เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
BUTTERFLY EFFECTyel.s.low
cat





  • "เมี้ยว"

    เสียงร้องดังขี้นตอนที่ผมเปิดประตู เจ้าตัวจ้อยที่ตอนนี้กลายเป็นไอ้อ้วนเดินมาพันแข้งพันขา ผมหัวเราะในลำคอ ก้มลงจิ้มหัวแมวขี้ประจบไปสองจึ้ก ได้เวลาอาหารแล้วสินะถึงมาอ้อนอย่างนี้


    "...แมวตัวนี้"


    เงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ยืดตัวเต็มความสูงอีกครั้ง ถอดรองเท้าก่อนเดินนำเข้าห้อง


    "มันชื่อไทเกอร์ครับ ผมฝากคุณให้อาหารมันหน่อยได้ไหม"


    พูดพลางชี้ให้ดูอาณาจักรไทเกอร์ที่ตั้งอยู่ข้างประตูระเบียง ถาดอาหาร ที่ลับเล็บ เบาะนอน กระบะทราย คอนโดแมว เจ้าตัวแสบนี่ยึดครองพื้นที่ส่วนหนึ่งของห้องผมไปเป็นของตัวเอง


    "คุณเลี้ยงมันหรอ"


    "อันที่จริง ผมแค่รับฝากไว้เฉยๆ รอให้เจ้าของมันมาเอากลับไปน่ะครับ"


    "เจ้าของ...?"


    "ครับ เจ้าของมันหายไป" 


    "..."


    "ตอนนี้กลับมาแล้ว.. แต่ไม่รู้ว่าจะมารับมันไปเมื่อไหร่" 


    "..."


    "มันคงคิดถึงเจ้าของน่าดู"


    ไม่ใช่แค่ไทเกอร์หรอกที่คิดถึง ผมก็เหมือนกัน..


    "...ปัชญ์"


    "...!"


    ผมเงยหน้าสบตาอีกคนด้วยความตกใจ หัวใจเต้นแรงเหมือนจะทะลุออกมา ความร้อนลามขึ้นมาที่สองข้างแก้ม เสียงนุ่มทุ้มที่เรียกชื่อผม ดังก้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว


    "ค.. คุณรู้จักชื่อผมหรอครับ"


    "เมื่อวาน.. เพื่อนคุณตะโกนดังลั่นห้าง"


    พยักหน้ารับรู้ ผ่อนลมหายใจคลายความตื่นเต้น


    "งั้น.. ให้ผมรู้ชื่อคุณบ้างได้ไหม"


    "... วินด์"


    "ครับ คุณวินด์" ตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง




    ผมปล่อยให้อีกคนไปให้อาหารเจ้าสามสี ส่วนตัวเองเดินเลี่ยงเข้ามาในครัว มือลูบหน้าอกแรงๆเผื่อว่าอวัยวะที่อยู่ข้างในจะเต้นช้าลง ริมฝีปากยังยกยิ้มเต็มหน้าอย่างห้ามไม่อยู่

    ตบแก้มตัวเองสองสามทีเรียกสติ


    "ฟู่ ใจเย็นๆ"


    หยิบของในถุงออกมา จัดการเก็บของที่ไม่ใช้เข้าที่ หันกลับมามองวัตถุดิบที่กำลังจะกลายเป็นอาหารเที่ยงของผมกับแขกคนพิเศษ


    "มีอะไรให้ผมช่วยมั้ย"


    "คุณวินด์อยากทานอะไรครับ" ไม่ตอบแต่ถามกลับแทน


    "อะไรก็ได้"


    "งั้นคุณไปนั่งรอที่โซฟาก่อนนะครับ ถ้าเบื่อเปิดโทรทัศน์ดูก็ได้ เสร็จแล้วเดี๋ยวผมออกไปเรียก"


    คนตัวสูงพยักหน้ารับก่อนเดินออกไปอย่างว่าง่าย ผมหันมาจัดการของที่ทำค้างไว้ต่อ เตรียมทุกอย่างเรียบร้อยก็โยนลงกระทะ ใช้เวลาไม่นานข้าวผัดหมูโง่ๆจึงพร้อมเสิร์ฟ ตักใส่จานแล้วยกไปวางบนโต๊ะ โผล่หน้าไปคุยกับคนที่นั่งรออยู่


    "อาหารเสร็จแล้วครับ วินด์จะนั่งกินที่โซฟาหรือเข้ามากินในครัว"


    คนที่นั่งอยู่บนโซฟาลุกขึ้น เดินเข้ามาในครัวแทนคำตอบ หากตอนกำลังเดินผ่านไทเกอร์ เจ้าสามสีที่ตอนแรกนอนเล่นอยู่ก็ขู่ฟ่อก่อนจะกางเล็บตะปบลงบนขาคุณวินด์ คนโดนประทุษร้ายก้มมองด้วยความตกใจ เลือดค่อยๆไหลจากบาดแผล 


    "เฮ้ย ไทเกอร์!!!"


    ผมตะโกนลั่น วิ่งไปอุ้มไอ้ตัวแสบให้ออกห่างจากคุณวินด์ ก้มลงมองแผลของอีกคน มือจับขากางเกงห้าส่วนที่อีกฝ่ายใส่อยู่พับขึ้นเพื่อไม่ให้เปื้อนเลือด แต่โดนดึงแขนไว้


    "ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมพับเอง"


    ผมไม่สนใจคำพูดของเขา พับเสร็จก็ลากแขนคนตัวสูงกลับมานั่งที่โซฟา หมุนตัวเดินไปหยิบกล่องพยาบาล กลับมาทิ้งตัวนั่งที่พื้นตรงหน้าอีกคน


    "ปัชญ์ ขึ้นมานั่งข้างบน"


    "ไม่เป็นไรหรอกครับ นั่งตรงนี้สะดวกดี"


    "ขึ้นมา"


    "คุณนี่ดื้อจริงๆเลยนะ"


    "ใครกันแน่ที่ดื้อ"


    ผมยกมือยอมแพ้ ลุกขึ้นมานั่งบนโซฟาแต่โดยดีก่อนเจ้าของดวงตาสีฟ้าจะเลือดไหลจนหมดตัวซะก่อน


    "ให้ผมมานั่งข้างบนก็ยกขาขึ้นมาวางบนโซฟาด้วยสิครับ" 


    ผมพูดยิ้มๆ ตาสีฟ้ามองมาด้วยความเอือมระอาหากยอมทำตามอย่างว่าง่าย จับเท้าอีกคนดึงเข้ามาใกล้เพื่อจะดูแผล แต่คนตัวโตสะดุ้งก่อนชักขากลับ


    "ผมทำเองดีกว่า" พูดพลางทำท่าจะเอื้อมมือมาแย่งสำลีไปถือไว้เอง


    "คุณนั่งนิ่งๆไปเถอะครับ" 


    ผมว่า มองดุอีกฝ่าย คนตรงหน้าทำท่าทางงุ่นง่านพักหนึ่งก่อนถอนหายใจ ยอมอยู่เฉยให้ทำแผลสักที


    "คุณเจอผมทีไรได้แผลกลับไปทุกทีเลย แต่ไม่ต้องห่วงนะครับไทเกอร์ฉีดยาแล้ว ไม่รู้มันเกิดหงุดหงิดอะไรขึ้นมา ปกติไม่เคยเป็นแบบนี้แท้ๆ คุณวินด์เพิ่งให้อาหารแกไปนะไออ้วน มาแว้งกัดแบบนี้ได้ยังไง"


    บ่นยาวเหยียด ประโยคหลังหันไปพูดกับเจ้าตัวแสบที่นอนลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างโซฟา


    "ไม่เป็นไรหรอก มันคงโกรธผม"


    คุณวินด์พึมพำเสียงเบา ผมเหลือบตามองคนพูดแวบหนึ่ง เขาจำแมวตัวนี้ได้จริงๆด้วย แบบนี้จะจำผมได้บ้างมั้ยนะ อ่า.. อยู่ดีๆก็อิจฉาแมวขึ้นมาตงิดๆ

    ทำแผลเรียบร้อยก็บอกให้อีกคนไปนั่งรอที่โต๊ะกินข้าว ส่วนตัวเองเอาของไปเก็บแล้วเดินตามมานั่งลงฝั่งตรงข้าม ต่างฝ่ายต่างกินเงียบๆ ผมมองคนตรงหน้าที่เหมือนกำลังจมอยู่กับความคิดตัวเอง กินเสร็จก็เก็บจานไปล้าง ไล่คนที่อาสาเข้ามาช่วยให้ไปรอที่โซฟา เดินออกมาอีกทีถึงกับต้องหยุดมองด้วยคามประหลาดใจ ตัวแสบที่เพิ่งเกรี้ยวกราดใส่คนตัวสูง ตอนนี้กลับนอนหลับตาพริ้มอยู่บนตักให้เขาลูบหัวลูบหางอย่างสบายใจ 

    ผมมองดวงตาสีฟ้าที่ทอประกายอ่อนโยน หวนนึกถึงบรรยากาศเก่าๆที่สวนสาธารณะ หัวใจเริ่มเต้นแรงอีกครั้ง ทำยังไงเขาถึงจะมองผมด้วยสายตาแบบนั้นบ้างนะ อิจฉาแมวโว้ย!

    เดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างอีกคน มือเอื้อมไปขยี้หัวไอ้สามสีแรงๆด้วยความหมั่นไส้จนมันสะดุ้งเงยหน้าขึ้นมามองตาขวาง 


    "มองอะไรฮะ ไอตัวขี้ประจบ" 


    "อย่ารังแกสัตว์สิ"


    "ก็สัตว์มันทำตัวน่าหมั่นไส้"


    "มันยังไม่ทำอะไรเลย แค่นอนนิ่งๆอยู่บนตักผม"


    "ก็นั่นแหละที่น่าหมั่นไส้!!"


    "..."


    เวร.. เผลอหลุดปาก ผมสบตาสีฟ้าที่มองมาอย่างสงสัย ตีหน้ามึนเหมือนไม่ได้เพิ่งพูดอะไรประหลาดๆออกไปก่อนเปลี่ยนเรื่อง


    "คุณอยากดูโทรทัศน์มั้ยครับ เดี๋ยวผมเปิดให้" 


    "ไม่ล่ะ ผมจะกลับแล้ว"


    ได้ยินว่าอีกคนจะกลับก็เผลอส่งสายตาห่อเหี่ยวไปให้


    "อ่า.. งั้นหรอครับ" 


    "อืม มีงานต้องทำต่อ"


    "งั้นไว้วันหลังมาทานข้าวด้วยกันอีกนะครับ"


    "ครับ"


    พออีกคนตอบรับคำชวนก็ยิ้มอย่างลิงโลด เดินนำไปส่งหน้าห้อง แต่พอเปิดประตู ไอ้ไทเกอร์ก็เอาร่าง อ้วนๆมาขวางทางไว้ไม่ยอมให้เขาไป 


    "เมี้ยว.."


    มันจะเกินหน้าเกินตาไปหน่อยหรือเปล่านะแมวตัวนี้.. ตาสีฟ้าหันมองผมอย่างลำบากใจ ดูเหมือนเขาจะแพ้ทางตาแป๋วๆนั่น ผมถอนหายใจ กำลังจะใช้เท้าเขี่ยเจ้าตัวอ้วนให้พ้นทางก็จะนึกอะไรดีๆขึ้นมาได้


    "เจ้านี่ดูจะติดคุณนะ ถ้าไม่ว่าอะไรให้มันไปนั่งเล่นที่ห้องคุณด้วยได้มั้ยครับ"


    "อ่า.. จะดีหรอ"


    "ดีสิครับ"


    ผมยิ้มกว้าง อุ้มสามสีตัวอ้วนยัดใส่มืออีกฝ่าย ดันหลังเขาไปส่งถึงหน้าห้อง


    "อยู่ห้องคุณวินด์ก็เป็นเด็กดีอย่าไปรบกวนตอนเขาทำงานเข้าใจมั้ย เดี๋ยวถึงเวลาอาหารเย็นผมจะมาเรียกนะครับ" 


    สั่งแมวเรียบร้อยก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับเจ้าของห้อง พอเห็นอีกคนพยักหน้ารับงงๆก็ยิ้มให้หนึ่งทีก่อนเดินกลับห้อง 

    พลางคิดว่าเย็นนี้จะทำอะไรให้คุณวินด์ทานดี

    ตอนที่เอาอาหารไทเกอร์ไปส่ง... 






                                                                                       ?






    ผมลุกขึ้นบิดขี้เกียจหลังนั่งวาดรูปหน้าคอมมาหลายชั่วโมง เหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าใกล้จะหนึ่งทุ่มแล้ว เวร.. คุณวินด์กินข้าวไปแล้วยังนะ บ่นตัวเองในใจที่ทำงานลืมเวลาจนได้ รีบเข้าครัวทำอาหารตามที่คิดไว้ อาหารคนเสร็จเรียบร้อยก็มาเตรียมอาหารให้แมวอ้วนที่ตอนนี้คงโมโหหิวได้ที่ก่อนพาตัวเองมาหยุดอยู่หน้าห้องอีกคน หายใจเข้าลึกๆเรียกกำลังใจหนึ่งที

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

    แกร๊ก


    "ผมเอาอาหารมาให้ไทเกอร์ครับ"


    ฉีกยิ้มกว้างพร้อมยกถ้วยอาหารในมือให้คนที่โผล่ออกมาจากประตูดู


    "คุณวินด์ทานอะไรแล้วยังครับ ผมทำอาหารเผื่อคุณด้วยนะ ฝากคุณวินด์เอานี่ให้ไทเกอร์ก่อน ผมไม่ได้ยกมาด้วยเพราะถือไม่หมด เดี๋ยวยกตามเข้าไปให้นะครับ"


    "... จริงๆคุณให้ไทเกอร์กลับไปกินที่ห้องก็ได้นะ" 

     
    พูดพลางหรี่ตามองมาด้วยสายตาจับผิด ผมชะงัก อ่า โดนจับได้แล้วสินะ 


    "แล้ว.. แบบนี้ไม่ได้หรอครับ"


    คนตัวสูงสบตากันนิ่งๆอยู่ครู่หนึ่ง ถอนหายใจ หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องแทนคำตอบ ผมยิ้มอย่างลิงโลด กลับเข้าห้องมายกอาหาร 

    ความจริงไทเกอร์ก็แค่ข้ออ้างที่ผมใช้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องอีกคนเท่านั้นแหละ เอาอาหารเม็ดไปให้ไอ้อ้วนกินในห้องคุณวินด์ จะได้เอาอาหารตัวเองเข้าไปกินกับอีกคนในนั้นได้บ้าง มุกตื้นเป็นบ้า ไม่แปลกที่เขาจะดูออก แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังยอมให้ผมทำตามใจได้อีก ใจดีจังเลยน้า

    ผมยกข้าวและกับข้าวอีกสองสามอย่างใส่ถาด เดินไปเปิดประตูด้วยความทุลักทุเลเล็กน้อย เห็นคนตัวสูงยืนมองอยู่หน้าห้องก็สบตางงๆก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง เมื่ออีกคนแย่งถาดในมือไปถือไว้เอง รีบเดินนำไปเปิดประตูห้องอีกฝ่าย หลีกทางให้เขายกถาดอาหารไปวางไว้บนโต๊ะ


    "ห้องคุณวินด์น่าอยู่จังเลย"


    "มันก็แบบเดียวกับห้องคุณ"


    "แบบเดียวกันที่ไหน คุณวินด์แต่งห้องสวยกว่าผมเยอะ"


    สีน้ำเงินเข้มและสีเทาบนเฟอร์นิเจอร์ที่ประดับอยู่รอบๆเสริมให้บรรยากาศในห้องดูสงบ เหมาะกับการทิ้งตัวลงนอนจริงๆ ..


    "สนใจมาช่วยผมแต่งห้องใหม่มั้ยครับ"


    ยักคิ้วกวนๆส่งให้อีกคน ก่อนโดนผลักหัวมาหนึ่งที


    "เยอะ"


    "แล้วนี่คุณวินด์ทำอะไรอยู่หรอครับ ผมมากวนหรือเปล่า"


    "ถามตอนนี้ไม่ทันแล้วมั้ง"


    "ก็.. กองทัพต้องเดินด้วยท้องไงครับ"


    "งั้นหยุดพูด แล้วมากินข้าวได้แล้วครับ"


    ผมทำท่ารูดซิปปาก นั่งลงเงียบๆ อีกคนทำหน้าเอือมใส่ก่อนนั่งตาม กินเสร็จคุณวินด์ก็อาสาล้างจานให้ ไล่ผมไปนั่งรอที่โซฟาบ้าง 

    มองตามคนที่กำลังล้างจานอยู่พลางพิจารณา โครงหน้าและดวงตาสีฟ้าสวยที่คงจะรับมาจากฝั่งตะวันตกแต่กลับมีผมสีดำขลับแบบคนเอเชีย บุคลิกดูภูมิฐานขึ้นจากห้าปีก่อน ส่วนสูงร้อยแปดสิบเซ็นติเมตรของผมแทบไม่มีผลเมื่อทุกครั้งที่คุยกันยังต้องเงยหน้าเพื่อสบตากับอีกคนอยู่ดี คุณวินด์เป็นคนที่ดูใกล้เคียงกับคำว่าเพอร์เฟกต์

    ถ้าไม่นับความเศร้าที่ปรากฏในแววตาคู่นั้นเสมอ

    ละสายตาจากอีกคนเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสนุ่มๆที่ขา ก้มลงไปอุ้มแมวอ้วนที่คลอเคลียอยู่มากอดแน่นอย่างมันเขี้ยว ดึงเหนียงเล่นก่อนหัวเราะคิกคักเมื่อไอตัวแสบทำตาขวางใส่ ไทเกอร์ดิ้นขลุกขลักอยู่สักพักก็ถีบตัวออกจากอ้อมกอดผมสำเร็จ 


    "รังแกแมวอีกแล้วหรอ"


    "เปล่าสักหน่อย" ตอบพลางยู่หน้าใส่คนที่กำลังเดินมาหา เมื่ออีกคนดูจะปกป้องเจ้าอ้วนนี่เหลือเกิน


    "ก็เห็นๆอยู่"


    "วินด์ คุณน่ะสปอยล์ไอ้อ้วนมากเกินไปแล้ว อยู่กับคุณบ่อยๆคงเสียนิสัยพอดี"


    "มันเชื่องจะตาย ไม่เห็นจะทำตัวแย่อะไร"


    "เชื่องแค่กับคุณน่ะสิ"


    "ก็คุณชอบแกล้งมัน"


    "วินด์เข้าข้างมันมากกว่าผม"


    "แล้วทำไมผมต้องเข้าข้างคุณด้วย"


    "ก็...!"


    "ก็อะไร"


    "ไม่รู้!!!"


    ผมโวยวาย นึกหงุดหงิดที่อีกคนเห็นแมวดีกว่า ผ่านมาห้าปีไอ้อ้วนนี่ก็ยังชนะผมอยู่ดี ตวัดสายตาไปมองสิ่งมีชีวิตสามสีที่กำลังหลับตาพริ้มกระดิกหางไปมาอย่างสบายใจ ในหัวนึกวิธีทรมาณสัตว์โลกตรงหน้าเป็นฉากๆ กลับห้องไปจะฟัดพุงย้วยๆนั่นจนต้องร้องขอชีวิตเลยคอยดู!


    "โมโหอะไร" 


    "..."


    "อิจฉาแมวหรอ" 


    เงยหน้ามองอีกคนอย่างงุ่นง่าน ตั้งท่าจะเถียงกลับก่อนชะงักเมื่อเห็นแววตาที่มองมาทอประกายขบขัน ร่องรอยความสุขฉาบจางๆบนใบหน้า 

    ส่งผลต่อความรู้สึกผมโดยตรง

    ยิ้มกว้างส่งไปให้ คนมองนิ่งไปพักหนึ่ง ยกมือขึ้นมาลูบหัวผมเบาๆ รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก 


    "ผมไม่ใช่ไทเกอร์นะ ไม่ต้องมาลูบหัวลูบหางให้ผมหรอก"


    คุณวินด์เลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง หัวเราะในลำคอเบาๆ มือที่ลูบผมเปลี่ยนเป็นขยี้แรงๆอย่างมันเขี้ยว


    "พอแล้ว ผมยุ่งหมดแล้วเนี่ย"


    "กวน"


    "เปล่าสักหน่อย อยากลูบก็ไปลูบไทเกอร์นู่น เข้าข้างกันอยู่แล้วนี่"


    "หึ เลิกงอแงได้แล้วครับ" พูดพลางช่วยจัดเส้นผมยุ่งๆให้เข้าที่


    "งอแงอะไร ผมไม่ใช่เด็กๆนะ"


    "หรอ"


    อีกฝ่ายพูดเสียงเรียบ ผมส่งสายตาแบบพร้อมจะกระโดดงับหัวไปให้คนที่เอาแต่กวนกันอยู่ได้ เขายกมือสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้ ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ หยิบรีโมทขึ้นมาเปิดโทรทัศน์ก่อนเหลือบสายตามามองผม


    "ไม่กลับห้องหรอ"


    "ผมชอบดูรายการนี้มากเลยนะ มีนักร้อง นักดนตรีเก่งๆมาโชว์ความสามารถเยอะแยะเลย"


    "..."


    "จริงๆผมเล่นดนตรีเป็นด้วยนะ ที่ห้องก็มีกีตาร์อยู่ คุณวินด์อยากฟังมั้ย"


    "ไม่เนียน"


    "ครับ? อ้าว ห้องคุณก็มีกีตาร์นี่ งั้นผ--"


    "ไม่เนียน"


    "วินด์.." เรียกอีกฝ่ายเสียงอ่อย


    "กลับห้องได้แล้วครับ"


    "... ครับ"


    ผมอุ้มไทเกอร์พาดบ่า เดินคอตกไปทางประตูห้อง มีอีกคนเดินตามหลังมาส่ง


    "ผมต้องทำงานต่อ พรุ่งนี้เช้าผมว่าง ถ้าอยากเล่นกีตาร์พรุ่งนี้ก็มาเรียก"


    "งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะครับ!" ผมฉีกยิ้มกว้างหันไปตอบด้วยความรวดเร็ว ท่าทางห่อเหี่ยวหายไปในพริบตา


    "ฝันดีครับคุณวินด์"


    "อืม" 


    โคลงหัวอย่างเอือมๆ ก่อนเดินกลับเข้าห้อง ทิ้งอีกคนยืนกุมหัวใจตัวเองแน่น ความสุขฉายชัดบนใบหน้า

    รอยยิ้มทั้งตาและปากคือหลักฐาน...






    คืนนั้น..

    ผมกางแขนกางขาไทเกอร์แนบกับพื้น 

    ผมสีน้ำตาลมุดเข้ากับพุงย้วยๆของเจ้าแมวตัวอ้วนเป็นการลงโทษตามที่ตั้งใจไว้ 

    เสียงโหยหวนและแรงดิ้นไม่ทำให้ผมยอมรามือจากการกระทำที่โหดเหี้ยมนี้ 


    แมวสามสีตัวกลมปุ๊ก

    กลายเป็นเหยื่ออารมณ์ของมนุษย์เลือดเย็นอย่างสมบูรณ์...







    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ขอบคุณค่ะ -/\-












Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in