บอกก่อนว่าอ่านไม่จบ ตายที่แถวๆ ครึ่งเล่มสอง ดังนั้นโปรดอย่าเชื่อถืออะไรข้าพเจ้ามาก
เรื่องคือนางเอกตายแล้วย้อนกลับมาที่ชีวิตตัวเองก่อนจะเริ่มแย่ ก็กลับมาหาวิธีใช้ชีวิต ใครจะรักใครก็รักไป ไม่เกี่ยวกับนางแล้ว
สโคปประมาณนี้
*จากนี้จะมีสปอยล์เล็กน้อยถึงปานกลางค่ะ*
.
.
.
.
ในส่วนความเห็น ช่วงเล่มแรกจริงๆ เพลินๆ นะ มีคนมาบอกเราว่าเขาอ่านไม่จบ เรายังมั่นหน้าบอกเขาเลยว่าดูทรงจากเล่มแรกแล้ว เราน่าจะอ่านจบ
มาตายตอนเล่มสอง OTL
หลังจากหมดเรื่องวุ่นวายบ้านสามีเก่านางเอกก๊อกที่หนึ่ง เรื่องมันก็กลิ้งๆ เกลือกๆ กันไป
พูดภาพรวมก่อน เรื่องนี้คนชอบเน้นตรงปรัชญา เรามีอ่านๆ แล้วขำตัวเอง จู่ๆ ก็เข้าใจเวลาเพื่อนนอกวงการทำหน้าเหวอตอนพ่นเรื่องเทคโนโลยีใส่กัน ฟีลนั้น
เท่าที่อ่านถึงไม่อินกับบทปรัชญาที่พรีเซ้นต์ ไม่ค่อยได้สิ่งที่คิดตาม แต่ปกติเราไม่ใช่สายปรัชญาอยู่แล้วอะนะ อันนี้ยกประโยชน์ให้จำเลยไป อาจจะเพราะเราไม่อินปรัญชาตะวันออกด้วย เราเป็นสายตะวันตก ไปทางตรรกศาสตร์งี้ รู้สึกจับต้องได้มากกว่า
เรามองว่ากวนซู่อี (นางเอก) ใช้ถ้อยคำมากไป เปิดปากคือฟาดๆ ทีสามย่อขั้นต่ำ พยายามจะใช้เพื่อเน้นความเป็นสตรีงดงามเปิดเผย กล้าคิดกล้าพูด ไม่เหมือนใคร เต็มไปด้วยความสูงสง่าบริสุทธิ์และเปี่ยมคุณธรรม...มากไป
Not convinced
แถมที่ตบก็ไม่สะใจไปเลยแบบละคร เลยอยู่ครึ่งๆ กลางๆ จะวิชาการก็ไปไม่ถึง จะละครก็ลงมาไม่ได้
แล้วมีจุดที่ใครสักคนชมว่านางเอกแบบ จิตใจบริสุทธิ์ นี่ขำ โอ๊ยยยยย
เมื่อกี้ฉันยังเพิ่งชมเองว่าตะแหลตาใสมาก
จะบอกว่าเอาคืน ป้องกันตัว วอตเอเวอร์ ก็เกินความบริสุทธิ์เต็มไปด้วยคุณธรรมละ
คุณคนเขียนน่าจะชอบสาวงามสูงงงงส่ง บริสุทธิ์ กล้าหาญเปิดเผยตรงไปตรงมาแหละ เห็นจากเรื่องก่อนๆ แล้วเรื่องนี้เน้นเหลือเกิน เน้นจนอ่านแล้วเหนื่อยละเนี่ย
อ้อ ประทับใจที่นางฝึกคัดอักษรด้วยการถ่วงน้ำหนักที่ข้อมือ แล้วคนใช้นางเอกบอกแข็งแรงมากจนผ่าแตงโมได้ด้วยมือเปล่า ไม่มีเหตุผลความประทับใจอะไร ขำแหละ
อ้อ นอกจากถ่วงหิน นางเอกเล่าให้บ้านสามีฟังว่าสมัยก่อนแม่นางให้ดำน้ำเย็นๆ หรืออะไรเทือกนี้ ฝึกเผชิญความหนาว เพื่อความแข็งแกร่งของลูกดีนะไม่ซิตอัปวิดพื้นด้วย
เป็นปัญญาชนคือต้องขนาดนี้ ยอมนะ
มีแวบนึงเราคิดว่านางเอกแค่จ้อจี้ให้สามีกะแม่สามีฟัง แต่ดูจากความภูมิใจแล้วน่าจะเอาจริงว่ะ
นางเอกทำให้คิดถึงคุณคนเขียนนางสนมดั้วะ 55555 --- ลักษณะตัวละครที่ชีวิตชีวาไม่พอเป็นมนุษย์ แต่งดงาม สูงส่ง เปิดเผย ตรงไปตรงมา และแลว่าไม่อินังขังขอบต่อคนอื่น
ข้าก็เป็นสตรีเช่นนี้ ท่านจะรักใครก็รักไปเถิด
ได้อยู่
แต่คุณนางสนมนางเอกเขาแบนๆ เบลนด์ๆ กว่า ทำน้อยกว่า เน้นสวยๆ กินๆ นอนๆอ่านแบบตุ้บตั้บเรื่องในบ้าน จะรักใครบันเทิงกว่า ไม่ได้อ่านเพราะความงดงามของปรัชญา เพราะนี่อ่านแล้วไม่ไปตาม
นอกจากคุณธรรมที่ย้ำแล้วย้ำอีกจนกลัวจะเป็น OCD กันไป ยังมีบทชมโฉมพิลาสล้ำจนอยากจะรีเควสต์นางเอกหน้าตาบ้านๆ แต่เฉียบคมมาแทน
อ้อ แล้วก็พ่อแม่ปู่นางเอกรักๆๆๆ จะปกป้อง พร้อมเฟียซๆ
ซึ่งตูก็แอบสงสัยว่าชาติก่อนยังตะกุกตะกักเถียงไม่ทัน ชาตินี้มาหน้าท้องพระโรงคือฉอดมาก ขุ่นพ่อก็มาสายคดเคี้ยว ชาติก่อนแค่ขาดโอกาสงี้
ตรงนี้ตอนอ่านว่าตัวละครเบลอไปหน่อย
สว่นตัวมองว่าถ้าคนได้เรื่อง คิดว่ามันต้องมีกึ๋นพอจะสู้กว่านี้สิ คือเรื่องมันก็ให้เหตุผลที่รับได้ แต่ก็ขาดความเชื่อถือในเหตุผลที่ให้อะ ตัวซัพพอร์ตมันไม่พอ TvT
นี่อ่านๆ ไปแอบว่าเหมือนท่านปู่กะท่านพ่อแบบ มีอำนาจในมือ เลยค่อยเป็นวิญญูชนผู้ยึดมั่น ชาติก่อนพอไม่มีอำนาจความนับถือเสียความมั่นใจเลยจ๋องงี้อ๋อ ยึดมั่นอะไรกันเนี่ยพวกเธอ
อย่างที่บอกว่ามันไม่ถึงกับขัดไปทั้งหมด แต่ขัดความรู้สึกเล็กๆ น้อยๆ
บางมุมตูก็ฟีลว่าผู้มีคุณธรรมพวกนี้คือแผนสร้างภาพอะ
มีครั้งหนึ่งที่ปู่นางเอกคุยกัน วางแผนฟ้องพ่อนางเอก เป็นแผนเลย ทั้งหมดเพื่อชื่อเสียงตระกูลกวน แต่ตระกูลเราสง่าผ่าเผยตรงไปตรงมานะ เราแค่แอบวางแผนลับหลังทำเป็นคนดีเนาะ นี่ต้องทบทวนคำว่าตรงไปตรงมาและคุณธรรมของตัวเองแล้วเนี่ย Are you sure?
แถมนางเอกทำอะไรก็ "เพื่อชื่อเสียงและเมตตาธรรมของตระกูลกวน" รัวๆ ลูกเดียว
แน่ใจนะว่าที่ทำอยู่คือเมตตาธรรมน่ะเธอ?
ส่วนตัวเราชอบตัวละครที่แบบ "กูเลว แต่กูจะทำ" มากกว่า "กูทำ เพราะกูเป็นคนดี"
นอกจากพวกนี้ สามีเก่านางเอกนี่ก็ไบโพลาร์หรือเปล่า เดี๋ยวเธอพูดอย่าง ทำอีกอย่าง ทำอย่าง พูดอีกอย่าง แอบพลิกไปอ่านตอนพิเศษก็ไม่ได้รู้สึกสงสารอะไร เพราะแม่งเพี้ยน
.
.
และเอาจริงๆ เลยนะ ไอ้ที่ว่า "ปรัชญา" เนี่ย
เราได้คิดนิดนึงเล่มแรก เล่มสองอ่านไปจะครึ่งหนึ่งก็เห็นแค่แผนปกครองที่แบบ ก็คอมมอนเซ้นส์จนว่าเอาไว้ว่างก่อนจะไปเปิดดูว่าสมัยแคว้นฉินทำอะไรไว้บ้างวะ อีการวางระเบียบแบบนี้มันก็ปกติไหม
คือคิดถึงธีสิส 555555
ว่าถ้าเขาจะให้ตัวละครเสนอธีสิส (แนวความคิด) ที่ควรปูคือ BG ว่าก่อนนี้ทำอะไรกันมา ก่อนจะบอกว่าแนวคิดนี้คือตรงไหน ผลดีเสียต่างอย่างไร Discuss กันมันจะทำให้อ่านง่ายกว่าโยนแผนการปกครองที่ก็ ideal มาหนึ่งตุ้บ แล้วปู่นางเอกก็ปลาบปลื้ม คนรอบๆ นางเอกก็ปลาบปลื้ม เก่งเหลือเกิน
แล้วก่อนหน้านี้เขาทำอะไรกันมา???
กว่านี้ก็ไม่เห็นปรัชญา แต่รีวิวบอกปรัชญาเยอะมาก เลยคิดว่าตูน่าจะแค่ไม่เข้าใจปรัชญา ตรงไหนคือปรัชญาวะ หาไม่เจอ
หรือจะบอกว่าสิ่งที่นางเอกพูดคือปรัชญา เขาก็เขียนแบบนางเอกฉอดฝ่ายเดียวไร้เคาน์เตอร์อากิวเม้นต์ (เพราะทุกคนเออออตามหมด) มันไม่กระตุ้นความคิด นี่นอกจากนางเอกแล้วเรียนอะไรกันมา
เรามองว่าทุกอย่างมีข้อดีข้อเสีย ให้ดีแค่ไหนก็มีช่องโหว่ ร่ายแต่แผนสมบูรณ์แบบ แต่ไม่มีใครเห็นข้อเสียขัดแย้งเลยว่ะ มันไม่น่าจะเป็นงั้น เคาน์เตอร์อากิวเม้นต์ควรต้องมี ควรมีคนลุกมาเถียงคืนบ้าง
เหมือนตบเด็กฝ่ายเดียว ไม่งามมั้งเพคะ
คือพวกแผนๆ อ่านละเพลินๆ แต่วิธีเสนอแผน กับเสนอปรัชญาอ่านแล้วไม่รู้สึกว่าเฮ้ย แม่งเจ๋ง แบบตอนดีดนิ้วให้ใต้เท่าถัง (รัชศก) อะ รู้สึกใต้เท้าถังนำเสนอได้มีกึ๋นกว่านี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ไอ้พวกนี้ไม่เท่ากับพระเอกชมนางเอกอยู่นั่น สูงส่งงดงาม สูงส่งงดงาม สูงส่งงดงาม สูงส่งงดงาม สูงส่งงดงาม สูงส่งงดงาม
ทนอ่านซ้ำๆ ไปถึงจุดหนึ่งเส้นประสาทที่น่าสงสารของเราก็ขาดผึง
เปลี่ยนชื่อนิยายเป็นบันทึกสักการะกวนซู่อีเถอะ
สรุปว่าก็เลยเลิกอ่าน OTL
แต่เพื่อนเราอ่านจบนะ เขาก็เล่าให้ฟังต่อว่าสามีเก่านางเอกยังคงบ้าๆ บอๆ กับเรื่องเมียเก่าวนไป 55555+ โอ๊ย พอๆ
เอาจริงๆ ความเห็นสวนเลน (อีกแล้ว) เชื่อไม่ได้แหละนะคะ
.
.
.
.
แถม
พูดถึงบทแปล เราอ่านแล้วแอบเหนื่อย คือ ทำไมวรรคเยอะ แบบ
วรรคถี่ๆ เป็นล็อกๆ อ่านแล้วแอบเหนื่อย เหมือนต้องหยุด หายใจเข้าออก หลายจังหวะ ← เงี้ยะ
เหนื่อยมากพี่ชวายยยยยยยย เล่มแรกๆ ยังไม่ชินจะตายเอา เข้าใจเนเจอร์การวางแบบภาษาจีนค่ะ แต่อ่านแล้วแอบเหนื่อย
นอกจากบทแปลเป็นท่อนๆ ล็อกๆ (ที่เบลอได้) แล้ว ตอนเล่มแรกมีจุดที่หลุดลอยๆ คำเชื่อมไม่มีเยอะนะ อ่านแล้วงงๆ ไม่ค่อยลื่น
เป็นการหลุดแบบหลุดลอย ค่อนข้าง irritate การอ่านประมาณหนึ่งแบบ บางทีประโยค A ประโยค B มันวางไว้ด้วยกันโดยไม่มีคำเชื่อม หรือบางอันเชื่อมแล้วประโยคที่ต่อขาด คือไม่ได้เยอะ แต่ก็ทำให้หยุดแบบนิ่งกะมันเป็นพักๆ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in