และจากรูปด้านบนเป็นรูปของน้องณนญ ลูกสาวของพี่นิดนกและน้องอีกคนที่ลืมชื่อ(;-;) ซึ่งเราคอยมาชวนเล่นและพูดคุย โดยหลังจบนิทานกิจกรรมที่จะให้เด็ก ๆ ทำคือ การทำสีจากหินธรรมชาติ ปั้นภูเขาไฟวิทยาศาสตร์ ระบายสีภูเขาจากกล่องลัง ระบายสีทำจากน้ำแข็ง ทำพุดดิ้งและทำตะกร้าใส่ของ (เราไม่ได้ถ่ายมาทั้งหมดเนื่องจากคอยดูและเล่นกับเด็ก ๆ) กิจกรรมทั้งหมดเสร็จสิ้นในช่วงบ่าย ก่อนที่เรากับแฟรี่จะเดินทางไปต่อกันถึงสยาม เพื่อไปสำรวจพื้นที่และหนังสือของสำนักพิมพ์ที่มีขายในร้านคร่าว ๆ แล้วจึงแยกย้าย แต่กว่าจะเดินทางมาถึงสยามก็บ่ายสองกว่า สำรวจร้านคิโนะ เซนเวิร์ลแล้วไปกินข้าว จากนั้นแยกย้ายกันกลับบ้านค่ะ
สัปดาห์ที่ 6 งานประจำที่เคยทำก็ยังคงหมุนเวียนไปเรื่อย ๆ เหมือนเดิมค่ะ แต่ก็ได้มี meeting กับพี่เปย์ในหัวข้อของการแปลและ edit ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำมากมายจากคนทำงานจริงอย่างพี่เขา รวมถึงยังจะได้รับงานให้ลอง edit จากพี่เขาว่าเราจะทำออกมาเป็นอย่างไรกัน (ตอนนี้ก็ยังรองานอยู่ค่ะ พี่เปย์ยังเลือกเรื่องไม่ได้บวกกับงานที่รัดตัว) จากนั้นก็เป็นช่วงที่ขอสวมบทบาทเป็นแม่ค้าแม่ขายค่ะ! เนื่องจากสำนักพิมพ์ Sandclock ของเรามีออกบูธงาน Amarin Baby & Kids ในวันที่ 30 มิถุนายน - 3 กรกฎาคม ทำให้ต้องเริ่มจัดบูธตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน ซึ่งทีมเด็กฝึกงานที่ไปจัดบูธคือจอนนี่และแฟรี่ ส่วนเรากับเปตองเริ่มมาวันที่ขายวันแรก ซึ่งในวันแรกเปิดมาหลังจากมาถึงไบเทคบางนาก็รีบกินข้าวที่ซื้อมา จากน้้นจึงทักหาพี่โบว์ที่มาประจำบูธด้วยกันเพื่อรับบัตรเข้างาน
จากนั้นเมื่อเข้าไปกับพี่เขาแล้ว จึงได้เริ่มทำการจดจำว่าหนังสืออะไรอยู่ชั้นไหน จุดไหน แล้วเมื่อเปตองมาถึงก็เริ่มนับสต๊อกก่อนขาย ตลอดทั้งวันก็มีคุณพ่อคุณแม่เดินผ่านและแวะเวียนมาซื้อหนังสือกันอยู่เรื่อย ๆ อาจจะเพราะเป็นวันธรรมดา ทำให้คนดูค่อนข้างเบาบางก่อนงานเลิกจึงได้เช็คสต๊อกหลังขาย จดบันทึกสิ่งต่าง ๆ เก็บของและขึงผ้าปิดบูธก็ได้เวลาแยกย้ายกลับบ้าน ตัวเรามาขายอีกที่วันสุดท้ายกับจอนนี่ ซึ่งทำเหมือนเดิมด้วยความคุ้นชิน (แม้จะมาขายเพียงวันเดียวก่อนหน้าก็ตาม) รับบทนางแคชเชียร์ตลอดเวลาค่ะ ฮ่า แต่ที่ทำให้รู้สึกดีใจมาก ๆ เลยคือมีคุณแม่คนหนึ่งมาดูหนังสือที่บูธและเราทั้งสองคนก็แนะนำหนังสือไปให้หลายเล่ม ก่อนที่เขาจะตัดสินใจซื้อ จากนั้นสักพักใหญ่ ๆ เราก็สังเกตว่าคุณแม่เดินกลับมาอีกคร้้งพร้อมบอกว่าพาเพื่อนมาดูหนังสือ เนื่องจากพวกเราแนะนำได้ดีและมีความจริงใจอย่างมาก ไม่ว่าจะแนะนำประเภทพ็อคเกตบุ๊คหรือนิทาน แม้เป็นคำชมเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้พวกเราทั้งสองคนดีใจมาก ๆ ใจฟูที่สุดเลยค่ะ
และเมื่อวันนี้เป็นวันสุดท้าย การค้าการขายก็จบลง เรา จอนนี่และพี่โบว์เริ่มนับสต๊อกหนังสือ ทยอยเก็บของและรอคนมายกของไปทั้งหมด ซึ่งก็เป็นการทำให้รู้ว่าพวกเราก็แพ็กกิ้งของได้เก่งเหมือนกันนะ แต่กว่าจะเสร็จก็สองทุ่มกว่าเกือบสามทุ่ม แม้จะรู้สึกเหนื่อยแต่ก็ถือว่าได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ เช่นกัน ภาพด้านล่างเป็นการเก็บตกมาฝากค่ะ
และจากที่จบงานค้าขาย งานถัดมาคือการให้ feedback งาน Amarin Baby & Kids แก่พี่ทรายเพื่อเอาไว้ปรับปรุงหรือทำเพิ่มเติมในงานหน้า จากนั้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ 7 เริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ก็เป็นการพูดคุยและจัดเตรียมอีเว้นท์วันที่ 9 กรกฎาคมนี้ ทั้งการสร้างฟอร์มและการรับจำนวนคนในการทำกิจกรรม ก่อนที่เรากับเปตองจะได้ไปเตรียมอุปกรณ์ในไว้สำหรับมุมงานฝีมือของเด็ก ๆ ที่ร้านของพี่นิดนกในวันพฤหัสที่ 7 กรกฎาคม ซึ่งอยู่ที่เดียวกับโรงแรม CREAM เจ้าเก่า
แต่เราเกริ่นมานาน ไม่ได้บอกเสียทีว่างานอีเว้นท์คืองานอะไร อีเว้นท์ในครั้งนี้มีชื่อว่า วันนิทานในป่าใหญ่ โดยธีมหลักที่สำนักพิมพ์ของเราใช้จะเป็นเซตนิทานในป่าใหญ่นั่นเอง โดยเริ่มต้นวันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม นัดเจอกัน 9 โมงที่เซนทรัลเวิร์ลเพื่อจัดสถานที่ โดยพวกเราทั้งหมดและพี่ ๆ ทีมงานจะต้องแลกบัตรเพื่อเข้าห้าง จากนั้นเวลาสิบเอ็ดโมงก็ได้เริ่มงานขึ้น อีเว้นท์เล่านิทานจะเล่าโดยพี่ ๆ มูลนิธิเมล็ดฝันอย่างพี่กิ๊บและคูมิซัง ซึ่งนิทานในแต่ละรอบก็จะผลัดเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ และมีนิทานเซตในป่าใหญ่ในรูปร่างเล่มใหญ่มาก ๆ ไว้ปิดท้ายก่อนทำกิจกรรมที่พี่ ๆ เมล็ดฝันเตรียมมา
อะ ๆ งง งงใช่ไหมคะว่าพวกเราสามหน่อ (เรา เปตอง จอนนี่ ส่วนแฟรี่ไม่ได้มาเพราะขึ้นสองขีด;-;) ก็ได้รับบทบาทเป็นพี่ ๆ คอยดูแลน้อง ๆ เด็กเล็กตัวจิ๋วมาทำกิจกรรมพับถุงกระดาษและสร้างโรงแรมในฝัน ซึ่งเป็นมุมที่ใกล้กับมุมเล่านิทาน โดยในงานจะกำหนดครอบครัวที่ฟังนิทานรอบละยี่สิบครอบครัว แต่ในส่วนของที่พวกเราฝึกงานดูแลสามารถแวะเวียนเข้ามาได้ตลอด และในงานนี้ครูเอื้องก็ได้มาหาพวกเราด้วย! เนื่องจากเราได้ทักถามครูเอื้องเกี่ยวกับการนิเทศเลยได้บอกเรื่องของอีเว้นท์ไว้ด้วย ซึ่งอีเว้นท์ก็สนุกมาก ๆ เป็นการเก็บประสบการณ์ที่ดีอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากเสร็จงาน เช้าวันจันทร์ถัดมาก็ได้ต้องส่ง feedback อีเว้นท์นี้กลับไปให้พี่ทรายเหมือนเดิม ส่วนงานเราก็ยังคงคิดและเขียนการขายหนังสือที่เรามีอยู่เรื่อย ๆ แต่รู้สึกยังต้องปรับแก้คำอีกมากจึงยังไม่ได้ลง drive งาน และเนื่องจากคิดถึงบล็อกเลยแว้บมาเขียนเล่าก่อนค่ะ
สำหรับอีเว้นท์ก็ได้มีมาจากพี่ทรายว่าจะจัดอีกในเดือนหน้า เปตองเลยได้คิดแพลนส่งไปก่อนและพี่นิดนกจะนัดประชุมอีกที เราเองก็กำลังลองจับคู่นิทานของ Sandclock พร้อมหากิจกรรมสำรองไว้เสนอเช่นกัน หากมีอะไรคืบหน้าวันอาทิตย์นี้คงได้มาเล่าสัปดาห์ที่ 8 ให้อ่านกันนะคะ สัญญาด้วยใจจริงว่าจะไม่หายนานขนาดนี้อีกแล้ว ก่อนลาวันนี้ก็มีภาพเก็บตกงานนิทานในป่าใหญ่มาฝากค่ะ ไว้เจอกันใหม่ในสัปดาห์ต่อไปค่ะ
(รูปจากกล้องครูเอื้องค่ะ สองนิ้วสู้ตาย✌?)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in