Wonder คือหนังที่ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาว์ชนเขียนโดย R.J. Palacio ตีพิมพ์เมื่อปี 2012 เป็นหนังสือที่เราเห็นผ่านตาตามแผงหนังสือมานานแต่ไม่มีโอกาสได้ซื้อมาอ่านซักที จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมาด้วยความสดใสของปกหนังสือบวกกับทราบว่าถูกสร้างเป็นหนังแล้วซึ่งจะฉายในปีนี้จึงทำให้เราตัดสินใจหยิบหนังสือไปจ่ายตังทันที และถึงแม้จะซื้อมาก่อนหนังฉายก็จริงแต่เราก็ยังไม่ได้อ่านเลยจนกระทั่งตอนนี้ที่เราได้ดูหนังจบไปแล้ว 5555 เพราะส่วนตัวเรามีความรู้สึกกลัวว่าเราอาจจะเกิดความคาดหวังกับตัวหนังมากเกินไปหากอ่านหนังสือแล้วดีเราจึงตัดสินใจว่าเอาล่ะเราจะดูหนังก่อนดูให้สนุกและเพลิดเพลินที่สุดแล้วเราจะกลับมาซึมซับเรื่องราวผ่านตัวหนังสืออีกครั้งหนึ่ง ซึ่งเมื่อได้ดูหนังแล้วเราไม่ผิดหวังเลยหนังทำออกมาได้ดีสมคำร่ำลือเป็นหนังฟีลกู้ดส่งท้ายปี 2017 อย่างแท้จริง
ซึ่งหนังเรื่องนี้กำกับโดย สตีเฟ่น ชาบอสกี้ โดยก่อนที่เขาจะมากำกับหนังเรื่องนี้เขาเคยกำกับ The Perks Of Being a Wallflower หนังแนว Coming of Age ในดวงใจของใครหลายๆคน เท่านั้นยังไม่พอเขาเป็นคนเขียนบทให้กับหนังเรื่อง Beauty and the Beast อีกด้วย สำหรับเรื่อง Wonder นี้นำแสดงโดย เจคอบ เทรมบ์เลย์ (จากเรื่อง Room ที่เลื่องลือ) รับบทเป็น August หรือ Auggie Pullman จูเลีย โรเบิตส์ รับบทเป็น Isabel Pullman (แม่ออกัสต์) และ โอเวน วิลสัน รับบทเป็น Nate Pullman (พ่อออกัสต์) แค่เห็นชื่อผู้กำกับและนักแสดงก็เป็นตัวการันตีความดีงามของหนังเรื่องนี้แล้วล่ะ
เป็นเรื่องราวของ August Pullman (Auggie) เด็กชายผู้เกิดมามีใบหน้าผิดปกติจากโรค *Treacher Colins Synarome จนทำให้เขาต้องผ่านการผ่าตัดถึง 27 ครั้ง อ๊อกกี้เป็นเด็กธรรมดาที่ชื่นชอบไอศครีม วิทยาศาสตร์ และเป็นแฟนตัวยงของ Star War เขาเรียน homeschool มาตลอดจนกระทั่งพ่อแม่ตัดสินใจให้เขาเข้าเรียนโรงเรียนปกติเพื่อหวังให้เขาได้พบเจอผู้คนใหม่ๆการตัดสินใจครั้งนี้ได้เปลี่ยนชีวิตเขารวมถึงผู้คนรอบข้างของเขาไปตลอดกาล
Auggie เป็นเด็กที่มีมุมองในการมองโลกได้แปลกใหม่และสดใสมากสำหรับเราเขาซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองมากรู้สึกอย่างไรพูดไปอย่างนั้นไม่ปิดบัง ความเป็นเด็กมองโลกในแง่ดีของอ๊อกกี้สะท้อนให้เห็นถึงการเลี้ยงดูของพ่อแม่ได้เป็นอย่างดีความอบอุ่นความเข้าใจและการยอมรับในตัวตนที่ครอบครัวมีให้อ๊อกกี้เป็นสิ่งสวยงามที่สะท้อนออกมาจากตัวอ๊อกกี้อย่างชัดเจน
Via พี่สาวของอ๊อกกี้ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่เราชอบมากเพราะเรารู้สึกว่าเวียเป็นตัวละครที่มีมิติไม่ขาวแต่ก็ไม่ดำเป็นตัวละครสีเทา เป็นพี่สาวที่รักน้องมากแต่ขณะเดียวกันก็ยังคงมีความเห็นแก่ตัวปนอยู่มีความอิจฉาอย่างที่มนุษย์ทุกคนมี หากอ๊อกกี้เป็นตัวสะท้อนความอบอุ่นของครอบครัวเวียก็เป็นตัวสะท้อนการละเลยของครอบครัวเช่นเดียวกัน
Jackwill ถึงเวียจะเป็นตัวละครที่เราชอบแต่เราก็กรี๊ดตัวละครแจ๊ควิลด้วย รอยยิ้มน้องน่ารักสดใสมากกระแทกใจสุดเป็นเด็กที่มีความแอคทีฟสูงเป็นตัวละครที่มีมิติอีกคนหนึ่งรองจากเวีย เป็นเด็กจิตใจดีที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตของอ๊อกกี้ไปอย่างสิ้นเชิงแม้จะมีช่วงที่ความเป็นเพื่อนระหว่างแจ๊คกับอ๊อกกี้ถูกสั่นคลอนแต่แจ๊คนั้นก็ถือเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง
Summer เป็นตัวละครที่อบอุ่นสมชื่อมาก จริงใจ จิตใจดี ไร้มลทินที่สุดเท่าที่เราเคยดูเป็นตัวละครที่สอนอะไรหลายๆอย่างทำให้เราตระหนักว่าไม่ควรตัดสินคนแค่รูปลักษณ์ภายนอกแต่ควรมองกันที่จิตใจและเราควรมีเมตตากับทุกคนไม่ว่ากับใครก็ตาม ขอมอบตำแหน่งนางฟ้าให้กับตัวละครนี้เลยจริงๆ
ด้วยความที่ Wonder ถูกดัดแปลงมาจากวรรณกรรมเยาว์ชนตามที่กล่าวมาข้างต้นตัวหนังที่ทำออกมาจึงมีความฟีลกู้ดแบบเด็กๆแต่ขณะเดียวกันก็ทรอดแทรกแง่คิดดีๆที่ทำให้เราได้ฉุกคิดไปด้วยระหว่างที่ดูมีกลิ่นอาย Coming of Age ที่สะท้อนผ่านการรับมือกับปัญหาและการก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ การยอมรับตัวตนซึ่งกันและกันของตัวละครที่เมื่อดูจบแล้วรู้สึกได้ว่าตัวละครมีพัฒนาการและเติบโตไม่มากก็น้อย วิธีการรับมือกับปัญหาต่างๆในเรื่องจะไม่ซับซ้อนมากนักเพราะอย่างที่บอกหนังเรื่องนี้ทำมาจากนิยายเด็กและเป็นหนังฟีลกู้ดจึงทำออกมาให้เข้าใจง่ายและไม่หนักจนเกินไป เราชอบวิธีการเล่าเรื่องของหนังเรื่องนี้มากเพราะจะเป็นการเล่าเรื่องผ่านมุมองของตัวละครแต่ละคนหนังไม่ได้มุ่งความสนใจไปที่ตัวละครเพียงคนใดคนหนึ่งแต่เลือกที่จะนำเสนอมุมมองของแต่ละคนมากกว่าทำให้รู้ว่าเรื่องทุกเรื่องไม่ได้มีแค่ด้านเดียวทุกการกระทำล้วนมีเหตุผลทำให้เราเข้าใจตัวละครแต่ละตัวมากขึ้นซึ่งเราว่าตรงนี้ทำให้เรื่องมีจุดพลิกล๊อคที่น่าประทับใจอยู่บ้างเล็กน้อย
จุดเด่นที่เห็นได้อย่างชัดเจนจากหนังเรื่องนี้คือการชูประเด็น bullying ในโรงเรียนโดยการล้อเลียนและตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก และถึงแม้จะชูประเด็นนี้หนังก็ไม่ได้นำเสนอปัญหาแบบมืดหม่นแต่จะเน้นข้อคิดและสร้างความตระหนักซะมากกว่าเราประทับใจความเอาใจใส่ของอาจารย์ในเรื่องที่มีต่อปัญหานี้มากโดยเฉพาะอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนที่แสดงให้เห็นว่าเขาไม่เห็นด้วยกับทุกการกระทำที่เป็นการไม่ให้เกียรติและดูถูกผู้อื่นเขาพร้อมสนับสนุนและช่วยเหลือเด็กๆเสมอพร้อมทั้งให้อภัยด้วย การล้อเลียนรูปลักษณ์ภายนอกเหมือนที่อ๊อกกี้โดนคนส่วนใหญ่อาจมองเป็นเรื่องเล็กเป็นเรื่องขำๆแต่สำหรับเด็กอายุแค่10 ปี (หรือสำหรับใครก็ตาม) เราคิดว่ามันเป็นปัญหาใหญ่มากและส่งผลต่อจิตใจมากด้วยเพราะช่วงวัยนี้เป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากคนรอบข้างเป็นช่วงค้นหาตัวตน และที่สำคัญหนังเรื่องนี้ส่งเสริมสถาบันครอบครัวเป็นอย่างมากมุ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของครอบครัวและการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่ส่งผลต่อลูกๆทั้งทัศนคติและการใช้ชีวิต หนังนำเสนอความสัมพันธ์ในครอบครัวได้อย่างอบอุ่นงดงามและให้ข้อคิดไปพร้อมๆกันซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
นอกจากนี้โควทในหนังดีงามมากเราประทับใจในหลายๆประโยคโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “When given the choice between being right or being kind, choosekind” เป็นหนังที่มองผ่านๆอาจเหมือนเบาสมองดูได้เรื่อยๆแต่กลับให้อะไรมากกว่าที่คิดบทสวยงามกินใจเราดูแล้วรู้สึกได้รับกำลังใจและพลังด้านบวกแบบสุดๆ ฉากสวยองค์ประกอบดีนักแสดงก็สวมบทบาทและถ่ายทอดออกมาได้ดีเช่นเดียวกัน รับประกันเลยว่าดูแล้วจะร้องไห้ด้วยความประทับใจอย่างแน่นอน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in