เมืองแห่งเสียงดนตรีเราถึงเมืองซาลส์เบิร์กประเทศออสเตรียประมาน 5 โมงกว่าๆตามเวลาที่นั้น

เราเดินไปยังบ้านโมซาร์ทโดยที่เราจะเดินตัดผ่านสวนมิราเบลที่เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่องเดอะซาวด์ออฟมิวสิคเป็นสวนที่สวยมากมีดอกไม้เยอะแยะมากมายแต่เราไม่ได้มีเวลามากที่จะอยู่ชมเพราะสวนปิด 6 โมงเย็น

น้องเด็กหลบไปเจ้จะถ่ายรูป55555

พักถ่ายรูปก่อน555

ไปบ้านของโมซาร์ทหลังจากชมบ้านโมซาร์ท

เราเดินย้อนกลับมาขึ้นรถโดยผ่านซุปเปอร์เก็ตในเมืองซื้อของฝากเป็นช๊อคโกแลตกับเบียร์กลับไปฝากเพื่อนส่วนสตรอวเบอร์รี่นี้ซื้อกินเองลูกใหญ่และหวานอร่อยมากราคาก็ถูกกว่าที่ไทยมากเลย

เวลาซื้อของในมินิมาร์ทเราควรจะมีถุงของเราไปใส่ของเองเขาจะไม่ใส่ถุงพลาสติกให้เนอะ ถ้าเราไม่มีถุงเราก็สามารถไปซื้อเพิ่มตรงแคชเชียร์ได้

แล้วในคณะทัวร์เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือมีคนโดนล้วงกระเป๋าโทรศัพท์ไอโฟนหายช่วงเย็นมีคนเข้ามาในซุปเปอร์มาเก็ตค่อนข้างเยอะแล้วเขาเอาโทรศัพท์ไว้ในเสื้อโค๊ทก็เลยโดนล้วงดังนั้นเราควรเก็บของมีค่าไว้กับตัวไม่ควรใส่ในเสื้อโค๊ทเนอะแล้วพี่ไกด์เตือนเวลาจะซื้อของตามร้านข้างทางไม่ควรใช้แบงค์ที่มีมูลค่ามากในที่นี้แบงค์ 500 ยูโร กับ 200 ยูโร ใช้ได้ในร้านขายของแบรนด์เนม ร้านธรรมดาส่วนใหญ่กลัวจะเป็นแบงค์ปลอมรับ 20-100 ยูโรถ้าเราซื้อของพวกแขกเราควรจะดูตังค์ทอนด้วยว่าใช่เงินยูโรรึป่าวบางทีให้เงินสกุลอื่นที่มีค่าเงินน้อย

ที่มา : http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2008/10/E7080903/E7080903.html

เดินขึ้นรถหน้าร้านขายเครื่องประดับพวกสวาล๊อกกี้แพนโดร่าไรงี้คือเรามีความตั้งใจจะมาซื้อแพนโดร่าที่ยุโรปอยู่แล้วเพราะราคาถูกกว่าไทยทางร้านลดให้ 5 เปอร์เซ็นต์แล้วเราสามารถขอtaxfreeได้อีกโดนไปจ้า 200 กว่าๆยูโร(อันนี้ซื้อให้น้องสาวด้วยนะ) แค่นี้ฟินจบแล้วกลับเข้าไปพักที่โรงแรม

เขาบอกว่า​ charm ลายนี้มีเฉพาะในออสเตรียเลยซื้อ​(จะโดนหลอกมั๊ย555)

ช่วงเช้าเราจะไปเที่ยวที่​ hall statt​ เป็นเมืองมรดกโลกอยู่ท่ามกลางเทือกเขาทำให้มีอากาศเย็นสบายวันนั้นที่ไปประมาณ8-10องศาอย่างหนาวเอาโค้ทไปใส่ตัวนึงพอจะถ่ายรูปค่อยถอด5555

หลังจากนั้นเดินเรียบทะเลสาบซีสตราซ บ้านเรือนสไตล์อัลไพน์เก่าแก่สลับกับบ้านเรือนที่ออกแบบเองมีดอกไม้ต้นไม้ประดับประดาตามบ้านเรือน 

พิพิธภัณฑ์ของเมือง hall statt 

เดินมาเรื่อยๆเริ่มเหนื่อยล้าววว

ก็เลยหันหลังไปถ่ายรูป เห้ย วิวมุมนี้มันก็สวยนะ

เดินผ่านจัตุรัสกลางเมือง

ป้าๆรอหนูถ่ายรูปเสร็จก่อนได้ม่ะ5555

ยังคงเดินต่อไปไม่หยุด5555

เดินไปเรื่อยๆจะพบจุดที่สวยที่สุดในการชมเมือง hall statt 

ระหว่างถ่ายรูปมีอาเจ้ขอให้เราถ่ายรูป

มีมองเราก่อนด้วยน่ารักไปอี๊ก555555

มุมของฝากเล็กๆน่ารักๆ

เดินทางเข้าสู่สาธารณรัฐเชก เมืองเชสกี้คลุมลอฟ เราจะพูดถึงในตอนต่อไป5555

เช้าวันต่อมาไปเมืองคาร์โลวีวารีเป็นเมืองโด่งดังในเรืองของน้ำแร่ เมืองนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาบนสองฝั่งแม่น้ำเทบลา เป็นเมืองที่ค้นพบน้ำแร่ร้อนธรรมชาติและมีบ่อน้ำพุถึง 12 แห่ง 

เราสามารถชิมน้ำได้โดยถ้วยชิมเฉพาะพิเศษทำจากพอร์ซเลนเป็นเซรามิก

เราจะใช้ปากดูดน้ำจากแก้วตรงรูเล็กตรงนี้(ตามภาพนะ)

ใส่น้ำแร่จากรูใหญ่ตรงหัวหมี(ตามรูปนะ)

เนื่องจากเมืองนี้มีน้ำแร่ที่โด่งดังจึงมีชื่อเสียงด้านสปา เพื่อความสวยความงาม เรามาเดินชมความงามกัน เดินไปกินน้ำแร่ไปรสชาติค่อนข้างเค็มและร้อนพอประมาณเลยล่ะแต่ก็อร่อยดี

โรงละคร สักพักจะมีการแสดงร้องเพลงและเล่นดนตรี

เริ่มหิวแล้วใช่ม่ะ

เขาบอกว่าที่นี้เป็ดอร่อยแล้วแบบตัวใหญ่มากเราเองกินแทบไม่หมด ส่วนตัวแล้วเราไม่ค่อยชอบกินเป็ดอ่ะแต่เป็ดนี้พอกินได้ไม่คาวซอสเขาแบบจืดๆเลี่ยนๆถ้าได้น้ำจิ้มของไทยน่าจะอร่อย5555

กินเสร็จแล้วเรามาเดินย่อยกัน

เดิน shop กันหน่อย

ได้ longchamp​ มา 2 ใบ สีดำ(size M) กับ สีครีม(size L) ใบรวมกันราคาประมาณ 130 กว่าๆ ยูโร

(จำไม่ได้ว่าแต่ละใบราคาประมาณเท่าไหร่ขอโทษด้วยนะคะ)

ขอบคุณนะที่อ่านมาจนจบตอนต่อไปเราจะไปกรุงปรากเมืองแห่งความโรแมนติก

คลิปปล่อย 2 ทุ่มคืนนี้ เจอกัน