เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Monkey's Life -- อะไรๆ ก็ลิงimonkey7th
บางสิ่ง บางอย่าง อยู่เพื่อ บางสิ่ง บางอย่าง
  • ง่า...

    หิวข้าวตอนสี่ทุ่มมันคือเรื่องน่าอนาจใจของโลกที่มีข้าวเย็นเป็นผู้ร้าย(ใครนะช่างใจร้าย) เลยจำเป็นต้องตะลอนขับรถคนบนถนนสีส้มสะท้อนแสงไฟ ถาพที่ได้คล้ายรูปภาพที่ฉาบด้วยฟิลเตอร์ Fade มันยิ่งเพิ่มความเหงาให้หัวใจที่ห่อเหี่ยวของผม TT


    แน่นอนในบ้านนอกคอกนาแบบนี้สถานที่ ๆ พอจะพึ่งพาได้ย่อมเป็นย่านที่มีเซเว่นฯ บริการ 
    มีเซเว่นฯ ก็จะเห็นร้านบะหมี่ มีร้านลูกชิ้น ร้านข้าว และจิปาถะ 



    เมื่อจอดรถด้วยความรู้สึกโหยหา การกินเส้น ณ เวลานี้คงไม่ใช่เป้าหมายแล้ว กระเพาะสั่งการ งานนี้มันต้องใหญ่ ต้องเล่นอาวุธหนัก ต้อง "ข้าว" เท่านั้น


    ผมลงจากรถเดินไปที่ร้านข้าว ที่ดูแล้วคล้ายว่าปิด แต่พ่อค้ายืนอยู่หน้าร้านเหมือนพร้อมบริการ สร้างความลังเลให้ลูกค้าขาจรแบบผม เอาน่ามาถึงตรงนี้แล้วถามดูก็ไม่เสียหาย


    "เอาไรครับ" เสียงพ่อค้าตะโกนมา(ยังกับรู้ว่ากูจะถาม) สร้างความมั่นใจว่ายังต้องการบริการเราอยู่ เลยเดินเข้าไปเลือกเมนูข้าวที่ต้องการ

    "ข้าวกะเพราหมูครับ" (เบสิคไว้ก่อน ลองเชิง ๆ )
    "หมดแล้วครับ"

    "คะน้าหมูก็ได้"
    "ก็หมดเหมือนกัน"


    "อ้าว แล้วตามสั่งเหลือไรบ้างเนี่ย" (เซ็งแล้วนะ)
    "ตามสั่งหมด เหลือแต่ข้าวมันไก่กับข้าวขาหมูครับ" (เชรดดด ไม่บอกกูแต่แรกฟร่ะ ไม่รอให้ไล่ครบเมนูก่อนค่อยบอก)


    ข้าวมันไก่กินไปแล้วเมื่อกลางวัน นี่ผมต้องเอาขาหมูเข้าร่างกายหลังสี่ทุ่ม --โอย พระเจ้า-- เอาก็เอา คิดสะว่าเอาขาหมูมาประกอบร่างกับส่วนอื่น ให้ครบ ๆ เป็นหมูเมื่อไร่ก็จะเลิกกินหมู 


    พอสั่งเสร็จก็เดินไปนั่ง รูดนั่นนี่ในมือถือ ก่อนเงยหน้ามาเพื่อจะดูว่าพ่อค้าทำอะไร 
    พบว่าพ่อค้าเอาขาหมูที่เหมือนกับเอาใส่ถุงเก็บไปแล้วออกมา เอาน้ำจิ้มที่เก็บเข้าตู้เย็นมาเทลงถ้วย เฮ้ย นิเก็บไปแล้วนิ มันจะอร่อยเหรอวะ เฮ้อ แบบนี้ไม่ประทับใจเบย 


    "เก็บเข้าตู้แล้ว มันไม่เย็นเหรอครับ" ผมแซะเมื่อพ่อค้าจัดจานเสร็จยกมา แกไม่สนใจวางจานข้าวแล้วเดินจากไป (ทิ้งไว้แค่อารมณ์วัดใจว่าจะแดกหรือไม่แดก) 


    ความหิวทำงานแล้ว ผมไม่สนใจขอกินก่อนถ้าไม่อร่อยก็กินครึ่งหนึ่ง แล้วไปหาอย่างอื่นกิน จัดการจ้วงข้าวเข้าปาก รสชาติผ่านนะ กินได้ ถ้าร้อนกว่านี้ก็โอเคเลย ผมคิดขณะเคี้ยว


    สังเกตว่าร้านแกเกือบจะเก็บสมบูรณ์แล้ว กลายเป็นว่ารอผมกินหมดแล้วจะปิดใช่ไหม (กลายเป็นรู้สึกผิดอีกกู) ดังนั้นก็รีบจ้วงต่อสิครับ จากผู้ถูกกระทำกลายเป็นผู้กระทำไปสะงั้น เฮ้อออ


    ระหว่างที่กินจะหมดแล้ว มีชายคนหนึ่งเดินมา น่าจะเป็นคนจรจัด เนื้อตัวสกปรกมอมแมม ผมขอเรียกแกว่า พี่จอห์น ละกัน 



    พี่จอห์นแกเต็มไปด้วยหนวดเคราสีดำแซมขาว หนวดงอโง้งที่มุมทั้งสองข้าง ไม่ผอมมาก กางเกงเข้ารูปพร้อมเสื้อสีคล้ำโชว์แผงอก นิถ้ามีแก้วกาแฟ ตัดผมอันเดอร์คัท วิเทจ (ที่พ่อผมเรียกว่าทรงมหาดไทย) กับจักรยานกรุ๊งกริ้ง แกเป็นฮิปเตอร์ตัวพ่อในตำนาน ผู้นำแฟชั่นได้เลย 

    แกโปรยยิ้มมองมาทางผมแต่ไกล เมื่อมองซ้ายขวา ไม่มีใครรอบข้าง --เชี้ยละ กูแน่ ๆ-- ในกระเป๋าตังค์มีแต่แบงค์ห้าร้อย (แต่ถึงมีแบงค์ย่อยกูก็ไม่ให้เฟ้ย ) 

    พี่จอห์นแกเดินตรงมา ฟันประกายขาวมุกเข้ม(จนเหลือง)สะท้อนแสงไปใกล้เข้ามา ผมก็นึกวิธีการไล่แกไป ต้องเริ่มจากไม่สบตา ทำเป็นมองไม่เห็น หูตาฝ้าฟาง ก้มหน้ากดมือถือ (นิกูอยู่ในร้านข้าวหรือนั่งบีทีเอสวะ) แต่รู้สึกจะไม่ทัน พี่จอห์นส่งเสียงทัก
     
    "ว่าไงเฮีย" (เฮียพ่อง) ... ผมเงียบ
    "อร่อยมั้ยเฮีย"... กูนิ่ง 

    "ถามไม่ตอบ คนสมัยนี้ กลัวขอเงินหรือไง" (น่าน... เสือกรู้อีก) แล้วพี่จอห์นแม่งก็เดินเลยผมไปร้องเรียกพ่อค้า --คงไปขอพ่อค้าละสิ--

    "เฮีย (เฮียอีกละ กูเริ่มสับสนว่าคุยกับใครกันแน่) เอาข้าวเปล่า ห้าบาท" 

    เฮ้ย! พี่จอห์นแกมาซื้อข้าวนิ 
    "ได้ ๆ เหมือนเดิมนะ" พ่อค้าตอบทักทาย เชิงสนิทสนมกัน แล้วแกก็ก้มลงไปหยิบข้าวที่ใส่ถุงไว้แล้ว พร้อมน้ำซุปยื่นให้พี่จอห์น พี่แกรับแล้วขอบคุณ ก่อนหันกลับมายิ้มให้ผม --เชี้ย กูหลบตาแทบไม่ทัน-- 

    "ทานข้าวให้อร่อยนะเฮีย" พี่จอห์นบอกผมก่อนจะเดินจากไป โดยไม่ได้เอ่ยของเงินผมแม้แต่บาทเดียว 



    เมื่อกินเสร็จ ผมเรียกเก็บเงิน พ่อค้าเดินมาคิดค่าอาหารของผม สี่สิบบาท (ได้น้อยกว่าชุดคอมโบ ห้าบาท ของพี่จอห์นอีก) ก่อนจะบอกขอโทษที่ข้าวขาหมูไม่ร้อน กับเหตุการณ์ที่พี่จอห์นเดินผ่าน 

    แกถามว่าผมคงไม่รังเกียจพี่จอห์นนะ แกมาของแกทุกวัน พ่อค้าก็ให้แบบนี้ทุกวันแหละ ผมเลยคิดว่าทำไมไม่ให้ฟรีเลย เก็บตังค์ทำไม พ่อค้าก็บอกว่า (อ้าว กูแค่คิด เสือกรู้อีก นิพวกมึงเป็นพ่อมดใช่มั้ย อีตาพี่จอห์นแม่งคือดอกเตอร์แสตรนท์ตอนก่อนจะบรรลุ) ที่ต้องเก็บตังค์เพราะไม่อยากให้เขากินฟรี พอได้ฟรีแล้วมันจะเคยตัว 

    ต้องขอคนนั้นคนนี้เรื่อยไปดูแลตัวเองไม่เป็น สร้างปัญหาให้สังคมและประเทศชาติ ทำให้บ้านเมืองไม่อารยะ เป็นที่ดูถูกดูแคลนของประเทศมหาอำนาจว่าบ้านเมืองเราปกครองด้วยทหารแล้วยังเสือกงอมืองอตีนขอคนอื่น (อันหลังกูเติมเอง) 


    พอผมจ่ายเงินแล้วเดินออกจากร้านมา พ่อค้าก็รูดประตูปิดร้าน นั่นทำให้ผมสงสัยว่าที่พ่อค้ายังขายให้ผมเพราะว่างกเงิน หรือ เปิดรอพี่จอห์นกันแน่ 

    แต่ช่างเถอะ ไม่ว่าด้วยเหตุไหน 
    ที่แน่ ๆ ก็พอจะได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างบ้างแหละ 
    คนบางคนที่ถูกบางคนด่า ก็ถูกอีกบางคนชื่นชม
    คนบางคนที่ถูกบางคนมองว่าไร้ค่า ก็ถูกอีกบางคนบอกว่ามีค่า 

    ทั้งหมดทั้งมวลขึ้นอยู่กับว่า เรามองคนนั้น สิ่งนั้น ด้วยสายตาของอะไร ไม่ผิดหรอกที่เราจะไปตัดสินอะไรใคร (เพราะการตัดสินคนอื่นเป็นหนึ่งในกระบวนการป้องกันตนเอง) แต่เมื่อเราตัดสินไปแล้ว ก็ต้องคิดเสมอว่า มันไม่ถูกเสมอไป มันเปลี่ยนได้ แก้ได้นั่นเอง

    ท้ายสุดผมก็ได้เห็นมิตรภาพของพี่จอห์นกับพ่อค้าเป็นสิ่งเพิ่มมูลค่าให้อาหารมื้อนี้ 

    แต่ที่ไม่ถูกไม่ควรอย่างยิ่ง 
    คือทำไมกูต้องได้กินข้าวขาหมูเย็น ๆ ด้วยฟร่ะ 

    #สัส
    #อ้วนไป
    #ได้หมดถ้าสดชื่น

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in