โพสต์นี้เป็นโพสต์ที่เราลงไว้ในอีกเว็บเมื่อปลายปี 2564 แต่เราตั้งใจว่าจะมาใช้ minimore ยาวๆ เลยไปเอามาลงในนี้ด้วย
เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2564 เราได้ดูละครคณะ ละครเรื่องนี้ชื่อ เช่าเขาอยู่ ได้ดูเพราะเป็นส่วนหนึ่งของงานในวิชาบังคับ ความจริงเราสนใจละครเวทีอยู่แล้ว ถ้าคณะทำละคร ไม่ว่าอย่างไงเราก็จะดูให้ได้แต่พอครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานในวิชาเรียนก็เลยได้ดูรอบของเด็กคณะโดยเฉพาะเลย ความพิเศษของละครเรื่องนี้คือเป็นละครแบบ Site-Specific หรือที่เรียกว่าละครเฉพาะสถานที่ เช่าเขาอยู่เป็นเรื่องราวของผู้หญิง 4 คนที่อยู่คนละยุค คนละช่วงเวลากันแต่ทุกมีความเกี่ยวข้องกับตึกตึกหนึ่งในย่านเยาวราช
ละครครั้งนี้มีอีกอย่างที่พิเศษคือ เพราะมีโควิด ไม่สามารถไปโรงละครหรือว่าไปสถานที่จริงที่ใช้ถ่ายทำได้ เลยต้องดูผ่านโปรแกรม Zoom เป็นการดูละครแบบใหม่มากสำหรับเรา ความจริงก็เคยดูละครเวทีที่โรงละครเอามาสตรีมตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ บ้างแล้วแหละ แต่พอเป็นละครคณะเราก็หวังว่าจะได้ไปดูที่คณะหรือดูตามแบบที่มันควรจะเป็น ถ้าไม่มีโควิดเราก็คงได้สัมผัสบรรยากาศละคร Site-Specific แบบจริง ๆ บ้าง แต่ไม่เป็นไรเพราะดูใน Zoom เราก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน
ละครเรื่องนี้มีเรื่องย่อย ๆ 4 เรื่อง เป็นเรื่องของผู้หญิงแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับตึกนึงในเยาวราช เราสามารถเลือกดูได้แค่ 3 เรื่องเท่านั้น แต่ละเรื่องจะถูกแบ่งไปใน Breakout Room แต่ละห้องและเมื่อดูครบ 3 เรื่องแล้วก็จะต้องมารวมกันในห้องโถง (Main Section ในระบบ Zoom) เพื่อฟังเรื่องราวจากแต่ละห้องโดยจะมีการขออาสาสมัครที่ได้ดูเรื่องราวในห้องนั้น ๆ ออกมาเล่าและเราก็ต้องรอฟังใครสักคนเล่าเรื่องในห้องที่เราไม่ได้ดูด้วยเช่นกัน นับเป็นการนำเสนอที่แปลกใหม่สำหรับเรามากเพราะปกติเราจะเป็นคนดูแล้วคิดอยู่ในหัวคนเดียว พอต้องมาฟังเรื่องที่เราไม่ได้ดูจากคำพูดของคนอื่นเราก็ต้องคิดภาพตามแล้วเพราะเราไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง ในตอนท้ายก็จะมีแบบสอบถามให้เรา ถามว่าเราเลือกดูเรื่องไหนไปบ้าง เราฟังคนอื่นเล่าเรื่องที่เราไม่ได้ดูแล้วเราเชื่อเขาไหม แล้วเราว่าตัวละครในเรื่องไหนตัดสินใจเลือกทางได้ไม่ถูกต้องที่สุด ตอนเลือกคำตอบก็คือลังเลมาก ๆ ด้วยความที่เราก็ไม่อยากตัดสินพวกเขาประกอบกับเราไม่ได้เห็นเรื่องราวของอีกตัวละครที่เราไม่ได้เลือกดูด้วย สิ่งที่เรามีคือคำบอกเล่าจากเพื่อนที่ได้ดูเรื่องของตัวละครนั้นแล้วเอามาเล่าเท่านั้น เป็นอะไรที่เปิดประสบการณ์เรามากจริงๆ
ความรู้สึกของเราหลังจากที่ดูเรื่องทั้ง 3 และฟังอีกเรื่องแล้ว เราชอบการที่คนเขียนบทเชื่อมตัวละคร 4 ตัวนี้ไว้ด้วยกันจริง ๆ ตึกตึกนี้ทำให้พวกเธอทั้ง 4 มีความเกี่ยวข้องกัน และในเรื่องราวของแต่ละคนก็จะมีการบอกใบ้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับใครอีกคนด้วย หากเราตาม clues ทั้งหมดที่เขาทิ้งไว้ได้เราก็พอจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอแต่ละคนต่อจากนั้น ตอนที่รู้เรื่องทั้งหมดและเชื่อมโยงได้แล้วเราอึ้งไปเลย
!!!!!จากนี้จะมีสปอยล์เนื้อเรื่อง!!!!!
Warning: มีการพูดถึงการข่มขืน
มีผู้หญิง 4 คน แต่คนที่เราดูแล้วรู้สึกตราตรึงใจที่สุดคือเรื่องของ ดวง เด็กนวดในโรงน้ำชาที่รอใครคนนึงกลับมาหาเธอตามที่สัญญาไว้ เป็นเรื่องที่หลายคนบอกว่าน่ากลัว เราไม่ได้ดูเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกแต่พอทุกคนบอกว่าน่ากลัวเราเลยเลือกดูเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอง
เรื่องเปิดมาด้วยความมืด มีเสียงหมาเห่า เสียงอีการ้อง และคำพูดของคน 3 คน "ฉันเป็นคนดี" "แกจะอยู่ที่นี่ไปจนตายเลยเหรอ ฉันกลัวแกตกนรก" "ลื่อทำอะไรผิด ลื่อไม่รู้เหรอ" (จำแม่น ๆ ไม่ได้ แต่ประมาณนี้) แล้วก็มีข้อความขึ้นมาบนจอ "กาเมสุมิจฉาจาร -ศีลข้อที่ 3"
ต่อมาจอก็ปรากฏภาพของผู้หญิงใส่ชุดจีนคนหนึ่งกำลังนั่งเขียนอะไรบางอย่างบนแขน เธอคนนั้นนั่งอยู่ในห้องโล่ง ๆ มีรถเข็นขนปูนและอุปกรณ์ก่อสร้างวางอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง ภาพที่เราเห็นนั้นเป็นภาพขาวดำ ดูจากเลขที่มุมจอก็จะรู้ว่ามันคือภาพจากกล้องวงจรปิด อันนี้เป็นจุดแรกที่ทำให้เรารู้สึกกลัวขึ้นมานิดหน่อย ผู้หญิงคนนั้นพูดสิ่งที่เธอเขียนบนแขนตัวเองทีละคำ "อั้ว สี่ หอ นั้ง ฉันเป็นคนดี" เธอพูดประโยคนี้ซ้ำหลายรอบก่อนจะหันไปหาใครสักคนที่อยู่ในห้อง "ดูสิ ฉันเขียนได้แล้ว" แล้วก็มีเสียงตัวละครอีกตัวพูดกลับมาแต่เราจะไม่เห็นตัวละครนั้น (ตรงนี้ก็เป็นความน่ากลัวอีกอย่าง เพราะเราเห็นแค่นักแสดงอยู่คนเดียวแต่เขากำลังพูดกับใครสักคนที่เรามองไม่เห็น) พอฟังสิ่งที่ตัวละครพูดกันไปสักพัก สิ่งที่เรารู้ก็คือหญิงสาวคนที่เราเห็นในห้องคือดวง กำลังพูดกับน้อย ในห้องพักที่ผู้ชายคนหนึ่งที่ดวงเรียกว่า "เฮีย" สร้างไว้ให้ ดวงพูดถึงความใจดีและความรักของเฮียที่มีต่อเธอ คำที่เธอเขียนไว้บนแขนก็คือคำที่เฮียสอนเธอ แต่น้อย เพื่อนของเธอพยายามพูดราวกับจะให้สติเธอ โน้มน้าวเธอให้ถอยออกมาจากความสัมพันธ์นี้เพราะเฮียที่น้อยบอกนั้นมีภรรยาอยู่แล้ว และในเวลาต่อมาเราก็ได้รู้ว่าดวงเองก็มีลูกแล้ว ดวงเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ถูกคนแถวบ้านข่มขืนจนท้อง ต่อมาดวงก็ต้องมาทำงานที่กรุงเทพฯ มาเป็นเด็กนวดในโรงน้ำชาที่เยาวราช ดวงได้เจอกับเฮียและทั้งสองก็เริ่มมีความสัมพันธ์กัน เฮียของดวงสร้างห้องนี้ไว้ให้และมาหาดวงบ่อย ๆ แต่วันนึงเฮียก็หายไป ก่อนจะไปเฮียสัญญากับดวงว่าเขาจะกลับมาหาดวง และดวงก็เต็มใจที่จะรอ
ในขณะที่น้อยพยายามพูดให้สติดวง ทุกครั้งที่น้อยพูดถึงลูกของดวงก็จะมีเสียงพระสวดดังแทรกขึ้นมา (นี่ก็เป็นความน่ากลัวอีกจุดสำหรับเรา เสียงพระสวดสร้างบรรยากาศให้น่ากลัวขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น เสียงนั้นทำให้เราเริ่มเดาอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวละครนี้ได้แล้ว) น้อยพยายามบอกให้ดวงกลับไปอยู่ต่างจังหวัด "เธอแย่งผัวเขามา เธอไม่ใช่คนดี" "แกจะอยู่ที่โรงน้ำชาไปจนตายเลยเหรอ" "หยุดเถอะ ฉันกลัวแกตกนรก" แต่ดวงก็ยังยืนยันที่จะรอ ดวงบอกว่า "เฮียบอกว่าเฮียจะกลับมา กูจะรอเขา กูชอบที่จะรอ กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น" ดวงพูดอีกว่า "อยู่ที่นี่กูมีทุกอย่างเลย กูไมต้องการอะไรอีกแล้ว กูจะอยู่ที่นี่" แต่สิ่งที่ดวงพูดกับสิ่งที่เราเห็นมันคนละอย่างกันเลย ดวงพูดว่าดวงมีฟูกนุ่ม ๆ นอน มีเสื้อผ้าสวย ๆ ใส่ แต่สิ่งที่คนดูเห็นคือห้องโล่ง ๆ ในตึกร้าง มีแค่อุปกรณ์ก่อสร้างกับเก้าอี้แค่ตัวเดียวเท่านั้น
ระหว่างที่เราดูบางทีภาพก็จะเบลอ ๆ ซ่า ๆ เหมือนสัญญาณถูกรบกวนแล้วก็มีเสียงใครสักคนพูดขึ้น "คุณอยู่ที่นี่มานานแค่ไหนคะ" "คุณ..." "คุณ... ตายยังไงคะ" และทุกครั้งที่ภาพตัดเราก็จะเห็นดวงนั่งเขียนคำว่า "ฉันเป็นคนดี" อยู่ในห้องโล่ง ๆ ทุกครั้ง สิ่งที่เปลี่ยนไปแต่ละรอบคือปี พ.ศ. ที่อยู่บนหน้าจอ เหมือนภาพทุกอย่างถูกฉายซ้ำ ๆ วนลูป ต่อมาเราได้ยินเสียงเถ้าแก่พูดกับดวง "ไปเถอะดวง จะดื้อด้านทำไม" "ลื่อทำอะไรผิด ลื่อไม่รู้เหรอ" เหมือนเถ้าแก่เองก็พยายามพูดเรียกสติดวงเหมือนกัน ภาพยังคนตัดไปตัดมาเรื่อย ๆ จนได้ยินเสียงเคาะประตู เสียงนั้นคือเสียงของเฮีย ดวงดีใจมากและกำลังจะวิ่งไปเปิด แต่เสียงของน้อยก็แทรกขึ้นมา "แกจำไม่ได้เหรอว่าแกตายยังไง" "เฮียเขาฆ่าแกไง" แต่สุดท้ายดวงก็เปิดประตู แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงหมาและเสียงอีกา มีภาพไฟลุกขึ้นมา ดวงพยายามหนี เธอดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมาน สุดท้ายภาพหน้าจอก็มืดลงแล้วกลับมาฉายภาพดวงนั่งเขียนข้อความ "ฉันเป็นคนดี" เหมือนตอนแรกที่เริ่มเรื่องมา
สรุปแล้วก็คือดวงตายไปแล้วแต่วิญญาณของเธอไม่ไปไหนเพราะเธอยังยืนยันที่จะรอเฮียของเธออยู่แบบนั้น
เราชอบทุกเรื่องที่ได้ดูเลย แต่ถ้าให้เลือกมาพูดสักเรื่อง เราก็คงเลือกเรื่องของดวง เราชื่นชมพี่นักแสดงมากเพราะเขาต้องเล่นในห้องโล่ง ๆ ไม่มีอะไรเลยแต่ตัวละครเห็นว่ามีโต๊ะ มีเตียง มีตู้เสื้อผ้า มีของใช้ต่าง ๆ นักแสดงก็ต้องเชื่อ และต้องทำให้คนดูเชื่อและเห็นให้ได้ว่ามีของพวกนั้นอยู่ในห้องจริง ๆ
หลังดูจบเราไม่กล้านอนเลย (เพราะหลอนเรื่องของดวง) ภาพยังติดอยู่ในหัว เราไปนอนคิดอยู่นานมาก พยายามตกตะกอนอะไรบางอย่าง ยิ่งพอรู้เรื่องราวของตัวละครทุกตัวแล้วเราก็รู้สึกโหวง ๆ หน่อย ๆ เหมือนเราได้เห็น ได้เฝ้าดูชีวิตของตัวละครแต่ละตัวผ่านตึกตึกนี้เลย เห็นความเคลื่อนไหวของพวกเขา เหมือนได้เห็นพวกเขาใช้ชีวิต ตายจากไป แล้วก็มีตัวละครใหม่เข้ามา(อันนี้ในละครไม่ได้พูดถึงขนาดนั้นแต่เรานึกเอาเอง เหมือนถ้าเราเป็นอะไรสักอย่างที่มองตึกตึกนี้ เห็นเรื่องราวของตัวละครนึงเกิด แล้วก็ตาย แล้วก็มีคนใหม่เข้ามาเป็นวงจร คิดแบบนั้นแล้วก็ใจหวิว ๆ ขึ้นมา เหมือนจะปลงกับชีวิตขึ้นมาซะงั้น 555555) โดยรวมเป็นละครที่เปิดประสบการณ์เรามาก เราประทับใจมาก ๆ เลย ทำให้หายคิดถึงบรรยากาศการไปดูละครได้อยู่ หวังว่าจะมีโอกาสได้ไปสัมผัสอะไรแบบนี้เพิ่มนะ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in