เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
I AM WHAT I WATCHSCHLENDERN
Homme Less : ความปกติที่สังเกตไม่เห็น
  • ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเรื่องราวของคนไร้บ้านเริ่มถูกพูดถึงในประเทศไทยมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ใช่ในวงกว้างหรือเป็นเรื่องราวที่จะได้รับความสนใจจนผู้คนจะลบมายาคติบางอย่างออกไปจากตัวพวกเขาเหล่านั้นหรือ บางคอนเทนต์ที่โผล่มาก็น่าเกลียดไม่ได้ช่วยทำความเข้าใจเพิ่มและที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ ยิ่ตอกย้ำภาพมายาคติของคนไร้บ้านยิ่งกว่าเดิม

    อีกเรื่องหนึ่งที่มาแรงคือ หนังของพวก loser ทั้งหลายที่ทำออกมาได้ชวนตอกย้ำความล่มสลายของปัจเจกได้ถึงพริกถึงขิงจนเรียกได้ว่าถ้า loser เข้าไปดูพร้อมกันต้องออกมามองหน้ามองตา ตบบ่า อย่างเข้าใจกันแน่นอนและหนังเรื่องที่จะพูดถึงวันนี้ คือ Homme Less พร้อมรีวิวที่แทรกอยู่กับแง่มุมบางอย่างที่พบในหนัง

    เรื่องย่อ

    Homme Less เป็นสารคดีเรื่องล่

  • ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเรื่องราวของคนไร้บ้านเริ่มถูกพูดถึงในประเทศไทยมากขึ้นแต่ก็ยังไม่ใช่ในวงกว้างหรือเป็นเรื่องราวที่จะได้รับความสนใจจนผู้คนจะลบมายาคติบางอย่างออกไปจากตัวพวกเขาเหล่านั้นหรือ บางคอนเทนต์ที่โผล่มาก็น่าเกลียดไม่ได้ช่วยทำความเข้าใจเพิ่มและที่ร้ายแรงกว่านั้นคือ ยิ่ตอกย้ำภาพมายาคติของคนไร้บ้านยิ่งกว่าเดิม

    อีกเรื่องหนึ่งที่มาแรงคือ หนังของพวก loser ทั้งหลายที่ทำออกมาได้ชวนตอกย้ำความล่มสลายของปัจเจกได้ถึงพริกถึงขิงจนเรียกได้ว่าถ้าloser เข้าไปดูพร้อมกันต้องออกมามองหน้ามองตา ตบบ่า อย่างเข้าใจกันแน่นอนและหนังเรื่องที่จะพูดถึงวันนี้ คือ Homme Less พร้อมรีวิวที่แทรกอยู่กับแง่มุมบางอย่างที่พบในหนัง

    เรื่องย่อ

    Homme Less เป็นสารคดีเรื่องล่าสุดที่ Documentary Club นำมาฉายเกี่ยวกับมาร์ก เรย์ชายวัย 50 รูปงามที่แว้บแรกชวนนึกถึงริชาร์ดเกียร์ผสมกับจอร์ต คลูนี่ ผู้เป็นอดีตนายแบบผู้ผันตัวมาเป็นช่างภาพสายแฟชั่นและนักแสดงผู้อาศัยในเมืองนิวยอร์กเพื่อจะยังสามารถทำสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ได้แต่ในอีกมุมหนึ่งมาร์ก เรย์ คือ คนไร้บ้านที่อาศัยอยู่บนดาดฟ้าบนตึกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่พักของเพื่อนเขาเองและความลับนี้เขาม่เคยเปิดเผยกับใครมาก่อน ซึ่งผู้กำกับโธมัส เวอร์เธินซอห์น จะพาเราไปสำรวจ everyday life ของชายผู้นี้โดนใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมด 2 ปี ด้วยกัน

    mr.มาร์ก เรย์ ตอนหนุ่ม

    ***SPOILER ALERT***

    ความปกติที่ซุกซ่อนตัวเองอย่างแนบเนียน
    “เราได้ขีดเส้นแบ่งชัดเจนระหว่างสิ่งที่เราเห็นว่าเป็นความผิดปกติกับ “ชีวิตแสนปกติ” ของตัวเราเอง เรารู้สึกปลอดภัยเมื่อได้ยืนในโลกฝั่งนี้ที่เราเองเป็นคนแบ่ง และเชื่อว่าเราไม่มีวันก้าวเท้าข้ามไปอยู่ฝั่งนั้นได้ …แต่หากแท้จริงแล้ว ความเป็นคนไร้บ้านคือภาวะที่ใกล้ตัวเรากว่าที่เราเคยคิดล่ะ?” – โธมัส เวอร์เธินซอห์น
    จริง ๆ แล้วหลายคนได้เคยพบเห็นคนไร้บ้านอย่างแน่นอนและก็จะติดภาพเนื้อตัวที่สกปรก การเป็นบุคคลที่ดูไร้ความสามารถ ต้องเก็บขยะขาย เป็นขอทาน ขาดสกิลในการเป็นแรงงานชั้นสูงได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำเห็นภาพชัดเจนว่าจริง ๆ แล้วคนไร้บ้านก็เป็นใครก็ได้ที่บางครั้งเราไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากภายนอก ในไทยเองก็มีหลายคนที่เป็นคนไร้บ้านที่ประกอบอาชีพและการแต่งกายภายนอกเองแม้จะไม่หวือหวาเท่ามาร์ก เรย์ แต่ก็เป็นสิ่งที่เราเคยพูดกับหลายคนว่าเราไม่รู้หรอกว่าคนที่เดิน ๆ สวนไป ยามหน้าตึกหรือวินมอไซค์ที่เราซ้อนเขาเป็นคนไร้บ้านหรือเปล่า

    มาร์ก เรย์เองถ้าเรามองจากภายนอกแล้วทั้งการแต่งตัว อุปกรณ์ที่เขาแบกในแต่ละวันที่ปาไปเป็นแสนบาทไทยแน่นอนหรือแม้กระทั้งผู้คนที่อยู่รอบตัวเขานั้นไม่มีทางที่เราจะบอกได้เลยว่าเขานั้นเป็นคนไร้บ้าน และเรื่องหนึ่งที่กัดกินเขาอยู่ตลอด คือ การเงินในแต่ละวัน การหาเงินที่จะมาซัพพอร์ตค่ากิน ค่ารักษาพยาบาลที่ตนวัยราว 50 ปีต้องคิดถึงอย่างแน่นอน ไม่รวมถึงค่าอื่น ๆ ที่จะทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตในรูปแบบที่ลงตัวได้ ซึ่งแน่นอนไม่ได้มีแค่เขาเท่านั้นที่เป็นคนไร้บ้านในเมืองใหญ่อันหรูหราและมีปัญหาที่ก่อตัวจากความล่มสลายของชนชั้นกลาง

    สถาวะของคนไร้บ้านนั้นถูกทำให้เป็นเรื่องผิดปกติของสังคมมาโดยตลอด อาจจะเพราะบ้านหรือที่อยู่อาศัยนั้นถูกบอกว่าเป็น 1 ใน ปัจจัย 4 ที่มนุษย์ต้องการ คนที่ไร้บ้านนั้นเลยกลายเป็นถูกขับออกจากความปกติของสังคมอย่างเลือกไม่ได้ นอกจากนี้รัฐเองก็ไม่จะลงมาศึกษาทำความเข้าใจหรือพยายามช่วยพวกเขาเท่าไหร่ โดนมองพวดเขาเป็นแค่ subject หนึ่งที่ไร้บ้าน ไร้บ้านใช่ไหม ก็สร้างที่พัก (Shelter) ให้สิ ในความรู้สึกของคนไร้บ้านนั้นบางครั้งก็ไม่ต่างกับคุกสักเท่าไหร่ ซึ่งเราเองก็ต้องอย่างลืมว่าพวกเขาเองไม่ได้เป็นคนที่แค่ Houseless แต่เขาเป็น Homeless ต่างหากและก็ไม่ได้เป็นคนเร่ร่อนอย่างที่คนไทยชอบเรียก ตัวของมาร์ก เรย์ เองก็ไม่ได้ก็ดูเหมือนยังต้องดิ้นรนตามหาทั้ง House และ Home อยู่จากความพังทลายในชีวิตที่เข้ามาจากคำพูดตอนท้ายเรื่อง

    ดังนั้นแล้วภาวะของคนไร้บ้านที่เกิดขึ้นท่ามกลางความพังทลายของชนชั้นกลางไม่ว่าจะทางเศรษฐกิจหรือการเสี่ยงโชคแล้วไปไม่ถึงฝันนั้นก็เป็นความปกติรูปแบบใหม่ที่ซุกซ่อนอยู่กับเรามานานแล้วนับตั้งแต่เราหันมาใช้เศรษฐกิจแบบเสรีนิยมและความสวยหรูของการทำตามความฝันของปัจเจคชน ที่สำคัญก็ คือ พวกเราหลายคนยังไม่ค่อยมีใครจะทำความเข้าใจกับความปกตินี้เสียเท่าไหร่นั่นสิ



    HOMME LESS ยังสามารถหาชมได้ที่ Bangkok Screening Room และจะเข้าที่โรงภาพยนต์ house rca วันที่ 28 กรกฎาคม นี้ 


     
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in