ในต้นเรื่องเราจะได้ยินประโยค“ยุคสมัยพรากวัยของเราไป” เป็นประโยคที่ทัชใจมาก เป็นประโยคโคตรประวัติศาสตร์เพราะประวัติศาสตร์คือ “การเปลี่ยนแปลงช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง”แล้วซีรีส์ทำออกมาได้ดีมาก ให้ความรู้สึกร่วมกับมัน นอกจากนี้ซีรีส์ยังคงเล่นกับยุคสมัย เล่าเรื่องผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น
จุดเริ่มต้นของเรื่องและเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้ตัวละครโคจรมาพบกันคือ การนำเหตุการณ์ “วิกฤติ IMF 1998” มาเป็นตัวแปรให้เกิดเรื่องราวต่างๆ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ ผู้คนในเกาหลีต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าวัยรุ่นถูกพรากความฝันไปเพราะสถานะทางการเงินไม่อำนวย อย่างเช่นตัวเอกของเรื่อง อีจินคนที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตในครั้งนี้ ทำให้เขาต้องออกจากการเรียนมหาวิทยาลัย และต้องหางานทำเพื่อเลี้ยงปากท้องตัวเองส่วนอีกคนคือฮีโด ชมรมฟันดาบถูกยุบจนต้องขวนขวายหาทางทำตามความฝันการเป็นนักกีฬาฟันดาบ
ประโยคที่ทัชใจอีกประโยคของซึงวาน“สถานที่ที่รวบรวมคนมาอยู่ด้วยกัน กำหนดหมายเลขให้ ก่อกำแพงไว้รอบๆ ก็มีแค่โรงเรียนกับคุกเท่านั้นแหละ” ซึ่งซึงวานจะเปรียบให้เห็นว่าโรงเรียนไม่ได้ต่างอะไรจากคุกเลย ครูใช้ความรุนแรงกับเด็กซึ่งบริบทตอนนี้เป็นตอนที่ซึงวาน นักเรียนอันดับ 1 มีปัญหากับครู อีกทั้งเราจะเห็นว่ามาตรฐานการปฏิบัติของครูมักจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับนักเรียนคนนั้นเรียนดีแค่ไหนหรือเกรดอะไร หลังจากนี้เราจะเห็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของซึงวานในการลาออกจากโรงเรียนทั้งที่อีกไม่นานจะทำการสอบซูนึงแล้ว ตรงนี้ก็ยังสะท้อนอีกว่า นักเรียนเกาหลีให้ความสำคัญกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่างมากตอนที่แม่ของฮีโดบอกให้ฮีโดเรียนมหาวิทยาลัยก็เช่นกันหรือแม้กระทั่งตอนที่อีจินเข้าไปทำงานที่สำนักข่าวก็โดนถามเรื่องการศึกษา
김오미
김오미
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in