เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
wes anderson moviesbchapril
Moonrise Kingdom (2012)

  • My last salutations are to them who khew me imperfect and loved me

    นมัสการสุดท้ายขอมอบแด่ผู้ซึ่งรู้ว่าข้าบกพร่อง แต่ก็รัก

    — Rabindranath Tagore



    A very powerful experience of childhood romance : ความรักในวัยเด็ก 

    "ไร้เดียงสา จินตนาการ ตลกร้าย" คือสามคำที่ผุดขึ้นมาในหัวหลังจากดูหนังเรื่องนี้จบ ต้องขอบคุณความบังเอิญหรืออะไรซักอย่างที่ทำให้หยิบหนังเรื่องนี้ขึ้นมาดูในวันหยุด  moonrise Kingdomเป็นหนังเรื่องแรกของเวส แอนเดอร์สันที่เราเริ่มดู ด้วยความที่หนังแต่ละเรื่องของเขามีกลิ่นอายหนังเวสชัดประหนึ่งมีลายเซนต์เขียนไว้อยู่ทุกหน้าๆประกอบกับซาวต์แทร็คที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้เข้ากับหนังในแต่ละฉาก  จึงทำให้ตกหลุมรักสไตล์หนังของผู้กำกับคนนี้เข้าอย่างจัง เรียกว่าใครที่พลาดท่าชอบภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าแล้วก็ต้องขวนขวานภาพยนตร์เรื่องอื่นของเวส แอนเดอร์สันมาดูแน่นอนเลยทีเดียว

    moonrise Kingdomเป็นเหมือนโลกแฟนตาซีของเด็กๆที่แฝงประเด็นสอดแทรกเสียดสีผู้ใหญ่ได้อย่างเจ็บแสบ เวส แอนเดอร์สันได้แฝงความหนักหน่วงของเนื้อเรื่องเอาไว้เบื้องหลังของความตลกสดใสในการแสดง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ต้องตีความหมายเองจนปวดหัวแต่อย่างใด



    Familial love : เมื่อบ้านไม่ใช่safe zoneของเด็กทุกคน

       ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยการที่ตัวละครหลักทั้งสองซูซี่และแซมตัดสินใจหนีออกจากบ้านไปด้วยกันเพื่อออกตามหาความฝันในการใช้ชีวิตอยู่บนเกาะที่แสนไกล หากจะบอกว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากปัญหาครอบครัวก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก เนื่องจากตัวละครหลักทั้งสองต่างมีปัญหาตรงนี้ แซม เป็นเด็กกพร้าที่ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่บุญธรรมที่เบื่อหน่ายเขาและไม่ต้องการจะเลี้ยงดูเขาอีกต่อไป ส่วนซูซี่แม้ครอบครัวจะอุดมไปด้วยรูปธรรมภายนอกที่แสนอบอุ่น แต่ในภาวะจิตใจกลับเต็มไปด้วยรอยร้าว นี่จึงเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่เวส แอนเดอร์สันต้องการจะสื่อ ให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสถาบันครอบครัวที่ดูเหมือนจะมั่นคงภายนอกแต่ข้างในมีปัญหา



    จุดเริ่มต้นนี้ทำให้ทั้งสองรู้สึกโดดเดี่ยว ต้องการความสนใจและต้องการหลีกเลี่ยงความรู้สึกนี้ การหนีของทั้งสองจึงเป็นเหมือนการเติมเต็มกันและกันภายในเกาะเล็กๆแห่งนี้ แซมค้นหาพื้นที่ที่เค้าต้องการเพื่อสร้างสิ่งรูปธรรมภายนอกที่เขาไม่มี เช่น บ้าน ครอบครัว ส่วนซูซี่ที่มีทุกอย่างก็ต้องใครซักคนมาเติมพื้นที่ในจิตใจที่หายไป



    We won't understand about being adults until we become adult : โลกของผู้ใหญ่

       แต่ถึงอย่างนั้นโลกของทั้งสองกลับต้องหยุดชะงักลงด้วยโลกของผู้ใหญ่ โลกของผู้ใหญ่ใจเรื่องนี้จึงเป็นอะไรที่วุ่นวายและยุ่งเหยิง ซึ่งเป็นภาพสะท้อนถึงสถาบันต่างๆในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสถาบันครอบครัว สถาบันรัฐ หรือแม้แต่สถาบันการศึกษา ซึ่งต่างต้องการให้คนอยู่ใต้การดูแลของตัวเอง แม่เหมือนจะดูแลเอาใจใส่แต่ลึกๆแล้วกลับมีปัญหาที่ยากจะแก้ไข โดนเซส แอนเดอร์สันได้สื่อประเด็นนี้ผ่านตัวละครพ่อแม่ของซูซี่ นายหมู่ลูกเสือ ทหารประจำเกาะ และนัดประชาสงเคราะห์ 

      การไล่ตามของผู้ใหญ่ มีแต่จะยิ่งทำให้เด็กหนีและตีตัวออกไปไกล ในหนังได้เสียดสีด้วยการใช้วิธีวิ่งไล่จับ เซส แอนเดอร์สันต้องการสื่อให้เห็นว่ายิ่งผู้ใหญ่ดื้อดึงที่จะไล่ตาม เด็กก็จะยิ่งหนี จนผลสุดท้ายคือการแตกหัก อย่างไรก็ตามประเด็นที่เซส แอนเดอร์สันต้องการจะสื่อถึงคือปัญหาของสถาบันที่กระทบไแถึงตัวเด็กๆ 

    Moonrise kingdom มันคือโลกแฟนตาซีของเด็กๆทร่ผู้ใหญ่ควรรับชม

    คะแนน : 9.5/10


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in