เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[Fictober 2019] Miracle in Octobernixsummer0531
Day 30 Catch
  • ท่ามกลางอากาศหนาวเย็นและหิมะตกโปรยปรายลงมาไม่ขาด จองเซอุนพรูลมหายใจยาวจนขึ้นไอเย็นขาว เด็กหนุ่มเดินประคองอันยูจินที่บาดเจ็บให้เดินขนาบข้างไปด้วยกันอย่างยากลำบาก และดูเหมือนร่างกายของเธอจะมาถึงขีดสุด เธอทรุดฮวบลงนั่งกับพื้น ส่ายหน้าไปมาด้วยรอยยิ้มและแววตาเศร้าๆ พร้อมบอก

    “นายน้อยปล่อยยูจินไว้ตรงนี้ก็ได้ค่ะ ตอนนี้พวกเราปลอดภัยแล้ว และนายท่านเอง ก็ห่างออกไปเพียงนิดเดียว”

    จองเซอุนไม่เอ่ยอะไร เพียงทิ้งตัวคุกเข่าลงนั่งข้างๆ มองเธอด้วยแววตาเจ็บปวดปนรู้สึกผิด ตอนนี้ตามเนื้อตามตัวของเด็กสาวเต็มไปด้วยบาดแผลถลอก บริเวณต้นแขนขวามีแผลขนาดใหญ่ถากเป็นทางยาว ซึ่งเกิดจากการโจมตีของเถาหนามภายในป่า ถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะรอดปลอดภัย เดินทางพ้นเขตป่าเข้ามาในถ้ำที่เป็นประตูทางเชื่อมกับโลกภูติ แต่ถึงอย่างนั้น ที่แห่งนี้กลับไม่มีอะไรเลย ไม่มีน้ำหรือที่พัก มีเพียงหิมะขาวโพลนกว้างสุดลูกหูลูกตา และต้นไม้ยืนต้นตายที่กระจัดกระจายตามจุดต่างๆ ของดินแดน

    “นายน้อยอย่าจ้องยูจินนักสิ สภาพยูจินตอนนี้ดูไม่ได้เลย นายท่านต้องคิดว่ายูจินหมดความน่ารักแล้วแน่ๆ” 

    “ไม่หรอก ยูจินน่ะยังคงน่ารัก ใจดี แล้วก็สง่าเหมือนเดิมนั่นแหละ” จองเซอุนเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะลูบศีรษะของเธอด้วยแววตาเอ็นดู “นายท่านของยูจิน จะต้องภูมิใจในตัวยูจินมากๆ”

    “อื้ม” เธอรับคำด้วยแก้มที่ขึ้นสีระเรื่อ ดวงตากลมโตสีน้ำตาลทอประกายวาวอย่างมีความสุขกับคำชม

    “ยูจินพักตรงนี้ก่อนก็ได้ เดี๋ยวผมจะไปตามคุณยองมิน และหลังจากนั้น พวกเราค่อยกลับบ้านพร้อมกัน”

    “ค่ะ ไว้กลับไป ยูจินจะทำอาหารที่นายน้อยกับนายท่านชอบอย่างเต็มที่เลย” 

    จองเซอุนกล่าวขอบคุณเธอเบาๆ จากนั้นก็หยัดตัวลุกขึ้น ถอดเสื้อคลุมตัวหนาที่มีคุณสมบัติปรับอุณหภูมิขณะสวมใส่ออก และคลุมลงบนตัวเธอ อันยูจินเตรียมกล่าวปฏิเสธ แต่พอเขาส่งสายตาบังคับ เธอเลยยอมเงียบแล้วคลุมเสื้อคลุมแต่โดยดี

    “ผมไปนะ”

    “โชคดีค่ะนายน้อย พวกเราจะกลับบ้านพร้อมกัน”

    จองเซอุนพยักหน้าสัญญา ก้าวเดินไปด้านหน้า มุ่งตรงไปยังสิ่งปลูกสร้างที่ทำจากหินและคั้งห่างออกไปไม่ไกล

    ทุกย่างก้าวที่เหยียบย่ำลงบนหิมะที่ทับถมจนสูง หัวใจของเด็กหนุ่มผมแดงก็เต้นระรัวอย่างรุนแรงทุกขณะ แต่ในความตื่นเต้นที่จะได้เจอนั้น มันแฝงไปด้วยความหวาดกลัวและกังวล ในตอนนั้น เขาทั้งผลักไส ทั้งท้วงถามถึงคำสัญญาทั้งน้ำตา ที่ไม่ว่าเขาจะปรารถนาอะไร อีกฝ่ายก็จะทำให้เป็นจริง ใช่แล้ว เขาทำร้ายจิตใจของอีกฝ่าย โดยที่รู้ความจริงเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น

    หากได้เจอกันอีกครั้ง คุณจะจากผมไปโดยที่ผมยังไม่ทันได้ร้องขอให้คุณกลับมาไหม — จองเซอุนนึกอย่างขมขื่น หยาดน้ำตาที่เคยเหือดแห้งไปครู่ ตอนนี้กลับมาเอ่อคลอบริเวณหน่วงตาอีกครั้ง

    จองเซอุนเดินมาหยุดอยู่หน้าสิ่งก่อสร้างที่มีลักษณะคล้ายกับบ่อน้ำ ต่างตรงที่บริเวณปากบ่อนั้นกว้างขนาดสิบคนโอบ เด็กหนุ่มเดินไปยืนจับปากบ่อที่สูงประมาณอก จากนั้นก็เขย่งตัวก้มลงมองไปด้านล่างตามที่อันยูจินบอกว่าจอมเวทหนุ่มผมสีแดงส้มน่าจะอยู่ด้านใน

    หัวใจของเด็กหนุ่มกระตุกวูบเบาๆ กับสิ่งที่อยู่ก้นบ่อ แม้จะเห็นเป็นเพียงเงาสลัวๆ แต่เขาเองก็ไม่รู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร เป็นสิ่งมีชีวิต หรือเป็นเพียงเถาหนามแหลมคมที่จับกลุ่มรวมตัวกันเป็นก้อนขนาดใหญ่และขยับเขยื้อนไปมาได้เอง สเลย์เบก้าหนุ่มกวาดสายตามองโดยรอบเพื่อหาบันไดหรือเชือกเพื่อไต่ลงไป แต่เมื่อไม่พบ เขาเลยหลับตาลง จินตนาการถึงแสงแดดและแดนดิไลออนที่ปลิวลอยไปตามลม เมื่อลืมตาขึ้น และออกแรงเขย่งปลายเท้า ร่างทั้งร่างของเขาก็ลอยเหนือพื้น พร้อมกับมีประกายแสงสีฟ้าราวดวงดาวหมุนวนอยู่รอบตัว เด็กหนุ่มปรับตัวตีลังกาเอาหัวลง และตีเท้าต่างแหวกว่ายอยู่ในน้ำ มุ่งตรงไปหาอีกฝ่ายที่อยู่ด้านล่าง

    วินาทีที่มาถึงก้นบ่อ และเหยียบลงบนพื้นที่อ่อนยวบและนุ่มนิ่มราวหมอนขนาดยักษ์ ก้อนเถาหนามขนาดใหญ่ก็พุ่งเถาบางส่วนโจมตีใส่ราวกับจะไล่ไปให้พ้น แต่แทนที่จะเบี่ยงตัวหลบหรือใช้พลังเวทตอบโต้ เด็กหนุ่มกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง พร้อมเอ่ยออกไปเบาๆ

    “คุณยองมิน คุณอยู่ในนั้นใช่ไหมครับ”

    เถาหนามหยุดเคลื่อนไหวกะทันหันราวตอบสนองกับคำพูด สักพักมันก็ถดกลับไปรวมกลุ่มเป็นก้อนเหมือนเดิม 

    จองเซอุนเดินไปหากลุ่มหนามอย่างช้าๆ ยื่นมือเข้าไปหาโดยไม่กลัวว่าตัวเองจะบาดเจ็บ

    ไม่แน่ใจว่าหนามเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของอิมยองมินด้วยหรือเปล่า เถาแต่ละเส้นต่างกระถดหนีมือราวกับกลัวว่าเด็กหนุ่มจะได้แผล จนเผยให้เห็นโพรงขนาดใหญ่ เป็นประตูให้เด็กหนุ่มก้าวเดินเข้าไปยังใจกลางของกลุ่มหนาม

    “อรุณสวัสดิ์ครับคุณยองมิน ได้เวลาตื่นแล้ว” 

    จองเซอุนทักด้วยรอยยิ้มบาง พร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างชายหนุ่มผมสีแดงส้มที่นอนเหยียดยาวหลับใหลอยู่กับพื้น

    เวลาที่คุณหลับ คุณดูเหมือนกับเด็กน้อยยิ่งกว่าผมซะอีก — จองเซอุนอมยิ้ม ใช้ปลายนิ้วไกล่เกลี่ยเส้นผมสีแดงส้มที่ปรกบริเวณหน้าผากอีกฝ่าย พลันดวงตาของเด็กหนุ่มก็ปรากฏรอยปริแตกขึ้นมาทันที เมื่อสังเกตเห็นว่าบริเวณมือและต้นคอของอิมยองมินเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำและมีเกล็ดหนาปกคลุม 

    “...ตอนที่ได้เจอครั้งแรก เขาไม่ใช่มนุษย์หรอก เรียกได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยมีใครต้องการเท่าไร ถ้าเทียบกับคำที่มนุษย์เรียกใช้ ก็คงจะเป็น ปีศาจ ล่ะมั้ง...”

    เป็นเพราะผมใช่ไหม เลยทำให้คุณเป็นแบบนี้ — จองเซอุนรู้สึกปวดหน่วงภายในอกเมื่อนึกถึงประโยคที่เอสเธอร์เคยพูดไว้ และก็ต้องรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าเดิม เมื่อนึกถึงคำพูดของอันยูจินที่บอกว่าจอมเวทหนุ่มผนึกตัวเอง และตั้งใจจะไม่ตื่นอีกสิบหรือร้อยกว่าปี

    จองเซอุนเอนตัวลงนอนข้างๆ จอมเวทหนุ่ม ดึงมือหนาของอีกฝ่ายมากอบกุมเอาไว้โดยไม่นึกรังเกียจ เขยิบชิดอิงแอบ และแนบหน้าผากของตัวเองลงบนหน้าผากของอีกฝ่าย

    ผมรู้ดีว่ามันอาจสายไปมาก แต่ขอโอกาสให้ผมสักครั้ง เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ว่าคุณปรารถนาเส้นทางไหน ผมจะทำให้เป็นจริงเอง — จองเซอุนอธิษฐานจากใจ พร้อมกับพื้นรอบๆ ตัวส่องแสงสีฟ้าเรืองรอง เส้นผมสีแดงของเขา และเส้นผมสีแดงส้มของอิมยองมินพลิ้วไหวน้อยๆ ตามสายลมที่พัดอ้อยอิ่งรอบกาย เด็กหนุ่มหลับตาลงช้าๆ เพื่อเข้าไปในห้วงจิตและพบกับเขาคนนั้นอีกครั้งหนึ่ง





    คุณยองมิน อยู่ในที่แบบนี้เหรอ — 

    จองเซอุนกวาดสายตามองรอบตัวอย่างเจ็บปวด ไม่ว่าจะมองไปทางไหนเขาก็พบแต่ความมืดปกคลุม เห็นเพียงเงาสลัวๆ เท่านั้น แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ตลอดเส้นทางเดินนั้นเต็มไปด้วยดงหนามแหลมปกคลุม แบบเดียวกันกับที่โอบล้อมปกป้องร่างของอิมยองมินเอาไว้ 

    จองเซอุนกำหมัดแน่นเรียกกำลังใจให้ตนเอง พร้อมก้าวย่างไปด้านหน้าอย่างช้าๆ พลันมุมปากของเด็กหนุ่มกระตุกน้อยๆ เมื่อรับรู้ถึงคมหนามที่กรีดลึกลงบนต้นแขน เขาก้าวเดินต่อไปอย่างไม่ลดละ เพียงไม่นาน ก็พบต้นไม้ต้นใหญ่ที่มีลักษณะแบบเดียวกันกับต้นไม้ที่อยู่ในสวนของอิมยองมิน บนที่นั่งชิงช้าที่ห้อยโยงกับกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ มีจอมเวทหนุ่มผมสีแดงส้มนั่งอยู่ ชายหนุ่มแหงนหน้ามองท้องฟ้าด้วยท่าทางเหม่อลอยไม่จดจ่อกับสิ่งใด

    ช่างว่างเปล่า ราวกับตุ๊กตาของจริง —

    จองเซอุนเจ็บแปลบภายในอกทันที ลักษณะท่าทางของอิมยองมินตอนนี้ เหมือนกับเขาในช่วงเวลานั้นไม่มีผิด

    ไม่มีความหวัง ไม่มีความปรารถนา และไม่ต้องการสิ่งใดอีกต่อไป

    เด็กหนุ่มผมแดงสาวเท้าไปหาอีกฝ่าย อาจเพราะรับรู้ถึงการมาถึง จอมเวทหนุ่มเลยหันมามองช้าๆ ดวงตาเรียวที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าในตอนแรก ปรากฎประกายแสงแห่งความมีชีวิตขึ้นมา ชายหนุ่มผุดยิ้มอบอุ่น หยัดตัวลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้ามาหา และใช้ปลายนิ้วไกล่เกลี่ยแก้มของผู้มาเยือนเบาๆ

    “แม้กระทั่งในความฝัน ฉันก็ยังคงปรารถนาที่จะได้พบเธอสินะ”

    “คุณคิดว่าผมคือความฝัน คือสิ่งที่คุณสร้างงั้นเหรอ” จองเซอุนถามกลับไปสั้นๆ

    อิมยองมินที่ได้ยินถึงกับเบิกตากว้าง ดวงตาเรียวไหวระริกอย่างรุนแรงด้วยความตกใจระคนหวาดกลัว เขาส่ายหน้าน้อยๆ ราวปฏิเสธ รีบสาวเท้าไปด้านหลังอย่างรวดเร็วคล้ายต้องการหนี พร้อมกับมีดงหนามสีเข้มพุ่งขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็วขวางเป็นกำแพง เด็กหนุ่มผมแดงที่เห็นแบบนั้นเลยกระโจนสุดแรง เอื้อมแขนผ่านช่องว่างของเถาหนามและคว้าจับชายเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้

    “อย่าหนี ผมต้องการคุยกับคุณ” จองเซอุนบอกเสียงเบา อิมยองมินที่ยืนหันหลังให้นิ่งเงียบ ผ่านไปสักพักเขาก็เดินก้าวไปข้างหน้า ทว่าต้องหยุดชะงักอีกครั้ง เมื่อเด็กหนุ่มผมแดงออกแรงดึงรั้งมากกว่าเดิม

    “นี่คือความปรารถนาของผม อย่าหนี ช่วยฟังผมก่อนเถอะ"

    เมื่อได้ยินแบบนั้น จอมเวทหนุ่มผมสีแดงส้มก็หยุดขยับ แต่ก็ไม่ได้สลายเถาหนามออก หรือหันหน้ามาคุยกันดีๆ จองเซอุนที่เห็นปฏิกิริยาแบบนั้นก็ถึงกับเจ็บแปลบภายในอก เขาสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อตั้งสติ และเริ่มเอ่ยสิ่งที่ตั้งใจจะบอกกับอีกฝ่าย

    “ผมรู้ความจริงทั้งหมดแล้วครับ คุณทำแบบนั้นลงไปเพราะว่า เธอ ขอให้ทำ กับคนอื่นๆ ก็เหมือนกัน แท้จริงคุณไม่เคยบังคับพวกเขาให้อยู่กับคุณเลย ไม่ว่าพวกเขาปรารถนาอะไร คุณจะทำตามเสมอ ผมอ่านจดหมายกับไดอารี่ที่อยู่ในห้องนั้นแล้ว คุณไม่ผิด คุณไม่ผิดอะไร พวกผมต่างหาก ที่เป็นฝ่ายทรมานคุณ เหนี่ยวรั้งคุณให้อยู่กับพวกผมไปตลอดแบบนี้” 

    จองเซอุนผุดยิ้มมุมปากน้อยๆ ด้วยแววตาเศร้าๆ เขารู้ดี ว่า ตัวเขา กับ เธอคนนั้น คือคนละคนกัน แต่เพราะดวงวิญญาณของพวกเขาคือดวงเดียวกัน ดังนั้นไม่ว่ายังไงพวกเขาสองคนก็เหมือนเป็นคนคนเดียวกันอยู่ดี เพราะฉะนั้น เขาจะหยุดเรื่องทั้งหมดนี้เอง จะหยุดโชคชะตาโหดร้ายเหล่านี้ ในชาตินี้ของเขาเอง

    ฉับพลัน อัญมณีทรงรีสีแดงที่อยู่บนหน้าอกของเด็กหนุ่มก็ส่องสว่างเป็นสีอ่อนๆ พร้อมกับมีความรู้สึกบางอย่างหลั่งไหลเข้ามาในตัว เด็กหนุ่มอมยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็เอ่ยถ้อยคำจากหัวใจด้วยน้ำตาที่ไหลรินเป็นทาง ซึ่งเขาเองก็ไม่แน่ใจ ว่าสิ่งที่เอ่ยออกไปนั้น เป็นเพียงความปรารถนาของเขาเท่านั้น หรือว่ามีความปรารถนาและความรู้สึกของ เธอคนนั้น ปะปนมาด้วย เพราะในน้ำเสียงที่ทุ้มนุ่มของเขา มันแทรกประสานไปกับเสียงกังวานใสราวกับเสียงของกระพรวนใบน้อย จนฟังดูเหมือนมีคนสองคนเอ่ยประโยคเดียวกันพร้อมกัน

    “มันอาจจะสายเกินไปมาก แต่ว่า ขอโทษนะ ขอโทษที่ทำให้คุณ(เธอ)ต้องเจ็บปวดขนาดนี้ บางที คุณ(เธอ)คงไม่ต้องการผม(ฉัน)อีกต่อไป ดังนั้น นี่คือคำปรารถนาสุดท้ายของผม(ฉัน) ผม(ฉัน)ขอลบล้างคำสัญญาที่เคยขอให้คุณ(เธอ)ทำทั้งหมด ขอปลดปล่อยคุณ(เธอ)ให้เป็นอิสระ และนับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไป คุณ(เธอ)ไม่จำเป็นต้องฟังความปรารถนาของผม(ฉัน)อีก และ ไม่ว่าความปรารถนาของคุณ(เธอ)จะเป็นอะไร ผม(ฉัน)สัญญา ว่าจะทำให้เป็นจริงอย่างแน่นอน พวกเรา จะทำให้เป็นจริงอย่างแน่นอน เพราะงั้น นี่ไม่ใช่ความปรารถนาแต่เป็นคำขอ ขอร้องละครับ กลับไปอยู่กับผมที ขอให้ผม ได้อยู่เคียงข้างคุณอีกครั้งที”

    จองเซอุนจับชายเสื้อคลุมของอิมยองมินแน่นกว่าเดิมด้วยมือที่สั่นระริก พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลทะลักไม่ขาด

    พอเห็นว่าอิมยองมินยังคงยืนนิ่งไม่หันมามอง เด็กหนุ่มเลยได้แต่ยกยิ้มเย้ยหยันให้ตัวเอง

    “นี่คือสิ่งที่คุณเลือกสินะครับ ถ้าอย่างนั้น ผมจะทำตามที่คุณปรารถนา” สเลย์เบก้าหนุ่มยอมปล่อยมือจากอีกฝ่าย พร้อมหมุนตัวหันหลังให้ “นับแต่นี้ไป ผมจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก ลาก่อนนะครับ คุณ...”
    คำพูดของเด็กหนุ่มขาดห้วง เมื่อรับรู้ถึงแรงกอดจากด้านหลัง และน้ำหนักที่กดทับลงบนไหล่

    “เด็กบ้า เธอก็รู้ว่าฉันทำทุกอย่างเพื่อเธอ แล้วฉันจะไม่ต้องการเธอได้ไง” อิมยองมินเอ่ยเสียงสั่น ออกแรงกอดคนในอ้อมแขนยิ่งกว่าเดิม

    จองเซอุนเบะปากน้อยๆ จากนั้นก็ร้องไห้จ๋าแบบไม่สนอะไรแล้วทั้งนั้น เขาหมุนตัวไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น ราวกับกลัวว่าจอมเวทหนุ่มจะหนีหายไปไหนอีก จองเซอุนสะอึกสะอื้นอย่างน่าสงสาร แม้จะเอ่ยเป็นคำๆ ยังยากลำบาก อิมยองมินที่ขอบตาแดงระเรื่อและมีน้ำตาเออคลออมยิ้มเอ็นดู รวบกอดแน่นกว่าเดิม ซบศีรษะตัวเองลงบนกลุ่มผมนุ่มสีแดงของเด็กหนุ่ม พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า

    “ขอบคุณที่เลือกอยู่กับฉันนะ ...เซอุน”





    ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น หิมะขาวยังคงโปรยปรายลงมาจากฟ้าไม่ขาด อันยูจินที่นั่งรอเจ้านายทั้งสองของเธออยู่เหม่อมองท้องฟ้ากว้างด้วยแววตาเปี่ยมไปด้วยความหวังและการรอคอย พลันเธอต้องหันขวับไปมองต้นเสียง เมื่อได้ยินเสียงดังสวบสาบจากการเหยียบย่ำลงบนพื้นหิมะ

    เด็กสาวผมน้ำตาลเบะปาก พร้อมกับหยาดน้ำตาที่ไหลทะลัก

    “นายท่าน นายน้อย” เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ รีบวิ่งเข้าไปหา และกระโจนกอดเด็กหนุ่มผมแดงทันที “ฮึก ฮือ ยินดีต้อนรับกลับค่ะ”

    “รอนานเลยใช่ไหม ผมกลับมาแล้ว ทำตามสัญญาแล้วนะ” จองเซอุนบอก ขณะลูบศีรษะเธอเบาๆ

    “ขอโทษนะยูจิน แล้วก็ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง” อิมยองมินชมด้วยแววตาอ่อนโยน

    “ฮึก ฮึก ค่ะ เรา...ฮึก...เรารีบกลับกันเถอะ ยูจินจะทำของอร่อยๆ ให้นายท่านกับนายน้อยเอง จะทำเยอะๆ เลย”

    จองเซอุนยกยิ้ม หันไปสบตากับคนสูงกว้าง พร้อมเอ่ย

    “นั่นสิ พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
jaa_boice227 (@jaa_boice227)
กลับมาอยู่ด้วยกันน่ะ ดีที่สุดแล้ว ถึงไม่มีคำสาบานแต่ถ้าชะตาถูกเกี่ยวกันไว้ ยังไงต้องได้กลับมาเจอกันอีก
ต้อนรับกลับบ้านนะคะ
mitty_min (@mitty_min)
ในที่สุดเซอุนก็ตามพี่ยองมินกลับบ้านได้แล้ว ดีจัง
mkamaboko (@mkamaboko)
ดีใจมากๆๆๆๆ ที่มาถึงจุดที่ทุกคนกลับมาอยู่ด้วยกันนะคะ วันนี้อาการเราค่อนข้างสาหัส แต่พอได้อ่านบทนี้ก็พอยิ้มได้บ้างค่ะ
ชอบเวลาที่พวกเขามีความสุขจัง รักกันจังเลยน้า ????