Couple; Jungwoo x Taeil
Note; AU Thai
Tag; #อาลัวของอั๋น
“เห้ยอั๋นเมื่อวานหายไปไหนวะไม่อยู่ซ้อมบอลด้วย”เสียงที่เอ่ยขึ้นจากด้านหลังเรียกให้คนที่กำลังนอนฟุบหน้าอยู่กับโต๊ะหันไปหาก่อนจะดึงหูฟังที่เสียบคาไว้ที่หูออกเพื่อต่อบทสนทนา
“พอดีเมื่อวานแม่ให้ไปรับอาอ่ะเดี๋ยววันนี้กูอยู่ซ้อมไม่ต้องห่วง” เจ้าของน้ำเสียงนุ่มเอ่ยตอบกับเพื่อนสนิทที่นั่งลงข้างๆคนมาใหม่แค่พยักหน้ารับไม่ได้ต่อความอะไรมากก่อนจะกางสมุดจดบันทึกที่ร่างแบบของเครื่องจักรออกมากางไว้บนโต๊ะ
เพราะวันนี้พวกเขามีเรียนวิชาปฏิบัติทำให้บรรยากาศรอบข้างเลยไม่ใช่แค่ห้องสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยโต๊ะเรียนแต่กลับเป็นห้องกว้างที่เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือและกลิ่นของน้ำมันเครื่องที่ลอยคลุ้งอยู่เจ้าของส่วนสูงที่เลยร้อยแปดสิบไปแล้วแม้ว่าตอนนี้จะเพิ่งอยู่แค่ปวช.ปีสามชะโงกหน้าไปดูแบบแปลนที่อยู่บนโต๊ะตรงหน้าก่อนจะคว้าดินสอไม้ในกระเป๋าเสื้อช็อปออกมาขีดเขียนในส่วนที่ตัวเองคิดว่าควรปรับเพิ่มจนรู้สึกพอใจ
“กูว่าสเกลตรงนี้มันไม่น่าจะพออ่ะมึงลองปรับเพิ่มตรงนี้ดิ แบบที่มึงร่างมามันดูใช้จริงไม่ได้อ่ะอาจารย์พ่อไม่น่าจะให้ผ่าน” น้ำเสียงนุ่มทุ่มเอ่ยออกมาหลังจากตัวเองเก็บดินสอใส่กระเป๋าเสื้อช็อปตามเดิม
“อ้าวหรอ เออๆขอบใจเพื่อน”
“อ้าวแล้วของมึงอ่ะ”
“เสร็จแล้ว เหลือแค่สร้างของจริง”
คู่สนทนาไม่ได้รู้สึกแปลกใจเท่าไหร่กับคำตอบของอีกคนในเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงตัวท็อปของระดับชั้นจริงๆระดับอีกคนนั้นน่าจะเรียนมหาวิทยาลัยได้สบายๆแต่เหมือนว่าอีกฝ่ายไม่อยากจะเรียนต่ออยากจะเรียนให้จบสายอาชีพเพราะอยากจะไปรับช่วงกิจการของที่บ้านต่อ
เสียงเครื่องมือที่หยุดลงในห้องปฏิบัติการเป็นสัญญาณว่าคนที่กำลังใช้งานมันอยู่กำลังจะเสร็จงานในส่วนของวันนี้อั๋นหยุดมือที่กำลังเชื่อมเหล็กเมื่อเห็นว่านาฬิกาบนฝาผนังบอกเวลาเกือบบ่ายสามแล้ว
“อ้าวอั๋นเสร็จแล้วหรอวะ”
“ยังไม่เสร็จวะแต่เดี๋ยวมาทำต่อไปรับอาก่อน” เจ้าของร่างสูงโปรงเดินไปหยิบผ้าที่วางอยู่บนโต๊ะมาเช็ดคราบต่างๆให้จางลงก่อนจะเดินไปยังก๊อกน้ำที่อยู่ไม่ไกลเพื่อล้างมืออีกรอบให้หมดคราบเหล็กและน้ำมันเครื่องที่ติดอยู่ที่มือ
“มึงจะไปรับอาอะไรของมึงทุกวันไหนบอกว่าวันนี้จะไปซ้อมบอล”
“เออกูมาซ้อมแน่แต่ไปรับอาก่อนเดี่ยวไปส่งที่บ้านเสร็จแล้วรีบกลับมาซ้อมตั้งสี่โมงครึ่งมึงจะรีบอะไรขนาดนั้น” คนตัวสูงที่ล้างมือจนสะอาดเอ่ยตอบอีกฝ่ายพร้อมกับเช็ดมือให้เรียบร้อยแต่ก็ไม่วายยกมือขึ้นมาดมเพื่อพิสูจน์ว่าไม่มีกลิ่นติดมือก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าเป้ใบเก่งเดินออกไปยังลานจอดมอเตอร์ไซค์
GPX CR5 สีเหลืองดำที่ได้รับการดูแลอย่างดีคือรถที่คนตัวสูงเดินไปแสดงความเป็นเจ้าของมือหน้าล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกงยีนส์พอดีตัวก่อนจะก้าวคร่อมรถคันสวยเสียงเครื่องยนต์สี่สูบที่ดังขึ้นเรียกสายตาให้ใครหลายๆคนหันมามองไม่ใช่เพราะความน่ารำคาญของเสียงแต่เพราะเสียงที่ดังขึ้นมันให้ความรู้สึกเท่มากในสายตาของนักเรียนสายอาชีพหลายๆคนในวิทยาลัยแห่งนี้
รถมอเตอร์ไซค์สี่สูบเคลื่อนตัวออกจากรั้วของวิทยาลัยไม่ได้ช้ามากด้วยข้อจำกัดของรอบการหมุนของเครื่องแต่เจ้าของรถก็พยยามที่จะไม่ขับเร็วเกินไปในย่านที่มีคนพลุกพล่านแบบนี้และอีกอย่างหนึ่งอาของเขาก็ไม่ชอบเหมือนกันที่เขาจะขับรถเร็ว
รถมอเตอร์ไซค์สี่สูบลงตรงหน้าโรงเรียนสอนทำขนมในตัวเมืองแต่ก็ไม่ได้ไกลจากวิทยาลัยเทคนิคมากเท่าไหร่คนตัวสูงจอดรถให้ตรงกับช่องจอดก่อนจะถอดหมวกกันน็อคแบบเต็มใบออกแล้ววางไว้ที่แฮนด์มอเตอร์ไซค์เพื่อที่จะเดินเข้าไปรอใครอีกคนที่ข้างในและทันทีที่พลักประตูเข้าไปสิ่งแรกที่สายจาจับจ้องก็คือนาฬิกาบนผนังที่บอกว่าเพิ่งจะสามโมงนิดๆยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าคนที่เขามารับจะเลิกเรียน
“อ้าวน้องอั๋น วันนี้มาไวนะคะ”เสียงพนักงานต้อนรับสาวของโรงเรียนเอ่ยทักคนคุ้นหน้าที่ช่วงนี้แวะเวียนมารับนักเรียนในโรงเรียนนี้เกือบทุกวัน“อีกตั้งครึ่งชั่วโมงนะคะกว่าจะเลิกวันนี้มีคลาสทำขนมไทยน้องอั๋นจะลองแวะไปดูก็ได้นะคะชอบขนมอาลัวไม่ใช่หรอเราหน่ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมขอเข้าไปดูหน่อยนึงนะครับ”คนเด็กว่าเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มก่อนจะเอ่ยขอตัวเพื่อไปดูคลาสทำขนมไทยของใครบางคน
รอยยิ้มผุดขึ้นเต็มใบหน้าทันทีที่มองผ่านประตูกระจกเข้าไปแล้วเจอกับใครบางคนที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวดกับสูตรการทำขนมที่ให้เดาอั๋นก็คงเดาว่าป่านนี้เจ้าตัวคงกำลังก่นด่าขนมซักอย่างที่น่าจะออกมาไม่ได้อย่างใจใบหน้าน่ารักที่ง้ำงอไม่สนใจแม้กระทั่งว่าตอนนี้แก้มตัวเองจะเลอะไปด้วยแป้งทำขนมจนคนที่แอบมองอดคิดไม่ได้ว่าคนๆนั้นอายุแก่กว่าเขาสี่ปีจริงหรือเปล่า
และเหมือนคนที่อยู่ภายในห้องจะสังเกตุเห็นเขาคนตัวสูงชี้นิ้วเข้าที่แก้มตัวเองเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรู้ว่าตอนนี้แก้มของเจ้าตัวกำลังเลอะแต่เหมือนคนข้างในจะไม่เข้าใจเขาซะเลยจนอั๋นต้องขยับปากเป็นคำว่าแก้มเลอะ คนที่อยู่ข้างในถึงได้ร้องอ๋อออกมาถึงแม้จะไม่ได้ยินแต่อั๋นเดาได้เลยว่าเสียงที่อีกฝ่ายเปล่งออกมามันจะต้องน่าเอ็นดูมากแน่ๆแต่จนแล้วจนรอดคนข้างในก็เช็ดแป้งที่แก้มไม่เสร็จซักทีจนคนที่ยืนมองอยากจะดึงอีกฝ่ายมาเช็ดให้ติดแต่ว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องนั้น
ความวุ่นวายและเสียงที่ครื้นเครงขึ้นในห้องเรียนทำขนมเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อขนมที่เอาเข้าตู้อบนั้นเสร็จเรียบร้อยและแน่นอนว่างานนี้มีทั้งคนที่ดีใจจนยิ้มแก้มปริและคนที่หน้าบูดเพราะขนมที่ตั้งใจทำไม่ได้ออกมาอย่างที่หวังและแน่นอนว่าคนที่อั๋นมารับนั้นไม่ได้อยู่ในประเภทแรกแน่นอนคนตัวเล็กข้างในหน้างอง้ำเสียยิ่งกว่าตอนที่อั๋นมาเจอซะอีกยิ่งเมื่ออีกฝ่ายหยิบขนมที่ตัวเองทำขึ้นมามอง ริมฝีปากที่เขาชอบบีบเล่นก็ยิ่งเบะคว่ำลงไปกว่าเดิมเสียอีก
ดวงตาคู่สวยที่หันมาสบเข้ากับเขามาแต่แววตัดพ้อจนอั๋นอยากจะวิ่งผ่านประตูเข้าไปกอดปลอบแต่ก็ได้แต่ยืนส่งยิ้มปลอบอีกฝ่ายต่อไปสงสัยว่างานนี้เขาคงต้องพาคนในห้องเรียนไปลอบใจด้วยชาบูหม้อใหญ่แล้วต่อด้วยไอศครีมเป็นแน่ไม่อย่างงั้นเจ้าตัวคงไม่หยุดงอแงแน่ๆ
และแล้วเวลาที่คนตัวสูงรอคอยก็มาถึงเมื่อคนในห้องเริ่มเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเข้าที่และเตรียมหยิบสัมภาระของตัวเองขึ้นมาเสียงพูดคุยดังขึ้นอีกรอบเมื่อประตูห้องเรียนทำขนมเปิดออกในมือของนักเรียนแต่ละคนมีกล่องขนมที่เพิ่งทำเสร็จมือซักครู่เพียงแค่ได้กลิ่นอั๋นก็รู้แล้วว่าวันนี้ขนมที่ห้องเรียนนี้ทำคือขนมอะไร
“รอนานมะ” คนตัวเล็กที่เดินหน้ายู่มาหยุดตัวหน้าเขาเอ่ยถาม
“แปปเดียว”คนตัวสูงเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าเป้ที่อีกฝ่ายสะพายไว้บนไหล่เพราะความสูงที่ห่างกันร่วมสิบเซ็นต์อีกฝ่ายเลยสูงถึงแค่ปลายจมูกของเขาจนต้องเงยหน้ามาสบตา“ทำไมทำหน้าแบบนั้นหล่ะ”
แม้จะรู้อยู่แล้วว่าเพราะอะไรแต่คนตัวสูงก็ยังเลือกที่จะเอ่ยออกไปเพื่อแสดงให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขากำลังใส่ใจอีกฝ่ายอยู่นะคนตัวเล็กไม่ได้ตอบแต่ริมฝีปากกลับเบะลงพร้อมกับดับกล่องขนมที่เพิ่งทำเสร็จเมื่อกี้ใส่หน้าท้องอีกคน
“มันไม่อร่อย” พูดจบก็เบะอีกรอบจนคนตัวสูงอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือไปดึงรั้งริมฝีปากเล็กนั่น
“รู้ได้ไงว่ามันไม่อร่อย เดี๋ยวอั๋นกินก็อาจจะอร่อยก็ได้
“อั๋นกินอะไรก็อร่อยทุกอย่างไม่ใช่หรือไง ลิ้นจระเข้ซะขนาดนั้น” ว่าจบก็เดินนำอีกคนออกไปจากหน้าห้องเรียนทำอาหารเพื่อที่จะกลับออกจากที่นี่“แล้วนี่วันนี้ไม่ซ้อมบอลหรอทำไมมารับเร็ว”
“ซ้อม แต่ว่าเดี๋ยวไปส่งเธอก่อนไง เดี๋ยวอั๋นไปรอข้างนอกนะ”คนตัวสูงตอบกลับอีกฝ่ายก่อนจะปล่อยให้คนตัวเล็กคุยธุระกับพนักงานต้อนรับของโรงเรียนที่เรียนอีกฝ่ายไว้เพื่อจะคุยด้วยและรอไม่นานอีกฝ่ายก็เดิมตรงมาหาอั๋นส่งหมวกกันน็อคใบเก่งของตัวเองให้อีกฝ่ายเอาไปสวมไว้ และแน่นอนว่าจุดหมายต่อไปของมอเตอร์ไซค์สี่สูบคันนี้ก็คือห้างสรรพสินค้าที่ไม่ได้ไกลไปจากโรงเรียนสอนทำขนมแห่งนี้และวิทยาลัยเทคนิคเท่าไหร่
“ไอ้อั๋น ไอ้ห่า! ไหนบอกไปรับอา” เสียงเรียกชื่อที่ดังขึ้นมาจากบริเวณโซนด้านนอกของร้านไอศครีมสีแดงที่เขาและคนตัวเล็กกำลังนั่งกันอยู่ทั้งๆที่คิดไว้แล้วว่าอาจจะเจอใครซักคนในวิทยาลัยแต่ก็ไม่คิดว่าคนที่เจอจะเป็นเพื่อนสนิทที่เขาบอกกับอีกฝ่ายว่าไปรับอา
“เอ้าก็ไปรับอาจริงๆ”คนตัวสูงเอ่ยตอบเพื่อนสนิทที่ตอนนี้เดินมาจนชิดขอบกั้นของร้านที่เขานั่งอยู่
“กูถามจริงๆอั๋น อามึงหรอเด็กขนาดนี้”คนตัวสูงเหลือบมองคนที่นั่งฝั่งตรงข้ามที่มองเขากับเพื่อนคุยกันด้วยแววตาสงสัยเขาไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายไม่รู้จักเพื่อนเขาเพราะเขาไม่เคยพาคนตัวเล็กไปแนะนำให้เพื่อนซักครั้ง
“ก็อาไง เนี่ย คนนี้ชื่ออาลัว แล้วกูบอกว่ากูไปรับอากูผิดตรงไหน”คนตัวสูงที่เอ่ยตอบเพื่อนไปปล่อยขำออกมาจนคนที่นั่งอยู่ด้วยต้องถลึงตาใส่
“อั๋น! บอกกี่รอบแล้วว่าอย่าตัดคำในชื่อ”น้ำเสียงไม่พอใจที่มาพร้อมกับใบหน้างอง้ำไม่ได้ทำให้คนที่คนกำลังอมยิ้มอยู่รู้สึกสลดลงได้ซักนิดแต่มันทำให้อั๋นรู้สึกเอ็นดูคนตรงหน้าแทนต่างหากไม่รู้เลยหรือไงว่าท่าทางดุๆแบบนั้นแทบไม่ได้ต่างอะไรกับลูกแมวเลย
“อย่าไปสนใจอั๋นเลย พี่ชื่ออาลัวนะ นี่เป็นเพื่อนอั๋นกันใช่มั้ย”เมื่อเห็นว่าคนตัวสูงไม่ได้รู้สึกผิดอะไรคนตัวเล็กก็หันกลับมาคุยกับเด็กที่เข้ามาเอ่ยทักดูจากเสื้อช็อปที่ใส่ก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นเพื่อนที่วิทยาลัยของอีกฝ่าย
“สวัสดีครับพี่ ผมชื่อโจ้ครับเป็นเพื่อนมันที่วิด
“ไอ้สัสอย่ายิ้มเยอะ จะไปไหนก็ไปมึงอ่ะ” และก็เป็นอั๋นที่เป็นคนที่ขัดจังหวะขึ้นมาแม้แกติจะชอบรอยยิ้มของอาลัวมากแค่ไหนแต่เขาไม่เคยชอบใจเลยซักครั้งที่อีกฝ่ายจะส่งยิ้มไปให้คนอื่นแต่คนตัวสูงก็ไม่ใช่คนที่จะพูดเพียงอย่างเดียวเมื่อมีหน้าฟาดลงที่กลางแผ่นหลังของเพื่อนที่เอาแต่ยืนยิ้มให้กับแฟนของตัวเอง
“ทำมาหวงไอ้สัส กูไปละซ้อมบอลสี่ครึ่งนะมึง”
“บาย”อั๋นโบกมือลาเพื่อนสนิทด้วยท่าทางกวนๆอย่างอารมณ์ดีเมื่ออีกฝ่ายเดินจากออกไปแต่พอกันกลับมาก็เจอว่าคนที่มาด้วยกำลังนั่งกอดอกหน้าตาบอกบุญไม่รับไม่บอกก็รู้ว่างานนี้เขาคงได้ง้ออีกฝ่ายยาวแน่ๆ
“เธอ ไม่งอนอั๋นดิ อั๋นแกล้งเพื่อนเฉยๆ” แต่เมื่ออีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมานอกจากนั่งมองหน้านิ่งๆก็ทำเอาคนตัวสูงเริ่มรน“อั๋นไม่แกล้งเพื่อนแล้วก็ได้ สัญญา เลิกงอนอั๋นก่อน เนี่ยง้ออยู่นะ”
“แล้วไง”
“เธอ ยอมแล้วไม่เรียกว่าอาเฉยๆแล้ว เดี๋ยวคัดคำว่าอาลัวยี่สิบจบเลยก็ได้เดี๋ยวอั๋นลงคอร์สทำขนมเพิ่มให้อีกคอร์สก็ได้ เลิกงอนอั๋นนะอาลัวนะ”และคราวนี้คนตัวสูงคิดว่าตัวเองทำสำเร็จเมื่อมุมปากของคนตรงหน้ากระตุกเบาๆ
“คราวหน้า ขอเป็นคอร์สทำเบเกอรี่นะ ขนมไทยไม่น่าจะรอด”และสิ่งที่คนตัวสูงคิดไว้ก็ไม่พลาดเมื่ออาลัวยกยิ้มกว้างออกมาแล้วก็ตักไอศครีมที่เหลืออยู่ต่อ“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างงั้น อั๋นพูดเองนะ ลูกผู้ชายคนไหนคำนั้นนะ”
และแน่นอนว่าคนอย่างอั๋นจะทำอะไรได้นอกจากนั่งกินไอติมที่เริ่มละลายแล้วของตัวเองต่อพร้อมกับคำนวนเงินเก็บขของตัวเองที่รับจ็อบซ่อมรถให้ร้านของพ่อกับค่าเรียนทำเบเกอรี่ของคนตัวเล็กตรงหน้า
End.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in