เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
My First StoryWatjana Chaisombat
而立 偕行 ยืนหยัด(ด้วยตัวเอง)ไปด้วยกัน
  • 张三坚 张三坚回来了 2022-05-10 23:00 发表于北京


    进入而立之年一年整了。31岁这个年龄说小不小,说大也不大,未来还有很长的路要走。


    เข้าสู่ช่วงวัย30แห่งการยืนหยัดด้วยตัวเองครบ1ปีแล้ว อายุ31ปีจะว่าเด็กก็ไม่เด็ก จะว่าแก่ก็ไม่แก่อนาคตยังมีเส้นทางอีกยาวไกล


    这两天的情绪并不是很高涨,也许和天气有关,也许受最近的境遇所影响。本来是想弹唱一首《孤梦》送给大家,不过想想还是等我穿上新衣服、戴上新饰品再和大家好好见面。所以在这样一个平淡又特殊的日子,分享一本书给大家,也分享一些我的思考。


    ในช่วง2วันที่ผ่านมานี้รู้สึกไม่ค่อยเร่าร้อนเท่าไหร่ บางทีอาจเป็นเพราะอากาศ หรือบางทีก็อาจเป็นผลกระทบจากสถานการณ์หลายอย่างในช่วงนี้ด้วย เดิมทีอยากจะร้องและเล่นกีตาร์เพลง “Lonely Dream” มอบให้กับทุกคน แต่คิดไปคิดมารอผมใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับเซ็ทใหม่ค่อยออกมาพบพวกคุณดีกว่า ดังนั้นในวันที่แสนธรรมดาแต่ก็พิเศษแบบนี้ ก็เลยอยากมาแบ่งปันหนังสือเล่มนึงให้ทุกคนอ่านรวมถึงความคิดบางอย่างของผมด้วย


    (หนังสือชื่อ The Joy of Living)


    是云的颜色改变了海水的颜色,海水本身仍然是干净的、清澈的。那片云就像是我们的心境或是情绪,它可能会暂时的让我们感受到焦虑或不安,而那海水就如同你的“心”——当你走近观察时会发现,一如往常。


    สีสันของก้อนเมฆต่างหากที่เปลี่ยนแปลงสีของท้องทะเล แต่ตัวน้ำทะเลเองนั้นยังคงใสสะอาดเช่นเดิม ก้อนเมฆเหล่านั้นก็เหมือนกับอารมณ์หรือความรู้สึกของเราที่อาจทำให้เรารู้สึกวิตกกังวลหรือไม่สบายใจในบางครั้งดั่งเช่นน้ำทะเลเหล่านั้น ที่เปรียบเสมือน ‘หัวใจ’ ของคุณ — แต่เมื่อคุณเพ่งมองใกล้ๆก็จะพบว่า มันยังคงเหมือนเดิม


        โฟกัสไปที่ลมหายใจเข้าออกของคุณ และลองทำสิ่งนี้ดู

        ในตอนแรก คุณอาจแปลกใจที่มีความคิดมากมายผุดขึ้นมาในหัวของคุณ เพราะความคิดทุกประเภทกำลังไหลลงมาราวกับน้ำตกบนหน้าผาสูงชันภายใต้การตระหนักรู้ของคุณ  สิ่งที่เผชิญอยู่นี้ไม่ใช่สัญญาณของความล้มเหลว แต่เป็นสัญลักษณ์ของความสำเร็จ เพราะคุณได้ค้นพบแล้วว่ามักจะมีความคิดที่เข้ามาและดับไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว

         คุณอาจพบว่าตัวเองหมกมุ่นอยู่กับกระแสความคิด ไล่ตามมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า และไม่สนใจส่วนที่เหลือ  จากนั้นคุณก็จำได้ว่าจุดประสงค์ของการฝึกฝนนี้เป็นเพียงแค่การสังเกตความคิด และคุณไม่จำเป็นต้องโทษตัวเอง เพียงแค่หันเหความสนใจกลับไปที่ลมหายใจเข้าออก

         หลังจากฝึกฝนเช่นนี้ไปสักระยะหนึ่งแล้ว จะพบว่าแม้ความคิดและอารมณ์จะวนเวียนไปมา แต่ความชัดเจนตามธรรมชาติของจิตใจไม่เคยถูกรบกวนหรือถูกขัดจังหวะ  ตัวอย่างเช่น ในตอนที่ผมไปเยือนโนวาสโกเชียในแคนาดา และแวะพักผ่อนที่สถานที่นึงใกล้ทะเล  ในวันที่เดินทางมาถึง อากาศดีมาก ท้องฟ้าแจ่มใส ทะเลเป็นสีฟ้า และทิวทัศน์ก็สวยงามมาก  แต่เมื่อผมตื่นขึ้นในเช้าวันถัดมา ทะเลกลับดูเหมือนหม้อซุปขุ่นๆ  ผมอดไม่ได้ที่จะถามออกไปว่า "เกิดอะไรขึ้นที่นี่ เมื่อวานฟ้าใสมาก ทำไมจู่ๆ วันนี้ถึงขุ่นมัวจัง"  ดังนั้นผมจึงออกไปที่ชายหาด แต่ไม่พบเหตุผลที่ชัดเจนสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่มีโคลนในน้ำและตามแนวชายฝั่ง  จากนั้นผมก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าและพบว่าท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆ  ทันใดนั้นผมก็นึกขึ้นได้ว่าเป็นสีของเมฆต่างหากที่เปลี่ยนสีของทะเล!  เมื่อผมมองดูทะเลใกล้ๆ ก็พบว่าน้ำทะเลนั้นยังใสสะอาดอยู่เหมือนเดิม

         เมื่อมองจากหลาย ๆ ด้าน หัวใจก็เหมือนดั่งมหาสมุทร  "สี" ของหัวใจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทุกวัน ทุกขณะ สะท้อนความคิด อารมณ์ ฯลฯ ที่ "ล่องลอยออกมาจากศีรษะ" ต่างกันไป  แต่จิตใจก็เปรียบเสมือนมหาสมุทร ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ยังคงใสสะอาดอยู่เสมอไม่ว่าจะถูกสะท้อนด้วยอะไรก็ตาม  การฝึกสติอาจดูยากในตอนแรก แต่ประเด็นก็คือ ไม่จำเป็นต้องสำเร็จในทันที  ตอนนี้อาจดูเหมือนเป็นไปไม่ได้แต่ด้วยการฝึกฝนจะค่อยๆ ง่ายขึ้น  ไม่มีอะไรที่คุณไม่สามารถทำความคุ้นเคยกับมันได้

          ลองนึกภาพว่าคุณเคยทำในสิ่งที่ไม่น่ายินดีมามากแค่ไหน?  ตัวอย่างเช่น การเดินไปตามถนนที่คนพลุกพล่าน การรับมือกับญาติหรือเพื่อนร่วมงานที่หน้าตาบูดบึ้งเหล่านั้น?  การพัฒนาความตระหนักรู้คือกระบวนการที่ค่อยเป็นค่อยไป เราต้องสร้างการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาทใหม่และระงับการติดต่อสื่อสารเดิมระหว่างเซลล์ประสาทที่รักในการพูด ต้องใช้ความอดทนทีละก้าว ใช้เวลาสั้นๆ แต่ต้องฝึกฝนอย่างต่อเนื่องถึงจะสำเร็จ

          สุภาษิตทิเบตกล่าวไว้ว่า "ความเร่งรีบไม่อาจทำให้คุณไปถึงลาซาได้ แต่คุณจะไปถึงเป้าหมายได้ด้วยการเดินอย่างช้าๆ"  สุภาษิตนี้มาจากภาษาทิเบตตะวันออก เพราะในอดีต ชาวทิเบตตะวันออกเคยเดินไปลาซาเพื่อแสวงบุญ  เพื่อให้ไปถึงกรุงลาซาโดยเร็วที่สุดผู้แสวงบุญบางคนจึงเดินทางโดยเร็วที่สุดแต่เนื่องจากความรีบเร่ง พวกเขาจึงหมดแรงหรือล้มป่วยระหว่างทาง …



         从前的我总是喜欢艳阳高照的天气,方便出门挥洒汗水并让身体充满活力。这可能和我从小生活的城市阴雨天气较多有关,阳光就像是一张出去玩的许可证。

         แต่ไหนแต่ไรมาผมมักจะชอบอากาศในวันที่มีแดดจัด เหมาะที่จะออกไปเสียเหงื่อ(ออกกำลังกายเบาๆ)เพื่อให้ร่างกายสดชื่น  ความชื่นชอบนี้อาจเป็นเพราะสภาพอากาศที่มักจะมีฝนตกบ่อยๆในเมืองที่ผมเติบโตขึ้นมา แสงแดดจึงเปรียบเสมือนใบอนุญาตให้ออกไปเที่ยวเล่นได้


          如今的我会喜欢听着雨声,或者坐在窗前看着雨滴徐徐落下,这会让我感觉到舒心。有时听着滴滴答答的雨声在床上躺一会,体会下慵懒的状态,不需要总是充满活力。

         แต่ในตอนนี้ผมกลับชอบฟังเสียงฝนตกหรือนั่งริมหน้าต่างดูฝนที่ตกลงมาอย่างช้าๆ สิ่งนี้ทำให้ผมรู้สึกสบายใจ บางครั้งก็นอนอยู่บนเตียงสักพักฟังเสียงฝนที่ตกลงมาดังตึกๆตักๆ สัมผัสถึงความรู้สึกของความเกียจคร้าน และไม่จำเป็นต้องเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง


    天气的变换就如同人的情绪,有时晴空阳艳,有时风雨雷电、正如喜怒哀乐的循环。大自然显现并允许着天气的变化,就如同自己的内心接纳着情绪的变迁。悲伤的你是你,快乐的你是你,忧郁的你也是你,怒不可遏的同样是你,静静思考的也是你……

    การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศก็เหมือนอารมณ์ของมนุษย์ บางครั้งท้องฟ้าก็สว่างสดใส บางครั้งก็มีพายุฝนและฟ้าคะนอง เหมือนกับวัฏจักรของอารมณ์ ความสุข ความโกรธ ความเศร้าและความปิติยินดี ธรรมชาติถูกกำหนดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เช่นเดียวกับการยอมรับความแปรปรวนของอารมณ์ภายในจิตใจของคุณ คุณที่โศกเศร้าก็คือตัวคุณ คุณที่สดใสก็คือตัวคุณ คุณที่หดหู่ก็คือตัวคุณ คุณที่เกรี้ยวกราดจนยับยั้งอารมณ์ไม่ได้ก็คือตัวคุณ หรือคุณที่คิดอ่านอย่างสุขุมก็คือตัวคุณอยู่ดี……


    观照自己的内心,等待它变得开阔豁达,静静地体会所有情绪而不是一味抗拒。情绪会随着你的内心流淌、徜徉,激荡……它会来同样也会走。有一个词叫“心乱如麻”,形容我们会时常被外界繁杂的事物,各种噪音所干扰,然而再复杂的结都可以用耐心解开。

    คอยตรวจสอบจิตใจของตัวเอง รอจนมันค่อยๆเปิดกว้างทีละน้อย และสัมผัสถึงอารมณ์ต่างๆอย่างใจเย็น แทนที่จะต่อต้านขัดขืน ปล่อยอารมณ์ให้ไหลไปตามจิตใจของคุณ ร่อนเร่พเนจร และกวัดแกว่งขึ้นลง... อารมณ์เกิดขึ้นก็ย่อมดับไป มีคำๆหนึ่งที่ว่า “จิตใจวุ่นวายเหมือนเส้นด้ายที่พันกัน” อธิบายได้ว่าคนเรามักถูกรบกวนจากสิ่งภายนอกที่สับสนวุ่นวาย และเสียงที่คอยรบกวนต่างๆ นานา แต่ไม่ว่าปัญหาจะพันกันซับซ้อนแค่ไหน ปมก็สามารถคลี่คลายได้ด้วยความอดทน


    “心”就像是你的家,一个可以让你栖息、依靠的地方。家里会有灰尘,在你起居的过程中会变得杂乱不堪,你养的小猫咪会掉毛掉的遍地都是,并顺便把垃圾桶拱倒再滚几圈。所以你需要扫地、拖地、吸尘、整理,为宠物铲屎、加粮、换水,饭后你需要收拾餐桌洗碗,并把垃圾清理干净倒掉。也许你会觉得这很繁琐,但的确你需要照顾好它,因为你需要住在这里——你也只能住在自己的心里。

    "หัวใจ" ก็เปรียบเสมือนบ้านของคุณ เป็นสถานที่ที่คุณสามารถยึดเหนี่ยวและพักพิงได้ ในบ้านอาจจะมีฝุ่นผง และอาจจะรกรุงรังไปตามการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ลูกแมวที่คุณเลี้ยงไว้อาจจะขนร่วงไปทั่วทุกที่ ต้องเอาถังขยะไปเททิ้งและกลิ้งมันสักสองสามรอบ ดังนั้นคุณต้องเก็บกวาด, ปัดถู, ดูดฝุ่น, จัดระเบียบ, ตักอึสัตว์เลี้ยง, เติมอาหาร, เปลี่ยนน้ำ, หลังทานอาหารเสร็จคุณก็ต้องทำความสะอาดโต๊ะ, ล้างจาน และเก็บกวาดขยะ บางทีคุณอาจรู้สึกว่ามันน่าเบื่อเหลือเกิน แต่คุณก็ต้องดูแลมันอยู่ดี เพราะคุณต้องอาศัยอยู่ที่นี่ และมีเพียงหัวใจของคุณเองเท่านั้นที่คุณอาศัยอยู่ได้



    เพศไม่สามารถอธิบายได้ แต่นี่เป็นโอกาสเล็กน้อยที่จะเข้าใจ ความเข้าใจที่จำกัดแม้เป็นเพียงตัวบ่งชี้ที่ชี้ทางให้เข้าใจธรรมชาติของจิตใจโดยตรง พระพุทธเจ้าทรงทราบดีว่าประสบการณ์ที่อธิบายไม่ได้นี้ได้รับการอธิบายได้ดีที่สุดผ่านเรื่องราวและอุปมาอุปมัย ดังนั้น ในคัมภีร์ท่านเปรียบเทียบตถาคตกับทองคำที่ปกคลุมไปด้วยโคลน

      ลองนึกภาพตัวเองว่าเป็นนักล่าสมบัติ วันหนึ่ง คุณพบแผ่นทองคำในดิน คุณขุดทองแผ่นนั้นแล้วนำกลับบ้าน และคุณเริ่มทำความสะอาดมัน ในตอนแรกมีเพียงมุมเล็กๆ ที่เผยให้เห็นเนื้อทองแวววาว แต่เมื่อคุณค่อยๆ ชะล้างตะกอนที่สะสมอยู่ออกไป ทองคำทั้งชิ้นก็ถูกเปิดเผย ตอนนี้ ให้ฉันถามคุณว่า: ทองคำชิ้นไหนมีค่ามากกว่า ทองคำที่ฝังอยู่ในดิน หรือ สิ่งที่คุณชำระให้สะอาด? คำตอบคือ ทั้งคู่มีค่าเท่ากัน ทองสกปรก และ ทองสะอาด บล็อกต่างกันแค่พื้นผิวเท่านั้น

    หลักการเดียวกันนี้สามารถนำมาใช้เพื่อแสดงความคิดตามธรรมชาติได้ เซลล์ประสาทที่ขัดขวางไม่ให้คุณมองเห็นทั้งความคิดของคุณ ไม่ได้เปลี่ยนธรรมชาติของจิตใจของคุณจริงๆ และความคิดเช่น"ฉันน่าเกลียด" "ฉันมันโง่" ," หรือ "เบื่อ" เป็นเพียงสิ่งคลุมเครือชั่วคราว ชนิดของ "ตะกอน" ที่ขวางทางพระพุทธเจ้าหรือธรรมชาติที่สดใสของจิตใจธรรมชาติ

      พระพุทธเจ้ายังทรงเปรียบเทียบจิตธรรมชาติกับ "ที่ว่าง" ในบางครั้ง ที่เรียกว่า "ความว่าง" ไม่จำเป็นต้องเป็นพื้นที่ตามที่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่เข้าใจ แต่เป็นคำอธิบายเชิงกวีมากกว่า เช่น ความเปิดกว้างเมื่อมองขึ้นไปที่ไร้เมฆ ฟ้าหรือเข้าห้องโถงกว้างเหมือนความว่างตามธรรมชาติ'


    两块黄金的价值是一样,不需要被各种标签、标语所束缚,我们的“本然心”也如同黄金。我们在成长的过程难免需要走很长的路,难免身上沾上泥泞、灰尘。所以我们需要在修行的过程中,不断净化自己,让“本然心”指引方向,就像我们常说的“不忘初心”。

    คุณค่าของทองทั้งสองก้อนนั้นเท่ากัน ไม่จำเป็นต้องผูกมัดด้วยป้ายและสโลแกนต่างๆ "ใจธรรมชาติ" ของเราก็เปรียบได้กับทองคำ ในกระบวนการเติบโตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราต้องเดิน ทางยาวไกลและหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราจะเต็มไปด้วยโคลนและฝุ่น ดังนั้น เราจึงต้องหมั่นชำระตนให้บริสุทธิ์อยู่เสมอในกระบวนการฝึกฝน และให้ “จิตธรรมชาติ” นำทาง เหมือนที่เรามักพูดว่า “ไม่ลืมจิตเดิม”


    永远要记住你就是你独一无二的你,身边的朋友认可你、亲人伴侣爱你都是因为你的“心”在发光。即使日全食的现象中,与你有善缘的人依然会看到黑洞周围的“光晕”。只要能时时安住于自己的“本然心”,周围的一切也就如东坡居士所说的“也无风雨也无晴”。

    โปรดจำไว้เสมอว่า คุณคือคุณคนเดียว เพื่อนรอบตัวคุณจำคุณได้ และคนที่คุณรักรักคุณเพราะ"หัวใจ" ของคุณเปล่งประกาย แม้ในช่วงสุริยุปราคาเต็มดวง ผู้มีกรรมดีก็ยังเห็น "รัศมี" รอบ ๆ หลุมดำตราบใดที่คุณสามารถอยู่ใน "หัวใจเดิม" ของคุณได้ตลอดเวลาทุกสิ่งรอบตัวคุณจะเป็นเหมือน "ไม่มีลมหรือฝน" ตามที่ Layman Dongpo กล่าว


    最近的日子让我想起了北海的那座灯塔——再大的风浪也不曾将它吞噬,处于再深的黑暗它也依旧会发出光亮。因为它知道那些迷航的人需要光找到回家的路,迷失的你我也需要光的指引找到回到自心的路。

    ไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ทำให้ฉันนึกถึงประภาคารในทะเลเหนือ ไม่ว่าลมและคลื่นจะใหญ่แค่ไหน พวกมันยังไม่กลืนกิน ประภาคารก็ยังส่องแสงในความมืดที่ลึกที่สุด เพราะรู้ว่าคนที่หลงทางต้องการแสงสว่างเพื่อหาทางกลับบ้าน และคุณและฉันที่หลงทางก็ต้องการการนำทางของความสว่างเพื่อค้นหาทางกลับใจของเรา


    祝大家都能守护好自己的心境,愿有生的日子天天快乐。

    ผมขอให้ทุกคนโชคดีและขอให้คุณมีชีวิตที่มีความสุขทุกวัน


    既而立,永偕行。

    ต่างคนต่างยืนหยัด ท่องไปด้วยกันตราบนานเท่านาน

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in