บทความชิ้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจารณ์ดนตรี ในวิชา Music Appreciation โดย ปณิกา สุเสนา นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์

Taylor Swift’s Reputation Stadium Tour 2018 เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 5 โดยนักร้อง-นักแต่งเพลงหญิงชาวอเมริกัน ที่ชื่อว่า Taylor Swift โดยทัวร์เริ่มเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2018 ในเกลนเดลและสิ้นสุดในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2018 ในโตเกียวประกอบด้วยโชว์ 53 รายการ ทัวร์นี้ได้รับผู้เข้าร่วม 2.55 ล้านคน และทำรายได้ 345.7 ล้านดอลลาร์ เป็นทัวร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของ Swift จนถึงปัจจุบัน และทำลายสถิติมากมาย เช่น การขึ้นเป็นทัวร์คอนเสิร์ตหญิงที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับสามตลอดกาลและทัวร์ที่ทำรายได้สูงสุดในสหรัฐอเมริกาและอเมริกาเหนืออีกด้วย

โดยทุกคนสามารถรับชมคอนเสิร์ตนี้ในรูปแบบออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย เพราะเทย์เลอร์เลือกปล่อยทัวร์คอนเสิร์ตที่เท็กซัส ให้แฟนคลับทั่วโลกได้รับชมผ่าน Netflix แบบจุใจ ทุกอย่างสำหรับเราน่าตื่นเต้นตลอดเวลา ทั้งแสง สี เสียง บรรยากาศ เรียกได้ว่าเหมือนเราได้เข้าไปเป็นอยู่ในการแสดงนี้ด้วยตัวเองเลยทีเดียว ตลอดการแสดงทั้ง 2 ชั่วโมงกว่า ของเทเลอร์นั้น เราจะได้เห็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม อัดแน่นไปด้วยคุณภาพทั้งร้อง ทั้งเต้น บวกกับการจัดองค์ประกอบของเวทีที่ทำเอาแฟนคลับอึ้งกับความตื่นตาของโชว์นี้ และความตระการตาของจอขนาดยักษ์แสดงภาพ 2 มิติ แต่ใช้เทคนิคให้ดูเหมือน 3 มิติ ทั้งยังยกเอาน้ำพุหลายชั้นมาไว้บนเวที และที่ขาดไม่ได้คือ แคริน (Karyn) งูเห่ายักษ์ขนาด 63 ฟุต ซึ่งแครินมีบทบาทสำคัญในเพลง Look What You Made Me Do ทั้งในมิวสิควิดีโอและในทัวร์คอนเสิร์ตนี้ เท่านั้นไม่พอ ในครั้งนี้เทย์เลอร์ยังมี Charli XCX, Camila Cabello มาเป็นนักร้องรับเชิญสุดพิเศษอีกด้วยโดยตลอดการแสดงนี้ เราจะเห็นโชว์สุดอลังการทั้งหมด 19 โชว์ มีเพลงให้ฟังทั้งหมด 24 เพลงกันเลย โดยรายชื่อเพลงทั้งหมดของโชว์มีดังนี้

1.     ...Ready for It?

2.     I Did Something Bad

3.     Gorgeous

4.     Style / Love Story / You Belong with Me

5.     Look What You Made Me Do

6.     End Game

7.     King of My Heart

8.     Delicate

9.     Shake It Off (ร้องกับ Camila Cabello and Charli XCX)

10.  Dancing with Our Hands Tied

11.  All Too Well

12.  Blank Space

13.  Dress

14.  Bad Blood / Should've Said No

15.  Don't Blame Me

16.  Long Live / New Year's Day

17.  Getaway Car

18.  Call It What You Want

19.  We Are Never Ever Getting Back Together / This Is Why We Can't Have Nice Things

ถึงแม้การแสดงครั้งนี้จะไร้ที่ติในทุกๆโชว์ แต่ถ้าจะให้พูดถึงทั้งหมด 19 โชว์ อาจจะใช้เวลานานเกินไป วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงเพลงที่เรารู้สึกประทับใจที่สุด ซึ่งเราเลือกมาทั้งหมด 3 โชว์ คือ Style / Love Story / You Belong with Me, All Too Well และ Long Live / New Year's Day เป็นโชว์ 3 โชว์ ที่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

เริ่มกันที่โชว์ Style / Love Story / You Belong with Me เป็นโชว์ที่ใช้เพลง 3 เพลง โดยเพลงจะมีความไต่ระดับของจังหวะขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มความตื่นเต้น เร้าใจให้กับผู้ชมเป็นอย่างมาก โดยเริ่มต้นจากเพลง Style ซึ่งมีจังหวะที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ เพลงนี้ฟังแล้วความรู้สึกค่อนข้างคงที่ จนเริ่มเพลงที่ 2 คือเพลง Love story และ You Belong with me สองเพลงนี้รู้สึกถึงจังหวะที่เร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มีความรู้สึกตื่นเต้นเพิ่มขึ้นไปด้วย โดยโชว์นี้ มีการโชว์วงดนตรีของเทย์เลอร์ด้วย โดยเครื่องดนตรีที่เราเห็นก็จะมี กีต้าร์โปร่ง กีต้าร์ไฟฟ้า เบส และคีบอร์ด หลังจากเพลงนี้จบลง ก็ตัดอารมณ์จากเพลงใสๆ โรแมนติกๆ ด้วยเพลง Look What You Made Me Do ที่มีดนตรีจังหวะที่ค่อนข้างเร้าอารมณ์ เป็นเพลงที่สื่อถึงความเปลี่ยนแปลงของเทย์เลอร์ ประมาณว่า เทย์เลอร์คนเดิม ที่เป็นคนใสๆ เป็นฝ่ายถูกกระทำได้ตายไปแล้วจ้า จะเห็นได้จากประโยคเด็ดที่ว่า

“Sorry, the old Taylor can’t come to the phone right now”

“Why”

“Oh, cause she’s dead”

ต่อไปเราจะพูดถึงเพลง All to well โชว์นี้ มีเพียงแค่เทย์เลอร์ แฟนคลับ และกีต้าร์หนึ่งตัวเท่านั้น ซึ่งกีต้าร์เป็นเครื่องดนตรีประเภท String Instrument หรือเครื่องสาย เป็นเพลง Acoustic ที่แสดงถึงความเป็นเทย์เลอร์ได้อย่างดี เป็นเพลงที่ฟังสบายๆ ฟังแล้วสัมผัสถึงความเป็นธรรมชาติของเสียงกีต้าร์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้ฟังในสเตเดียมเต็มอิ่มไปด้วยความไพเราะของเสียงกีต้าร์ และเสียงอันทรงเสน่ห์ของเทย์เลอร์

และเพลงสุดท้ายที่เราจะพูดถึงคือเพลง Long Live เพลงนี้เทย์เลอร์ได้ทำการบรรเลงเปียโนสดๆ พร้อมกับร้องเพลงเพื่อขอบคุณทีมงานทุกคนของเธอ ซึ่งเปียโนเป็นเครื่องดนตรีประเภท Keyboard Instrument หรือประเภทคีบอร์ด เชื่อว่าเพลงนี้ฟังแล้วทำให้ทุกคนประทับใจกับความอบอุ่นนี้ไปตามๆ กันอย่างแน่นอน

ความน่าประทับใจของการแสดงนี้สำหรับเราคือ เรื่องขององค์ประกอบของเวที แสง สี เสียง อย่างที่บอกไปว่าอลังการมาก ทั้งพร็อพ ทั้งเครื่องดนตรีต่างๆ จัดเต็มมาก มีแทบทุกประเภทของเครื่องดนตรี รวมถึงแดนเซอร์ นักดนตรี นักร้องที่คอยประสานเสียง ถึงแม้เราจะไม่ได้ไปชมการแสดงครั้งนี้แบบสดๆ แต่เราสามารถรับชมความสนุกนี้ผ่าน Netflix Original ซึ่งแน่นอนว่าอัดแน่นไปด้วยคุณภาพคับจอไม่แพ้ของจริงเลย แต่ความประทับใจไม่ได้หมดไม่เพียงแค่นั้น อีกหนึ่งเรื่องที่ประทับใจมากๆคือ เทย์เลอร์ให้เครดิตกับผู้มีส่วนร่วมทุกคน ไม่ว่าจะเป็น แดนเซอร์, นักดนตรี, Background vocalist, รวมไปถึงทีมงานทุกฝ่ายเลยทีเดียว อีกทั้งเทย์เลอร์เลือกที่จะเอาใจแฟนคลับทุกคน โดยการขึ้นกระเช้าลอย เพื่อที่เธอจะได้เข้าใกล้กับแฟนคลับทุกส่วนของสเตเดียม ทั้งเก่ง น่ารัก และแสนดีขนาดนี้ ไม่แปลกที่เธอจะได้รับความนิยมมากมาย และเป็นที่รักของแฟนเพลงทั่วโลก