั้งใจ เสียใจจนไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรมาทำให้เสียใจได้ขนาดนี้อีกแล้ว ภายนอกอาจจะดูเหมือนดีขึ้นมาก แต่ใจจริงยังเสียใจเสมอมาที่นึกถึง เพราะการเสียแม่ไปมันมากกว่าการสูญเสียเขาในฐานะแม่ ทุกสถานะที่โลกจะมีเพื่อบ่งบอกถึงความสนิทและผูกพันธ์มันหายไปพร้อม ๆ กับแม่เลย 

    ไม่มีใครรู้ ไม่อยากให้ใครรู้หรือเข้าใจ ไม่อยากอธิบาย แล้วแต่เลย เข้าใจแบบไหนแบบนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมานั่งอธิบาย

    และท้ายที่สุด รัก และคิดถึงเสมอไป มาเข้าฝันบ้าง ตั้งแต่ไปไม่มาหาเลย อุตส่าห์พูดจาหลบหลู่เท่าไหร่ก็ไม่เห็นมา อโหสิหนูก็ไม่ได้ขอ คิดถึงมากจริง ๆ หนูไม่เคยหยุดร้องไห้ได้เลยเวลาที่คิดถึงแม่ รูปหน้าศพแม่ที่แขวนไว้หน้าบ้านหนูก็เมินเต็มที่ ไม่คิดจะมาหากันเลยจริง ๆ หรอ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
amelia2 (@amelia2)
RETRIEVING STOLEN BITCOIN & USDT THROUGH HACKER JUDAS

After being persuaded by a friend on Instagram, I decided to invest $24,000 in a promising opportunity. Initially, everything appeared legitimate, with enticing offers and glowing testimonials that made me believe I was on the verge of financial success. However, this excitement quickly turned into despair. Their website promised help for individuals like me who had fallen victim to fraudulent platforms. Skeptical yet hopeful, I reached out to them. The initial consultation was reassuring; The process was straightforward, and their transparent communication eased my anxiety. They provided regular updates on the status of my case, which helped me feel more in control. To my astonishment, within just a week, I received confirmation that Judas was able to recover my funds. It was an exhilarating moment; after all the stress and uncertainty, I could finally see the light at the end of the tunnel. When I got my $24,000 back, I felt an immense weight lift off my shoulders. Judas not only recovered my money but also restored my faith in seeking help when in distress. If you find yourself in a similar situation, I urge you to reach out to them before it’s too late. It’s easy to feel lost and overwhelmed, but you don’t have to face it alone. With the right support, you can reclaim what’s rightfully yours and move forward with renewed confidence.
Site : https://hackerjudasrecovery.info/
Email: hackerjudas9@gmail . com
whatsapp: +18075002291