เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
นู่นนี่นั่นโน่นPATNAKAN
รอยยิ้มเธอช่างหวานปานน้ำผึ้ง | Comrades: Almost a love story
  • “หากมีวาสนาแม้ห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้า หากไร้วาสนาแม้อยู่ตรงข้ามก็ไม่พบเจอ”

    ADVERTISEMENT

    ADVERTISEMENT

    รีวิวหรือหวีด หรือบ่น กับ Comrades: Almost a love story (1996)
    Warning : มีสปอยล์เยอะอยู่+มีคำหยาบประปราย

    เราเชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยได้ยินเพลงเถียนมี่มีแน่นอน เป็นเพลงจีนที่เราทุกคนจะต้องเคยได้ยินหรือดำน้ำ ซึ่งนั่นก็คือเพลง Tian Mi Mi หรือรอยยิ้มหวานปานน้ำผึ้งนั่นเอง
    ซึ่งมันก็กลายเป็นชื่อไทยของภาพยนตร์เรื่องนี้นั่นก็คือ เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว ที่เราจะมาเล่าให้ฟังวันนี้ค่ะ จริงๆส่วนนี้ยกมาจากสเตตัสบนเฟซกับมาเติมอะไรอีกนิดๆหน่อยๆด้วยค่ะ

    รู้สึกว่าการแปลชื่อเรื่องมาเป็นไทยก็ไม่แปลก โรแมนติคพอๆกันกับชื่ออิ้ง ชื่ออิ้งก็มีเสน่ห์มาก ใช้คำว่า เกือบจะเป็นเรื่องราวความรัก Almost ว่าซั่น 555555555

    ปล.เราชอบเพลงเติ้งลี่จวินหลายๆเพลงค่ะ ดูหนังไปก็ร้องฮึมฮัมในคอไป แต่เพลงเถียนมี่มีคือที่หนึ่งในใจ เนื้อเพลงมันที่สุดแล้วอะ รอยยิ้มเธอช่างหวานปานน้ำผึ้ง รอยยิ้มนี้ฉันคุ้นจังเลยนะ ฉันเคยเห็นที่ไหนกันหนอ อ๋า..ในฝันนี่เอง.. มันแบบ โห เธอคือคนในฝันของฉันอะ ;---;

    เราอยากรักใครสักคนจนรู้สึกว่ารอยยิ้มของเขามันช่างหวานปานน้ำผึ้ง คือนอกจากเมนกุก็ไม่รู้สึกแบบนั้นกับใครเลยค่ะ เส้า 55555555555555555555

    หากใครไม่เคยฟัง เรียนเชิญกดฟังเรยค่ะ

    เรื่องราวของหนุ่มสาวจากแผ่นดินใหญ่ออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงที่จีนกำลังแร้นแค้น ห่างจากบ้านเกิดเมืองนอนมาหาชีวิตใหม่ที่ฮ่องกงโดยมีเพลงของเติ้งลี่จวินเป็นแบคกราวน์ตลอดทั้งเรื่อง

    คนสองคนเดินทางมาเจอกัน มาหาเงินหาอนาคตเหมือนกัน อีกคนเป็นคนจีนแต่ดูเป็นพ่อหนุ่มบ้านนาซื่อๆ อีกคนก็คนจีนเหมือนกันแต่แอ๊บได้ สางเก่งสาวแกร่ง พูดกวางตุ้งได้ ก็เลยเป็นความสัมพันธ์แบบหลอกให้ช่วยหาเงินด้วย แต่ก็เป็นเพื่อนด้วย ไปๆมาๆก็โดนจับได้ว่าหลอก แต่ก็ไม่โกรธแล้วก็เป็นเพื่อนกัน หาเงินทองช่วยกัน เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จนวันนึงรวมเงินกันเปิดร้านเทปเติ้งลี่จวิน ด้วยเหตุผลว่าคนที่อาศัยอยู่ในฮ่องกงเนี่ย ส่วนมากก็คนจีนอพยพมากันทั้งนั้นแหละ ยังไงก็ต้องฟังเพลงเติ้งลี่จวินแน่นอน แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครซื้อเพราะคนจีนกลัวว่าคนฮ่องกงจะรู้ว่าตัวเองมาจากจีน (ในเรื่องว่าแบบนั้นน่ะนะ)

    ตอนที่เพลงเติ้งลี่จวินเริ่มแมสในจีนมั้ง เคยมีประโยคทำนองว่า คนจีนน่ะ กลางวันฟังเติ้งใหญ่ กลางคืนฟังเติ้งเล็ก (แอบฟังน่ะแหละ เพลงเพราะเกิน ห้ามใจไม่อยู่แหละนุว่า) เติ้งใหญ่คือเติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำของจีนในตอนนั้น แต่เติ้งลี่จวินเป็นนักร้องจากไต้หวันที่เพลงเพราะมากจนไปเข้าหูคนจีน คนจีนก็เลยชอบกันมาก แต่ผู้นำจีนในขณะนั้นก็คือแบนเติ้งลี่จวิน เพราะครอบครัวเป็นทหารเกี่ยวกับพรรคก๊กมินตั๋ง แม้กระทั่งคอนเสิร์ตก็ไม่ให้จัดเพราะกลัวว่าเติ้งลี่จวินจะมาปราศรัยปลุกปั่นอะไรทำนองนี้ จนเติ้งลี่จวินเสียชีวิตก็ไม่ได้ไปร้องเพลงที่จีนด้วยซ้ำ 

    นั่นแหละ ในวันที่ขายเทปเติ้งลี่จวิน ฝนก็ตกใจมันเปลี่ยวหว่าเหว้ ความสัมพันธ์อิรุงตุงนังของคนไกลบ้านในวันที่ฝนตกก็เริ่มขึ้น พวกนางเลยตัดสินใจมอบความอบอุ่นให้กันและกัน (aka friends with benefits หรือแอบแซบ) เอาจริง ตลอดทั้งเรื่อง ดีหมดยกเว้นอันนี้ มีแฟนแล้วมาแอบแซบคนอื่นได้ไง!!! พวกนางก็เลยนอนด้วยกันแต่เราก็เป็นเพื่อนกันนะ แต่คนดูอย่างกูก็รู้แหละว่าสูรักกัน เอเนอจี้ฉันรักผัวเขา ผัวเขาก็รักฉันอะไรแบบนี้มันโผล่มา 

    สุดท้ายก็จากกัน คลาดกันไป คลาดกันมา คนหนึ่งแต่งงาน มาเจอกันหนหนึ่ง กลับมารักกัน แยกกันไปอีก คนหนึ่งก็ไปเจอทางใหม่ เจอคนใหม่ ชีวิตคนขึ้นๆลงๆ ไปโผล่อยู่อเมริกาก็คลาดกันแล้วคลาดกันอีก เป็นการเจอคนที่ใช่ในเวลาที่ไม่ใช่ คลาดกันไปมาเป็นสิบปี ดั่งประโยคที่บอกว่า หากมีวาสนาแม้ห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้า หากไร้วาสนาแม้อยู่ตรงข้ามก็ไม่พบเจอ นั่นแหละ แต่ถ้าหากไร้วาสนา ก็ลองนัดบอดใหม่ดู ลุงในเรื่องกล่าวไว้ (อันนี้คนขำทั้งโรง5555)

    ดิชั้นกำหมัดแน่น รักกันสักทีเซ่!!! เหมือนตอนดู in the mood for love อะ นางเอกแสดงด้วยคนเดียวกันด้วยนะ แต่เรื่องนี้คาแรคเตอร์จะแก่นๆหน่อย สาวแส้บ555555555 นางแส้บจิงนะ แบบไม่กลัวอะไรเลย เป็นหญิงแกร่งที่มาหาเงินเพื่อครอบครัวอะ จากทำงานตัวเป็นเกลียวจนวันหนึ่งร่ำรวย ชีวิตมีขึ้นๆลงๆเป็นเรื่องธรรมชาติ

    ตัวละครพระเอกก็หน้าซื่อเหลือเกินสู เหมือนหมาตัวหยั่ยๆให้นางเอกแกล้ง พระเอกก็สู้งานมาก มาทำงานเพื่อเก็บเงินจะสร้างครอบครัว แต่ใจดันมาหวั่นไหวกับแม่สาวท่านนี้แหละ เลยเป็น FWB ในตำนานจริงๆค่ะ แต่ฉากปั่นจักรยานแล้วร้องเถียนมี่มีไปด้วยคือน่ารักมากๆ ฉันอมยิ้มบ่อยเลย ฉากขำๆก็เยอะ เค้าแทรกมุกมาดีนะ กุขำแบบ จะบ้าอะบางฉาก ดิชั้นเส้นตื้นค่ะ เป็นโรแมนติค ดราม่าชีวิตแต่ก็มีความขบขันในหลายฉาก

    เราว่าเรื่องนี้มีฉากให้อมยิ้มเยอะเลยค่ะ เขินงะ คุณพระเอกก็หล่อ นางเอกก็สวย ดูแล้วฟีลกู๊ดค่ะ เหมือนดู Love Rosie แต่เรื่องนี้ทำได้ถึงเครื่องกว่ามาก เป็นหนังรักที่แทรกเรื่องสภาพสังคมในยุคนั้นลงไปด้วย สภาพสังคมจีน ฮ่องกง อเมริกา น่าสนใจมากๆค่ะ ฮ่องกงในยุคนั้นน่าจะรุ่งเรืองมากๆจนมีคนมกมายหลายชาติไปรวมกัน มีภาษาไทยปรากฏในเรื่องบ่อยเลยค่ะ แต่รู้สึกว่าสำเนียงจะพูดช้าๆหน่อย

    แต่บางจังหวะก็โจ๊กไป๊ ขับรถในฮ่องกงอยู่ดีๆ เจอเติ้งลี่จวินอยู่ข้างถนนเฉย 555555 วิ่งลงไปขอลายเซ็น ในชีวิตจริงมันเป็นไปได้เหรอ กุไม่เคยเจอเมนเลย ฮือ555555 ทั้งนี้มันก็มีตัวละครป้าพระเอกด้วยที่ฉันนึกว่าเจ๊เป็นติ่งพระเอกฮอลลีวูดเฉยๆ ตอนแรกกุขำด้วย แบบเออ ดูป้าคลั่งรักมาก วิลเลี่ยมจะกลับมาหาฉันนี่นั่น พอตอนจบคือป้าเคยไปดินเนอร์กับพระเอกฮอลลีวูดคนนั้นจริงๆ แล้วก็รอเขาจนถึงวันสุดท้าย กุแบบ สู ถ้าวันนึงได้ไปกินข้าวกับเมนก็คงเป็นแบบนั้น ฉันคงจะหลงรักเขาจนสุดใจ

    อีกอย่างที่ชอบมากคือการเอาเรื่องเพลงของเติ้งลี่จวินมาใส่ได้เหมาะมาก ฉันที่ฟังเพลงของเขาก็แบบ โอ๊ยยยย ตอนเพลง goodbye my love ขึ้นมา นี่ก็ เ ปี ย ก ป อ น อย่ามาจับชั้รร มันดีมากอะ เลือกเพลงได้ถูกจริงๆ เพลย์ลิสต์เติ้งลี่จวินจะกลับมาเป็น On repeat ในสปอติฟาย

    เราชอบซีนนี้มาก Goodbye My Love มันดูเข้ามากๆ แบบสายตาพวกเขาคือรักกันและโหยหากันมาก แต่ต่างคนก็ต่างมีคนเป็นของตัวเอง ทำอะไรไม่ได้นอกจากส่งสายตาโหยหาระคนความเศร้าอะ สักวันหนึ่งฉันคงจะได้พบเจอเธออีก อะไรแบบนั้น โดยเฉพาะสายตานางเอกคือแบบ โอ๊ยยยย ฉันฮักเขาหลายยย แบบนั้นเลย แล้วก้มหน้าซบพวงมาลัย ดันบีบแตรปี๊ก ขัดมู้ดมากแต่ตลก5555555555555555
    ดูได้ค่ะ แต่ก็เป็นสปอยนะ 
    ส่วนฉากร้องเพลงเถียนมี่มีบนที่นอนใดใดก็คือโรแมนติคมาก ฉากเลิฟซีน ฉากที่เขารักกันคือมัน อ่ากก นุเหรวติดพื้น รบกวนเอาเสียมมาแงะ เอาจริง ความแออัดของฮ่องกงกับการถ่ายใกล้มากๆ โคลสอัพนักแสดงเยอะๆนี่มีผลมาก กุรู้สึกใกล้ชิดและเป็นส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ของพวกเขาสุดๆ เห็นถึงความหักห้ามใจ ความผิดบาป ความใกล้ ความสนิทสนม ความเฟื่อน (มากกว่าเพื่อนแต่ไม่ใช่แฟน) ความอะไรก็ไม่รู้โอ๊ย แต่มันแบบ /กัดเล็บ อะไรนี่ กุเชียร์ให้เขาได้กันถึงขนาดนี้เลยเหรอ

    เราคิดว่าเซตติ้งหนังเรื่องนี้กับเพลงเติ้งลี่จวินมันเหมาะสมกันมากๆค่ะ ทั้งบทและเพลงมันเสริมกันให้เรื่องมันน่าจดจำจริงๆ เรานึกไม่ออกเลยถ้าไม่ใช่เพลงเติ้งลี่จวินหนังมันจะทรงพลังขนาดนี้ไหม ในขณะเดียวกันเราก็คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่าเพลงเติ้งลี่จวินกับชีวิตคนจีนแผ่นดินใหญ่มีความสำคัญและสัมพันธ์กันมากแค่ไหน เพราะดูแล้ว ฟังแล้ว มันมีความไพเราะและมีความ Nostalgia มากจริงๆค่ะ ฟังแล้วมันอบอุ่นแต่ก็เหงา ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนคิดถึงบ้านได้ด้วย

    และตัวละครทุกตัวเกลี่ยบทมาดี๊ดีอะ แฟนเก่าพระเอกก็ดี เธอก็ดูน่ารัก ตัวละครประกอบเรื่องคนอื่นๆก็ดูเข้าที่เข้าทางไปหมด แบบแม้กระทั่งแฟนใหม่นางเอก พี่เปาก็เป็นมาเฟียที่โคตรเท่ ใจสปอร์ตที่สุด ไม่แปลกใจที่นางเอกมีเยื่อใยขนาดนั้น ถึงแม้พี่เขาจะรู้อยู่ดีว่าเมียตัวเองยังคิดถึงแฟนเก่าอยู่ ถึงกับบอกว่า เลิกคิดถึงเจ้าบ่าวชาวบ้านได้แล้ว555555555555555 ตอนที่หนีออกจากฮ่องกงก็บอกนางเอกว่า หาแฟนใหม่เถอะ ฉันมีเมียที่ไต้หวันเยอะแยะ ส่วนเธอก็ไปหาคนที่หล่อกว่าฉันซะ555555

    ซีนที่คนชอบกันเยอะๆก็น่าจะเป็นซีนซ้อนจักรยานกันแล้วร้องเพลงเถียนมี่มีไปด้วย น่ารักมากๆเลยค่ะ พระเอกกับจักรยานนี่เป็นซิกเนเจอร์ของเขาเลย นางเอกจำพระเอกได้จากจักรยานนี่แหละ

    ข้ามมาตอนจบเลยละกัน หนูเหนื่อย เรื่องนี้จบแฮปปี้เอนดิ้งจ้า จบดีมากด้วย มันไปเชื่อมเรื่องตอนต้นว่าพวกเขาเป็นโชคชะตาของกันและกันอะ กี่ปีผ่านไป 3,650 วันพวกเขารักกันและเป็นพรหมลิขิตของกันมาโดยตลอด ฮือ กุแบบร้องไห้ไหลพรากๆๆๆ แต่พอจบดีก็แบบกุหายใจโล่งมาก ปกติชอบอ่านนิยาย (บางทีก็เขียน แต่เขียนเหี้ย) ให้จังหวะชีวิตมาตรงกันในตอนจบแล้วทิ้งไว้แบบปลายเปิด ระหว่างทางทรมานใจตัวเองแต่จบแบบมีความสุขดี บางทีคนที่ใช่มันก็ต้องมาในเวลาที่ใช่ด้วย ซึ่งมาเจอกันในวันที่เติ้งลี่จวินเสียชีวิต แล้วมายืนดูข่าวหน้าร้านทีวีด้วยกันแล้วมีเพลงเถียนมี่มีขึ้นมาคือกุร้องไห้แบบ เจ็บจมูก ร้องไห้แมสเปียก คู่ชิปกุถึงฝั่งฝันแล้วพ่อแม่พี่น้อง หนึ่งทศวรรษผ่านไป ถ้ามีลูกก็เข้าโรงเรียนประถมได้ค่ะ
     
    เขาได้กลับมาพบกันแล้วในจังหวะชีวิตที่เธอและฉันต่างไม่มีพันธะกับอะไรในจังหวะที่ใช่สุดๆ รอยยิ้มของเธอที่หวานปานน้ำผึ้ง เหมือนดั่งดอกไม้ผลิบานในสายลมที่อบอุ่นในฤดูใบไม้ผลิ มันปรากฏอยู่ตรงหน้าและมันไม่ใช่ความฝันอีกต่อไปแล้วอะ T_____T 
    ตอนจบนะคะ หากใครกลัวสปอยแบบภาพ (เราสปอยแบบข้อความไปแล้ว5555)

    ฉันหวังว่าตอนนี้พวกเธอจะครองรักกันแบบ Happy Ending ต่อไปในจักรวาลนั้นค่ะ *ซับน้ำตา*

    เราว่าไม่มีบทกลอนใดจะบรรยายเรื่องนี้ได้เท่าประโยคนี้แล้วจริงๆ “หากมีวาสนาแม้ห่างกันพันลี้ยังได้พบหน้า หากไร้วาสนาแม้อยู่ตรงข้ามก็ไม่พบเจอ” ทุกอย่างมีจังหวะจริงๆค่ะ

    แต่เมื่อไหร่จังหวะชีวิตชั้นจามีผัวบ้าง อีเหี้ย T_______T

    หนังดีมาก ยังไปดูได้ที่ HOUSE SAMYAN ในข่วงต้นเมษานะคะ สมกับที่เพื่อนกุตั้งใจขายมาหลายปีและกุไม่ยอมไปดูสักที เพื่อนขายบ่อยมากๆ แต่เราไม่เคยสนใจเลยอะ จนถึงวันนี้สามารถพูดได้แล้วค่ะว่ามันเป็นหนังดีที่ไม่ควรมองข้ามไปและต้องหาโอกาสดูให้ได้ มาสิคะ มาอิ่มเอมใจร้องไห้แมสก์เปียกไปด้วยกันค่ะ แต่เราคิดว่าหนังแต่ละเรื่องมันมีไทม์มิ่งเป็นของตัวเองด้วย บางเรื่องที่เราดูตอนเด็กเราอาจจะไม่อิน แต่พอโตประมาณนึง เข้าใจชีวิตแล้ว หนังน่าจะสนุกหรือถึงอารมณ์เรามากขึ้นค่ะ

    ยังไงก็อย่าลืมไปหาดูกันนะคะ น่าเสียดายที่หนังดีๆแบบนี้ไม่มีให้ดูในสตรีมมิ่ง ;-; แต่น่าจะมีในเว็บบางเว็บแต่ไม่ใช่ช่องทางถูกลิขสิทธิ์ แหะๆ หรือใครมีก็วอนชี้ช่องทาง เคยเห็นในยูทูปซับไทยด้วยค่ะแต่มีไม่ครบ แต่ใครที่อยู่กทมก็ดูได้ที่ HOUSE นะคะ 

    หวังว่าทุกคนจะเปิดใจรับภาพยตร์จากฮ่องกงเรื่องนี้เข้าไปในใจและหวังว่าจะชื่นชอบจนนำมาขึ้นหิ้งหนังโปรดในดวงใจเช่นเดียวกันกับเราค่ะ

    ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านยาวเหยียดค่ะ รัก

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in