"The whole experience about me and 'I WRITE YOU A LOT.' Exhibition by Nawapol T."
ปกติเวลาพูดถึงพี่เต๋อ (นวพล - ไม่ใช่เรวัตหรือ ฉันทวิทย์) และงานของพี่เค้า ผมจะมีทั้งความชื่นชมปนตั้งแง่คอยสู้รบปรบฟันกันในใจเสมอ
เคยลองพิจารณาวิเคราะห์ตัวเองดูแล้ว มันน่าจะเกิดจากความน้อยเนื้อต่ำใจเวลาเราชอบอะไรตรงกับพี่เต๋อ เช่นเพลง บอกฉันหน่อย - บลิสโซนิค นี่ เอาไปให้เพื่อนฟัง เพื่อนก็บอกว่าอะไรของมึงวะ พอพี่เต๋อแชร์ที ไลค์ถล่ม ชอบกันทลาย กับความอิจฉาริษยา ที่พี่เต๋อได้มีโอกาสเจอ/ร่วมงานกับนักแสดงหญิงในดวงใจของผมทั้งนั้น เมโกะ โบว์-จอยส์ วี เบลล์ นี่คือถูกจุดสุดๆ 5555
เวลาเสพย์งานของพี่ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าชอบ ว่าติ่ง สักพักก็จะมีตัวเดวิลคอยมากระซิบว่า ก็ดีแต่ไม่ได้ดีขนาดนั้นป่ะวะ หรือ เค้าโปรโมทดีต่างหาก อะไรเทือกๆ นี้
แต่หลังจากที่ผมเดินกลับจากงาน I WRITE YOU A LOT ของพี่ครั้งนี้นะ มันเหมือนตอนในละคร ที่นางร้ายในตัวผม โดนฆ่าตาย กลายเป็นบ้า ไม่ก็เปลี่ยนเป็นคนดี ยอมสิโรราบและยอมรับแต่โดยดี ว่า
พี่เต๋อแม่งเจ๋งจริงว่ะ เป็นผู้นำเสนอและถ่ายทอดที่เก่งที่สุดคนนึงเลย
มีหลายสิ่งที่ชอบและประทับใจมาก
พอมาถึงก็เจอกับอาร์ตเวิร์คที่สวยและมีเอกลักษณ์ โปสเตอร์กับโลโก้งาน สวยเจ๋งจริงจัง แล้วผมก็เดินดุ่มๆ เข้าห้องแสดงใหญ่
การใช้ view box ในการแสดงภาพก็ทำให้สามารถ นอกจากทำให้ภาพดูมีอะไรมากขึ้น ยังเอื้อให้ดิมไฟในห้องแสดงลง เพื่อให้โปรเจคเตอร์เห็นชัดขึ้นได้ (ตอนแรกยังไม่เกตว่ามีโปรเจกเตอร์ ไว้ทำไม อ่านไปแล้วก็งงๆ)
คำบรรยายภาพยิ่งช่วยเพิ่มค่าให้กับรูปภาพอย่างมาก มันสั้น กระชับ แต่สื่ออารมณ์ได้รุนแรง มีความขี้เล่นและเฉลียวฉลาด อ่านแล้วเฮ้ย พี่เต๋อเค้ามีของจริง คุยกับเพื่อนว่าถ้าพี่มาเล่น #30dayswritingchallenge นี่ต้องกินขาดชัวร์
ระหว่างที่ผมกำลังเล่นเกมทายกับเพื่อนว่าชอบรูปกับแคปชั่นไหนมากสุด ยังไม่ทันที่จะเล่นเสร็จ เพื่อนก็ชี้ขึ้นไปบนกำแพงโปรฯ "นั่นแกหนิ" เออ จริงด้วย ตอนนั้นสะดุ้งพร้อมรีบปะติดปะต่อเรื่องราวทันที (ฮา) มันคือ live screenwriting น่ะเอง สุดยอด
ว่าแล้วก็ขอถ่ายภาพเลียนแบบบทเสียหน่อย ตอนนั้นรู้สึกฟินมากที่พี่เต๋อเขียนถึงเรา เขินด้วยตอน โดยแซวผ่าน(การพิมพ์เพิ่มในจอ) ว่ามัวแต่ดีใจถ่ายรูปอยู่นั่น
พี่แกสร้างบรรยากาศที่มันบียอนไปกว่า 'การดูรูปในแกลเลอรี่' ไปหลายขุม
คือหนึ่ง มันเข้าธีมของนิทรรศฯ ที่ว่าพี่เค้าฝึกเขียนบทจากการแอบดูคนอื่นเราๆ นี่แหละ เลยมาทำกันให้ดูสดๆ ซะเลย สอง มันยังสร้างมิติ สไตล์ Big brother is watching you. ให้กับเหล่าผู้ชม รู้สึกถูกจับตามอง สนุก ตื่นเต้น สูญเสีย privacy หน่อยๆ เหมือนพวกเราเองก็เป็นส่วนหนึ่งในงานแสดงด้วยเหมือนกัน เครื่องปริ้นไวร์เลส ก็ช่วยเพิ่มความขลังไปอีกหนึ่งระดับ
เราชอบความติดตลกหน่อยๆ ของพี่เต๋อที่แทรกอยู่ในตัวนิทรรศการด้วย
ออกมาอีกห้องนึง เป็นงานที่เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจของการจัดนิทรรศการนี้ (แคปชั่นคมคายเหมือนข้างใน ชอบเรื่องรถแทกซี่สองคันสุดท้ายบนโลกมาก ซิเนมาติกสุด) และปิดท้ายด้วย ซีน 135 อันเลื่องลือ
โห จุดนั้นนี่อยากลุกขึ้นปรบมือให้เดี๋ยวนั้น พี่ใช้สอยประโยชน์จากทุกซอกทุกมุมแม้กระทั้งตัวอาคารให้มันส่งเสริมให้นิทรรศพี่ก้าวข้ามไปอีกขั้น
มัน symbolize ว่าทุกฉากทุกตอนในภาพยนต์ มันล้วนเกิดจากการนั้งมองมนุษย์ทั่วไปมามีปฎิสัมพันธ์กันในสถานที่ วัตถุดิยมันมีอยู่เกลื่อนกลาด ขึ้นกับเราจะมองมันแบบไหน แล้วให้มันมอบอะไรแก่เราบ้าง
เป็นงานที่กระตุ้นประสาทสัมผัสหลายส่วนไปหมด ทั้ง มอง อ่าน ฟัง คิด คุ้มสุดยอดสำหรับค่าเข้าที่ไม่เสียสักบาท มันแสดงให้เห็นความสามารถเหนือชั้นของพี่ได้อย่างหมดจดจริงๆ ครับ
ตัดสินใจไม่ผิดเลย ที่เลิกติวสอบเร็วเพื่อแวะมางานนี้ สัญญาว่าจะคอยติดตามอิจฉางานพี่เต๋อ (นวพล - ไม่ใช่เรวัตหรือ ฉันทวิทย์) ไปเรื่อยๆ นะครับ
ปล.1 ประทับใจพี่ ช-ญ ที่ดูแลแกลเลอรี่ด้วยครับ พี่เค้าสามารถอธิบายรายละเอียดและเข้าใจตัวงานแสดงลามไปถึงตัวศิลปินอย่างน่าประทับใจ แถมบรรยายเป็นภาษาอังกฤษดีจน ผมอยากรีบกลับไปปัดฝุ่นสกิลตัวเองเดี๋ยวนั้น
ปล.2 นอกจากแรงบันดาลใจ แล้วยังบังเอิ๊ญไปเจอ ร้านข้าวแกงกะหรี่ที่ชอบและไปกินบ่อยๆ สมัยม.ต้น ย้ายมาเปิดที่ตึกคิวเฮาส์นี่ แฮปปี้มีความสุข
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ไปชมนิทรรศการนี้ แนะนำสุดตัวเลย
นิทรรศการ I WRITE YOU A LOT โดย นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ที่ Bangkok City City Gallery บ่ายสองถึงสองทุ่ม ทุกวัน พุธ-อาทิตย์ เปิดถึงวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ลง MRT ลุมพินีทางออก 2 เดินตรงแล้วเลี้ยวเข้าซอยสาทร 1 มาแปปเดียวเจอเลยครับ เอ้อ อย่าลืมเอาหูฟังไปด้วยนะ : #iwriteyoualot #bangkokcitycity
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in