1
ผมชอบนอนใกล้หน้าต่างในฤดูหนาว แล้วมองขึ้นไปบน ท้องฟ้า
สายลมฤดูหนาวมักพัดพาหมู่เมฆจากท้องฟ้าจนหมดสิ้น ฟ้าจึงกระจ่าง ใส และชัดเจนจนเหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อมถึง พลอย ทำให้คิดว่าใจเราใสไปด้วย แม้ความจริงแล้ว จะไม่ได้เป็นอย่างนั้น
แปลก, ที่เรามักมองฤดูหนาวอย่างอบอุ่น เรามักคิดว่าฤดูหนาวเป็นฤดูกาลแห่งความชื่นชมยินดี ฤดูแห่งเสื้อหนาวหลากสีสัน ผ้าพันคอปลิวไสว การวิ่งเล่นในแดดอุ่นและเป็นฤดูท่องเที่ยวที่เราจะเดินทางไปหาสายลมหนาว ณ ดินแดนไกลโพ้นทางภาคเหนือ
แต่ในโลกตะวันตก ฤดูหนาวคือสัญลักษณ์ของความโหดร้าย แอนน์ ดัดลีย์ แบรดสตรีท กวีหญิงชาวพิวริตัน ผู้เกิดในอังกฤษก่อนย้ายไปเป็นนักบุกเบิกในอเมริกาช่วงศตวรรษที่ 17 รู้ดีถึงความโหดร้ายของฤดูหนาวอันยาวนาน
ในยามที่โลกขาวโพลนจนกระดูกสั่นสะท้าน และไม่อาจหนี ไปไหนได้ เธอต้องเผชิญกับความทมิฬหินชาติของความหนาว โลกของนักบุกเบิกไม่สุขสบายเหมือนโลกสมัยใหม่ ไม่มีเครื่องทำความร้อนจากน้ำมันไฟฟ้านอกจากถ่านหินที่มีราคาแพงแล้ว บางคราวนักบุกเบิกต้องเก็บหญ้าแห้งมาฟั่นเป็นเกลียวให้แข็งราวกับหินแล้วเผาหญ้านั้นให้ความอบอุ่นแต่หญ้าก็คือหญ้ามันมักเผาไหม้ไปรวดเร็ว จึงต้องเฝ้าฟั่น กระทั่งวันเวลาแทบหมดสิ้นไปกับการฟั่นเกลียวหญ้า
แต่ถึงอย่างนั้น แอนน์ ดัดลีย์ แบรดสตรีทก็ยังเห็นคุณค่าของฤดูหนาว
เธอบอกว่า
“หากไม่มีฤดูหนาว ฤดูใบไม้ผลิก็คงไม่รื่นรมย์มากนัก หากบางคราวเราไม่ได้ลิ้มรสความทุกข์ลำบาก ความรุ่งโรจน์ก็คงไม่ได้รับการต้อนรับอย่างดีมากเท่าไหร่”
ใครคนหนึ่งเคยบอกผมว่าผู้ที่มองเห็นความงามของฤดูหนาวอันเยือกเย็นเสียดกระดูกได้ มีแต่คนที่มีบ้านเท่านั้น
เขาหมายความว่าคนยากไร้ที่ต้องนอนอยู่กลางถนน หรือแม้แต่มีบ้านผุพัง ย่อมนอนหนาวยะเยือกในยามที่อากาศหนาวกรีดเฉือนรอยแตกร้าวของบ้านเข้ามาด้านใน และอาจนึกรังเกียจฤดูหนาวเสียเหลือเกิน ค่าที่บางคราวก็ถึงขั้นพรากบางคนไปจากชีวิต
ทุกครั้งที่ฤดูหนาวมาเยือน ผมมักคิดถึง The Happy Prince นิทานของออสการ์ ไวลด์ เรื่องราวของนกนางแอ่นอพยพผู้หนีหนาวมาจากดินแดนทางเหนืออันไกลโพ้นจะบินตามฝูงไปยังดินแดนอันอบอุ่นของอียิปต์ แต่มาพบกับรูปปั้นของเจ้าชายในเมืองอันหนาวเหน็บแห่งหนึ่งเสียก่อน
นกนางแอ่นพบว่ารูปปั้นเจ้าชายที่แลดูแสนสุขจากท่วงทีและอัญมณีที่ประดับอยู่นั้น แท้แล้วภายในกลับโศกเศร้าเพราะพระองค์มองเห็นผู้คนทุกข์ยาก ผู้คนที่กำลังจะตายเพราะความหนาวและหิวโหยไม่ว่าพวกเขาจะมีบ้านหรือไม่ก็ตาม
เจ้าชายร้องขอให้นกนางแอ่นช่วยนำอัญมณีที่ประดับพระองค์อยู่ ทั้งอัญมณีที่ฝักดาบ ไล่ไปแม้กระทั่งอัญมณีซึ่งเป็นเสมือนดวงตาของพระองค์ ไปโปรยปรายให้ผู้คนเหล่านั้นเพื่อให้พวกเขามีกินและอยู่รอดได้
นกนางแอ่นรักเจ้าชาย เพราะพระองค์มองเห็นความโหดร้ายของฤดูหนาวทรงรักผู้อื่นและทรงร้องขอให้มันจิกดวงตาของ พระองค์เพื่อเอาอัญมณีที่ดวงตาออกไป พระองค์ยินยอมมองอะไรไม่เห็นอีกชั่วนิรันดรเพื่อให้ผู้อื่นได้มีชีวิตรอด
นกนางแอ่นรู้ถ้าไม่รีบบินไปสู่ที่อบอุ่น วันหนึ่งนกนางแอ่นจะตาย
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in