เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รู้เช่นเห็นสวีเดนWassachol Sirichanthanun
2 — อยู่เป็นเช่นสวีดิช
  • ตอนเที่ยงวันนี้เรามีนัดกับพี่หนิง—จิตรา คชเดช อดีตประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ที่ทำงานกับโรงงานเย็บชุดชั้นในและชุดว่ายน้ำยี่ห้อนี้มา 16 ปีก่อนที่จะถูกเลิกจ้างเพราะเคลื่อนไหวเพื่อคุณภาพชีวิตแรงงานและประชาธิปไตย

    ตอนนี้พี่หนิงมาอยู่อุปซอลาได้สิบเดือนแล้ว แต่ก่อนหน้านั้นก็ไปๆ มาๆ รวมกันก็ร่วมสองปี ตอนแรกเราคิดว่าคงแค่ทานข้าวเที่ยงและจิบชากาแฟกัน แต่พี่หนิงก็เซอร์ไพรส์เราด้วยการชวนเราไปทานข้าวเย็นที่บ้าน ในใจก็เริงร่าอยู่แบบไม่ได้แสดงออก

    เรานัดเจอกันที่ป้ายรถบัสหน้า Uppsala Central station ที่นั่นมีป้ายรถเมล์ 10 กว่าป้ายพร้อมที่บังแดดบังฝนลุคโมเดิร์นไซส์ยักษ์เรียงกันหลายแถว และจอดิจิตอลนับถอยหลังเวลาที่รถจะมาถึงป้าย พอกระโจนลงจากรถเราก็เจอพี่หนิงยืนรออยู่ หญิงวัยกลางคนผมสีเทาดูเคร่งขรึมทักทายเราด้วยเสียงที่หวานเกินคาด และเพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกินอาหารไทยหรืออาหารญี่ปุ่นดี เราเลยไปหาอะไรเบาๆ กินกันที่ร้านกาแฟเก่าแก่นาม Güntherska ริมคลองหลักของเมือง ด้านหน้าของร้านดูคลาสสิกสมกับที่เปิดตั้งแต่ปี 1870 แต่ด้านในดูฮิปสเตอร์เล็กๆ เพราะเต็มไปด้วยคนหนุ่มสาวตามสไตล์เมืองมหาลัย

    ชารอยบอสรสส้มสีแดงของพี่หนิงกับกาแฟดำของเราวางอยู่ตรงหน้า เรานั่งทำความรู้จักกันบนโต๊ะไม้ตัวยาวเพื่อจะได้รู้ว่าเรามีเพื่อนและคนรู้จักร่วมกันมากกว่าที่คิด บทสนทนายาวไกลตั้งแต่เรื่องของคนไทย คนต่างชาติ และผู้อพยพที่พี่หนิงพบปะเจอะเจอในคลาสเรียนภาษาสวีดิช ไปจนถึงสภาพชีวิต นิสัย และวิธีคิดของคนสวีดิชเท่าที่พี่หนิงเข้าใจ คนสวีดิชใช้ชีวิตช้าและมีเวลาอยู่นิ่งๆ มากกว่าคนไทย เพราะเขาไม่จำเป็นต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบเพื่อหารายได้มากนัก ก็ในเมื่อรายได้ของแพทย์ ครู และพนักงานทำความสะอาดไม่ได้ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญนี่นา



    ระหว่างทางเดินไปขึ้นรถไปบ้านพี่หนิงตรงจุดขึ้นรถบัสกลางโซนช้อปปิ้ง พี่หนิงก็พาเราเดินชมเมืองแบบกรุบกริบไล่ไปตั้งแต่ด้านหน้า Upplandsmuseet พิพิธภัณฑ์ดินแดนอุปแลนด์ส ซึ่งเป็น region ของอุปซอลา, ตึกวิทยาลัยแพทย์ที่มีห้องผ่าตัดอยู่ชั้นบนสุด (โดมสีเขียวด้านหลังโบสถ์นั่นไง—พี่หนิงเล่าให้ฟังว่าที่ห้องผ่าตัดเป็นกระจกรอบตัวก็เพื่อจะรับแสงอาทิตย์เข้าไปให้ได้มากที่สุด เพราะยุโรปเหนือไม่ค่อยจะมีแดด) และ Uppsala domkyrka โบสถ์ที่สูงที่สุดของสวีเดนและสแกนดิเนเวียที่ด้านในมีพระศพของกษัตริย์คนสำคัญมากมาย รวมถึงกษัตริย์ Gustav Vasa กับมเหสีสามองค์ และรูปปั้นของภรรยาลับตั้งอยู่ตรงข้ามส่งสายตาให้อภัยกษัตริย์กุสตาฟที่ไม่ยอมรับเธอเนื่องจากเธอเป็นมุสลิม

    สิ่งที่เรากรี๊ดมากคือเดือนหน้ากำลังมีงานของ Bill Viola วิชวลอาร์ตติสอเมริกันที่เราชอบมากมาจัดแสดงในโบสถ์ (เคยดูงานเขาที่ฟลอเรนซ์ ดีงามน้ำตาไหล) โดยงานชุดนี้ของบิลเป็นการนำภาพวาดยุคเรเนซองส์มาทำซ้ำและตีความใหม่ให้เป็นวิชวลอาร์ตและวีดีโออินสตอลเลชั่น เราเล่าให้พี่หนิงฟังด้วยความแปลกใจว่าทำไมงานแบบนี้มาแสดงในโบสถ์ได้ ถ้าเป็นที่ไทยคงต้องเส้นใหญ่มากๆ พี่หนิงบอกว่าที่นี่ใครก็มาเช่าโบสถ์จัดงานได้ทั้งนั้น คนที่นี่มาเช่าโบสถ์จัดงานแต่งอยู่เรื่อยแหละ


    จบจากการเดินเล่นกรุบกริบเราก็นั่งรถบัสไปบ้านพี่หนิงใช้เวลาประมาณ 20 นาที โดยพี่หนิงเล่าให้ฟังถึง Gottsunda โซนที่พักอาศัยของผู้อพยพที่คนที่นี่มักจะมองว่าอันตราย ตรงกับความเข้าใจของเราว่าความรู้สึกแบบนี้มันก็มีอยู่ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่พัฒนาแค่ไหนก็ตามที ระหว่างทางเดินจากป้ายรถบัสไปบ้านพี่หนิงเป็นป่าโปร่งเหมือนแถวบ้านเรา ส่วนบ้านพี่หนิงอยู่ในคอมมูนหนึ่งของเมืองที่มีระบบการจัดการพื้นที่และดูแลคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยอย่างดีเลิศเลย

    เรานั่งเม้าท์กันที่ระเบียงหน้าบ้านพี่หนิงที่มีต้นไม้ดอกไม้บานสะพรั่งโอบล้อม ก่อนพี่หนิงจะลุกไปทำแหนมหมูทอดกับแกงจืดดอกไม้จีนฟองเต้าหู้ที่ใส่เต้าหู้ไข่ทำเอง และออกไปเดินเล่นที่ป่าหลังบ้าน ไปดูแปลงปลูกผักที่พี่หนิงเช่าไว้ที่มีทั้งสตรอว์เบอร์รี่ หัวหอม กระเทียม มะเขือไทย กับซูกินี่ไซส์มหึมา และไปเก็บราสป์เบอร์รี่กับบลูเบอร์รี่ในป่ากินกันสดๆ ป่าและทุ่งหญ้าที่นี่เป็นที่สาธารณะ ใครจะเก็บอะไรกินก็ได้ ถ้าเป็นที่ไทยคงกลายเป็นของรีสอร์ทชนชั้นสูงไปหมดแล้ว

    เอาเข้าจริงเราก็ยังไม่รู้หรอกว่าคนสวีดิชเขาใช้ชีวิตกันยังไง แต่อย่างน้อยเราคิดว่าเราพอจะรู้บ้างแล้วว่าคนไทยคนหนึ่งในอุปซอลาใช้ชีวิตแบบไหน และคำตอบที่ได้ก็ทำให้เราชื่นใจเหลือเกิน



    เอาเข้าจริงเราก็ยังไม่รู้หรอกว่าคนสวีดิชเขาใช้ชีวิตกันยังไง แต่อย่างน้อยเราคิดว่าเราพอจะรู้บ้างแล้วว่าคนไทยคนหนึ่งในอุปซอลาใช้ชีวิตแบบไหน และคำตอบที่ได้ก็ทำให้เราชื่นใจเหลือเกิน

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in