เราเชื่อว่าทุกคนที่กำลังอ่านบทความนี้ของเรา น่าจะเคยผ่านความสูญเสียกันมาบ้างแล้วไม่มากก็น้อยรวมถึงตัวเราเองด้วย ซึ่งบ่อยครั้งมันก็มาโดยที่เราไม่ได้ตระเตรียมใจหรือเตรียมความรู้สึกไว้สำหรับมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่..ในบางครั้งก็ดีหน่อยที่ยังพอมีสัญญาณบอกให้เราได้เตรียมใจไว้บ้าง
คำถามที่เราสงสัยมาตลอดคือ " ทำไมเตรียมใจเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ? " เราเห็นคนที่เขาดูแลกันอย่างดีมากๆ ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเต็มที่เท่าที่มนุษย์คนนึงจะสามารถใช้เวลาร่วมกันได้ แต่เมื่อวันแห่งการสูญเสียมาถึงน้ำตาก็ยังทำงานอย่างเต็มที่ แบบไม่พัก ถ้าเปรียบเป็นพนักงานบริษัทก็คือทำโอทีเต็มเวลา แทบจะรับโล่พนักงานดีเด่นในช่วงเวลานั้นเลยแหละ
แต่แล้วเราก็ได้คำตอบเมื่อไม่นานมานี้ว่าต้นเหตุของน้ำตาจริงๆไม่ใช่ "ความเสียใจ" แบบปกติที่เราคิดกันว่าร้องไห้ก็ต้องเสียใจสิ แต่มันคือ "ความคิดถึง" ต่างหาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงทำใจเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอเลยกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เพราะเราเตรียมตัวรับมืออย่างดีกับความเสียใจแต่ความคิดถึงหลังจากนั้นเราลืมมันไปเลย
ลองคิดตามดูนะ เมื่อคิดถึงและรับรู้ว่าจะได้เจอกันเราจะมีความสุขมากๆถูกไหมหล่ะ แต่ในทางกลับกันคนที่พบเจอความสูญเสียก็มีความคิดถึงแต่สิ่งที่เขารับรู้จะแตกต่างออกไปคือ ต่อให้คิดถึงมากแค่ไหนก็ไม่สามารถที่จะเจอกันได้อีกแล้ว ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เคยมีไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ท่าทางต่างๆ กลายเป็นเพียงภาพความทรงจำในจินตนาการของคนที่สูญเสียเพียงเท่านั้น แค่คิดตามเรายังเศร้าเลย แล้วกับคนที่กำลังคิดถึงอยู่หล่ะ ?
สุดท้าย เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สูญเสียทุกคนที่กำลังสับสนในความรู้สึก ขอให้ผ่านพ้นวันเวลาแห่งรอยน้ำตานี้ไปให้ได้นะครับ แล้ววันนึงเราจะกลับมายิ้มได้อีกครั้งโดยที่ความทรงจำยังคงอยู่ สู้ๆนะครับ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in