เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
บันทึกหลังดูlemonandcream
(ซีรีส์เกาหลี) mr. sunshine
  • ตะวันฉาย แสงสว่างในความมืดมิด

    (คำเตือน : มีสปอยล์)     


    ซีรีส์เกาหลีอิงประวัติศาสตร์ฉายภาพให้เห็นช่วงเวลาที่โชซอนกำลังถูกญี่ปุ่นเข้ายึดครองโชซอนในวันนั้นมีใครหลายคนต่อสู้อย่างสุดกำลัง ด้วยทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเอกราชของโชซอนให้คงอยู่ตลอดไป 

    เหล่านี้ถ่ายทอดผ่านตัวละหลักอย่างผ่านตัวละครหลักอย่างโกแอชิน คุณหนูผู้สูงศักดิ์แห่งโชซอนที่อีกด้านหนึ่งเธอเป็นสมาชิกขบวนการกู้ชาติ ชเวยูจีนผู้มีชาติกำเนิดเป็นทาสในโชซอน แต่ดิ้นรนหนีเอาชีวิตรอดไปเติบโตที่อเมริกา จนกลายเป็นทหารแห่งประเทศมหาอำนาจ กูดงแมลูกชายของคนค้าเนื้อลำดับชั้นอันต่ำต้อยที่สุดในโชซอน ที่กลายมาเป็นหัวหน้าแก๊งซามูไร คิมฮีซองคู่หมั้นของโกแอชินผู้เกิดมาพร้อมเงินทองและชื่อเสียง เขาต้องแบกรับทั้งคำเยินยอและความเจ็บแค้นที่ผู้คนมีต่อตระกูลไว้มากมาย และคุโดะ ฮินะ ชาวโชซอนที่เป็นภรรยาชาวญี่ปุ่น เจ้าของโรงแรมกลอรี่เธอมีความเจ็บปวดร้าวลึกอยู่ภายใน แต่ซ่อนไว้ภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้ม

    การดำเนินเรื่องเริ่มจากประเด็นระหว่างบุคคลซึ่งมีหลายคู่กรณี เช่น ความแค้นของยูจีนกับครอบครัวฮีซอง ความเคลือบแคลงสงสัยต่อกันระหว่างแอชินและยูจีน ไปจนถึงประเด็นระหว่างประเทศอย่างการต่อสู้ของโชซอนเพื่อต่อต้านการแผ่ขยายอำนาจของจักรวรรดิญี่ปุ่น ดังนั้น ความตึงเครียดของเรื่องจะไล่ระดับไปเรื่อย ๆ แล้วจะตึงเครียดไปจนถึงช่วงท้าย ตั้งแต่ต้นจนจบ ซีรีส์ดำเนินไปโดยไม่ได้ทิ้งประเด็นใดออกไปเลยมีแต่จะเพิ่มความเข้มข้นให้ประเด็นเหล่านั้นมากขึ้น 

    ถึงอย่างนั้นระหว่างทางซีรีส์ไม่ได้มีแต่ความเคร่งเครียดเพียงเท่านั้น ยิ่งช่วงครึ่งแรกเราจะเห็นความโรแมนติกและความตลกขบขันเป็นส่วนผสมหลักอยู่มาก ก่อนจะเริ่มนำความตึงเครียดและความเศร้าเข้ามากินพื้นที่เนื้อหาในช่วงท้าย รสชาติหลากหลายเหล่านี้ใส่มาได้ถูกที่ถูกเวลา และทำให้ตัวละครมีมิติมากขึ้น 

    โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างแอชินและยูจีนจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมทั้งยิ้มและร้องไห้ได้อย่างแน่นอน ดังนั้น มวลรวมของเรื่องจึงกลมกล่อมทำให้คนดูได้รับอารมณ์หลากหลาย ไม่ต้องปวดหัวขมวดคิ้วกับเรื่องการเมืองอย่างเดียว และต่อให้ไม่มีความรู้ด้านประวัติศาสตร์เกาหลีมากนักก็สามารถเข้าใจเนื้อหาซีรีส์ได้ เพราะซีรีส์ค่อย ๆ หยอดประเด็นมาตลอดเนื้อเรื่อง ให้ผู้ชมได้เข้าใจไปทีละน้อย 

    ส่วนด้านตัวละคร การมีอยู่ของทุกตัวละครดีทั้งหมด ไม่ว่าตัวละครไหนก็ส่งผลต่อการดำเนินเรื่องไม่มากก็น้อย บางตัวละครออกมาไม่นานแล้วก็ไปแต่เป็นปมขัดแย้งหนึ่งที่ส่งผลระยะยาวต่อตัวเอกของเรื่อง มีตัวละครที่แทบจะทุกครั้งที่เขาปรากฏตัว เราคนดูจะรู้สึกสบายใจว่า โอเค ต่อให้สถานการณ์เครียดแค่ไหน ตัวละครนี้มาก็จะมีความชิล ความตลกให้เราได้เห็น 

    การกระจายบทของซีรีส์เรื่องนี้ทำได้ดีมากถึงมากที่สุด ไม่แน่ใจว่า เขาพยายามถ่ายทอดให้เห็นด้วยไหมว่า การต่อสู้ของโชซอนประกอบกันไปหลายส่วน ไม่ใช่เพียงคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น เราจึงได้เห็นบทบาทของตัวละครหลายตัวละคร ไม่ได้เทจุดสนใจไปที่ใครคนใดคนหนึ่งจนลืมคนอื่นไป 

    ทั้งนี้ทั้งนั้นนอกจากบทดีนักแสดงก็ถ่ายทอดความรู้สึกตัวละครได้ดีมาก บางครั้งกล้องตั้งถ่ายไกลไม่ได้ทำให้เห็นสายตาพวกเขามากนัก แต่พวกเขาถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกมาถึงเราได้ ใครคนไหนที่เล่นเป็นคนดีก็น่าชื่นชม ใครคนไหนที่เล่นเป็นคนไม่ดีก็ชวนให้กำหมัดอยู่หลายครั้งที่เขาปรากฏตัวออกมา แต่ตัวละครเรื่องนี้มีหลายมิติ พวกเขามีเรื่องในใจที่ซ่อนไว้ มีหลากหลายอารมณ์ ซึ่งนักแสดงทุกคนทำได้ดีมากเลย 

  • สิ่งที่ตราตรึงในใจเรา จาก mr. sunshine



    1. ความสัมพันธ์ระหว่างยูจีนและแอชิน พวกเขารักกันแบบค่อยเป็นค่อยไปสะสมความรู้สึกของตนเองเอาไว้แล้วแสดงออกมาให้อีกฝ่ายรับรู้ด้วยวิธีที่ทั้งน่ารักและน่าซาบซึ้ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นวิธีแบบหลัง ความรักของพวกเขามันเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีหลายสิ่งไม่แน่นอน ระยะแรกยังมีความหวานและความโรแมนติกให้ได้ยิ้มแบบสุขใจ แต่นานไปความระส่ำระสายของโชซอนมีผลต่อความสัมพันธ์ของทั้งคู่มากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยอุดมการณ์ของแอชินที่สวนทางกับการเดินเคียงข้างกันได้อย่างสงบสุข ทางแยกของความสัมพันธ์จึงเกิดขึ้น แอชินเลือกออกห่างจากยูจีน เพราะรู้ว่า ทางที่ตนเองเลือกยากลำบากเหลือเกิน แล้วยูจีนเองก็มีทางเลือกที่สุขสบายกว่า แอชินเองไม่ต้องการให้คนที่เธอรักต้องมาทุกข์ทนแบบที่เธอเจอ 

    หลายครั้งยูจีนพยายามให้แอชินหยุดต่อสู้ด้วยเหตุผลและมุมมองของเขาที่คิดว่า ยังไงโชซอนก็ต้องพ่ายแพ้ต่อญี่ปุ่น แต่เมื่อแอชินยืนกรานที่จะปกป้องแผ่นดินเกิดของตนเองต่อไป ยูจีนก็เคารพการตัดสินใจของเธอ แล้วตัวเขาเองก็ตัดสินใจจะเดินบนเส้นทางที่สามารถปกป้องให้แอชินปลอดภัยอยู่เสมอ ยูจีนเคยพูดถึงสิ่งที่ตนเองทำต่อแอชินหลายครั้งว่า  “คุณต้องปกป้องโชซอน และผมจะปกป้องคุณเอง” ซึ่งเขาพิสูจน์ว่า เขาทำจริงอย่างที่พูดอยู่ทุกช่วงเวลาที่เคียงข้างแอชิน แม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต ยูจีนก็ยังคงทำตามคำพูดของตนเองไม่เปลี่ยนแปลง นับเป็นการแสดงความรักที่น่านับถือมากเหลือเกิน 



    2. สามหนุ่มสามมุม ยูจีน ดงแม และฮีซอง แม้พวกเขาจะแตกต่างกันหลายอย่าง (แตกต่างมากถึงมากที่สุด) แต่สิ่งที่เหมือนกันคือความรักที่มีให้แอชิน และเป็นรักแบบเดียวกัน คือรักโดยไม่หวังผลตอบแทนใด ๆ ซึ่งพวกเขาก็มีวิธีการแสดงออกตามฉบับของตนเอง

    ก่อนหน้านี้เราได้เห็นความรักที่ยูจีนมีต่อแอชินแล้วต่อไปเราจะมาโฟกัสที่ดงแมและฮีซองกัน

    ดงแม ทุกย่างก้าวของตัวละครนี้ คือ การทำให้ใครต่อใครหวาดกลัว เขาไม่เคยอ่อนข้อให้ใคร แม้กระทั่งกับแอชินก็ตาม คนคนนี้อาจถือเป็นความทรงจำที่ไม่ดีของแอชิน เพราะการเจอกันแต่ละครั้งก็จะปะทะกันมากกว่าจะพูดสิ่งที่ดีต่อกัน การปะทะกันของคู่นี้มีไปจนถึงทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งบาดเจ็บกันเลยทีเดียว 

    ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นดงแมคนนี้ ที่ยอมเป็นศัตรูกับใครหลายคน แม้กระทั่งการเป็นศัตรูกับกลุ่มซามูไรที่ตนเองเติบโตมาก็ไม่เว้นเช่นกัน เหตุผลหนึ่งเดียว คือ ต้องการปกป้องแอชิน แม้วิธีการแสดงความรักของดงแมอาจจะห่ามไปมากจนบางครั้งก็น่าตกใจ แต่เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รักแอชินไม่น้อยไปกว่าใครเลย 

    ฮีซอง คู่หมั้นที่กลายเป็นเพื่อนที่หวังดีต่อกันในท้ายที่สุด ฮีซองเป็นตัวละครที่ใครเห็นก็จะรักแต่ไม่ใช่กับแอชิน (ฮือ) สิ่งที่เขาทำให้แอชิน คือ การยอมทำร้ายหัวใจตัวเอง เพื่อให้แอชินไม่ต้องลำบากใจกับการสถานะคู่หมั้นของทั้งสองคน ฮีซองคอยดูแลแอชินอยู่ห่าง ๆ ในวันที่แอชินต้องหลบหนีจากการโดนตามล่าตัวอย่างหนักก็เป็นฮีซองที่คอยดูแลครอบครัวให้แอชิน

    ฮีซองถือเป็นคนที่เว้นระยะห่างจากแอชินมากที่สุดในบรรดาทั้งสามคน อาจเพราะรู้ว่า ไม่อาจเข้าไปในใจของแอชินได้ และอาจเพราะเขาเองเป็นคนใจเย็นและมักใช้วิธีการนิ่มนวลในการแก้ปัญหาเสมอ เขาจึงเว้นพื้นที่ให้แอชินมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากวันใดที่แอชินต้องการให้เขาเป็นที่พักพิง เขาก็ทำได้เช่นกัน 

    เหนือสิ่งอื่นใด มิตรภาพระหว่างชายทั้งสามคนนี้เกิดขึ้นอย่างเงียบเชียบ โดยที่พวกเขาทั้งสามคนอาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ พวกเขาอาจมีศูนย์กลางอยู่ที่แอชิน จึงทำให้โคจรมาพบกันเสมอ แต่หลายครั้งที่ใครคนใดคนหนึ่งเกิดอันตราย ก็มักจะมีใครอีกคนคอยไปช่วยไว้เสมอ มิตรภาพอันเกิดขึ้นในร้านเหล้าญี่ปุ่น มิตรภาพที่ดูแลกันอยู่จากที่ไกลแสนไกล การชนแก้วครั้งสุดท้ายของทั้งสามคนที่น่าประทับใจไม่รู้ลืม 



  • 3. การต่อสู้ของโชซอน ในซีรีส์แสดงให้เห็นถึงวิกฤติของโชซอนที่หนักขึ้นทุกตอน วิกฤตินี้ไม่ได้มีญี่ปุ่นเป็นสาเหตุเดียว แต่คนในที่ทรยศต่อบ้านเมืองของตนเองก็มีจำนวนมากเช่นกัน ถึงอย่างนั้นก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต่อสู้ ที่ต่อให้ชัยชนะดูเหมือนจะอยู่ไกล แต่พวกเขาก็เลือกจะยืนหยัดต่อสู้ เพราะไม่ต้องการอยู่ใต้อำนาจของชนชาติอื่นใด 

    จักรพรรดิโกจง ในซีรีส์แสดงให้เห็นว่า พระองค์พยายามทุกวิถีทางเพื่อปกป้องประเทศของตนเอง ก่อตั้งโรงเรียนนายร้อย เพื่อฝึกฝนให้เจ้าหน้าที่ปกป้องบ้านเมืองให้เข้มแข็ง ขอความช่วยเหลือจากหลายประเทศ เพื่อคานอำนาจกับญี่ปุ่น ยืนกรานในจุดยืนของตนเองมาเสมอไม่เคยเปลี่ยน   

    ขบวนการกู้ชาติ จากเริ่มแรกเรารู้จักเพียงแค่แอชินและพลปืนจางจากนั้นเราก็ได้เริ่มรู้จักคนอื่น ๆ ที่อยู่ในขบวนการนี้หลายคน เราเห็นความมุ่งมั่นของแอชินที่ต้องการปกป้องโชซอน เธอเคยพูดว่า เธออยากเป็นเปลวไฟ ซึ่งเราก็เห็นว่า ความมุ่งมั่นของเธอลุกโชนเหมือนเปลวไฟจนกระทั่งจบเรื่องเราก็ยังไม่เคยเห็นมันมอดดับสักครั้ง ซึ่งความมุ่งมั่นลักษณะนี้มีอยู่ในตัวสมาชิกขบวนการกู้ชาติทุกคน บางคนต่อสู้มานาน แต่พวกเขาไม่เคยละความพยามยามลงเลย แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะนำมาซึ่งอันตรายที่อาจถึงแก่ชีวิตก็ตาม พวกเขาก็ยังคงเดินหน้าต่อไปไม่ถอย 

    ประชาชนชาวโชซอน แม้ว่า อาจไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ประจันหน้ากับญี่ปุ่นด้วยอาวุธ แต่ชาวโชซอนจำนวนมากมีความรู้สึกต่อต้านการเข้ามาของญี่ปุ่นเสมอ พวกเขาไม่ได้ต้องการยอมจำนนต่อการกดขี่ที่มีเพิ่มขึ้นทุกช่วงเวลา บางคนสนับสนุนเป็นเงินตราให้กับขบวนการกู้ชาติ บางคนก็ต่อต้านด้วยความสามารถที่ตนเองมี เช่น ฮีซอง เขาเป็นนักหนังสือพิมพ์ เผยแพร่ข่าวสารมากมาย เพื่อให้ชาวโชซอนตื่นรู้ต่อเหตุการณ์บ้านเมือง พยายามเก็บหลักฐานข้อเท็จจริงที่ทหารญี่ปุ่นข่มเหงชาวโชซอนไว้ เพื่อในวันหนึ่งโลกจะได้รับรู้ความโหดร้ายเหล่านี้ 

    มีฉากหนึ่งที่แสดงให้เห็นการยืนหยัดต่อสู้นี้ของชาวโชซอน ในวันที่คนดูแลของแอชินเสียชีวิตจากการทำภารกิจ แอชินรีบเข้ามาหาพวกเขากลางถนน การปรากฏตัวของแอชินในครั้งนั้นเป็นการปรากฏตัวให้คนอื่นเห็นครั้งแรกหลังจากหายไปนาน ทางการญี่ปุ่นต้องการตัวเธอ และพวกเขาก็กำลังมาถึงที่ที่เธออยู่ ความเสียใจที่มีต่อการจากไปของผู้เป็นที่รักทำให้แอชินไม่ได้สนใจอะไร ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นจึงออกมายืนคล้องแขนขวางทหารญี่ปุ่นไม่ให้เข้ามา แม้จะกลัวว่า ทหารญี่ปุ่นจะลั่นไกปืนใส่ร่าง แต่พวกเขาเหล่านั้นต้องการปกป้องแอชิน ไม่ให้ได้รับอันตรายใด ๆ นับเป็นฉากหนึ่งที่ทำให้เราขนลุก 

    ยังมีอีกหลายฉาก หลายตอน ที่ทำให้เราเชื่อเหลือเกินว่า ซีรีส์ต้องการแสดงให้เห็นถึงหัวใจของชาวโชซอน ที่แข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าใคร แม้ในวันที่พวกเขาเหมือนจะพ่ายแพ้ แต่พวกเขาก็จะไม่ยอมอยู่เฉย แล้วให้ใครมาพรากอิสระและเสรีภาพไปได้โดยง่ายเป็นอันขาด 

  • mr. sunshine สำหรับเรา คือ ความน่าประทับใจ ทุกองค์ประกอบล้วนจัดวางมาอย่างดี เพื่อให้ผู้ชมได้เสพความสวยงามของซีรีส์ เราเก็บเรื่องนี้ไว้นานมากกว่าจะได้ดู (คงเห็นได้จากที่เพิ่งมาพูดถึงตอนนี้ ทั้ง ๆ ที่ซีรีส์ฉายตั้งแต่ปี 2018) ตอนแรกไม่รู้เรื่องมากว่า ซีรีส์มีรายละเอียดประมาณไหน เก็บไว้เพราะมีคนแนะนำว่า เป็นซีรีส์ที่ดีและควรดู ซึ่งก็สมกับคำแนะนำและคำชื่นชมอันล้นหลามจริง ๆ 

    ในวันหน้าคงมีซีรีส์อีกจำนวนมากที่ผลิตออกมาให้เราได้ชมกัน แต่ mr. sunshine คงอยู่ในซีรีส์เรื่องโปรดของเราไปอีกแสนนาน จดจำไว้ว่า งานประณีตเป็นแบบไหน จดจำไว้ว่า งานนี้ทำงานกับความรู้สึกเรามากขนาดไหน จดจำไว้ว่า เสียน้ำตาไปมากแค่ไหนกับการแสดงของนักแสดงกลุ่มนี้ ดีใจมากเหลือเกินที่ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ :)
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in