เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
me morydream me
31.10.2022
  • *บทความนี้อาจจะอ่านแล้วงง หาจุดเชื่อมโยงไม่ค่อยได้ เนื่องจากขณะที่กำลังเขียน ผู้เขียนกำลังฟุ้งซ่าน level max ขออภัยที่เจตนาเขียนทั้งที่สติไม่เต็มร้อย เผยแพร่งานเขียนที่บกพร่องชิ้นนี้ออกไป ทั้งยังไม่คิดแก้ไขอีกด้วย*

    ครั้งหนึ่ง เพื่อนที่สนิทกันมากๆ (และตอนนี้ก็ยังสนิทกันอยู่นะ คิดถึงมากด้วย) เคยให้เรายืมหนังสือนิยายรักหวานซึ้งโรแมนติกแบบที่เด็กสาววัยแรกรุ่นชอบอ่านกันมาเล่มหนึ่ง ความทรงจำที่แสนเลือนรางเพราะผ่านมานานเหลือเกิน ทำให้เราจำไม่ได้ว่านิยายเรื่องนั้นคือเรื่องอะไร
    ทว่าสิ่งหนึ่งที่ติดค้างอยู่ในความทรงจำ กลับเป็นตัวอักษรเล็กๆตรงส่วนล่างของหน้ากระดาษ เขียนชื่อเพลงเพลงหนึ่งเอาไว้ แน่นอนว่าเราจำไม่ได้หรอกว่าตัวละครในเรื่องมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเพลงนั้น พระเอกอาจจะเปิดให้นางเอกฟัง หรือเพลงนั้นอาจจะตรงกับความรู้สึกของใครสักคน จำไม่ได้เลย

    งานเต้นรำในคืนพระจันทร์เต็มดวง จากวง Cocktail feat. นิว นภัสสร

    ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟัง ผ่านโทรศัพท์เครื่องเก่า หูฟังสีขาวออกหม่นเนื่องจากการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ผ่านมาจนถึงวันนี้ วันที่ได้ฟังเพลงนี้สดๆ เรายังยืนยันคำเดิม หัวใจดวงน้อยในวันนั้นพูดถูก เพลงนี้คือเพลงที่ไพเราะตั้งแต่ชื่อ ไปจนถึงโน้ตตัวสุดท้าย
    แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเพลงนี้ฟังบ่อยนัก แต่ความงดงามของภาษา ความงดงามของท่วงทำนองที่ร้อยเรียงเอาไว้อย่างประณีต เด่นชัดในใจเราเสมอ ชนิดที่แค่ได้ยินแค่โน้ตไม่กี่ตัวเมื่อเพลงเริ่ม น้ำตาที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็รื้นขึ้นมาอย่างง่ายดาย

    เราชอบวง Cocktail สุดๆ 

    ชอบมาก จนกลับห้องมาดูคลิปที่ถ่ายไว้ตอนอยู่ในคอนเสิร์ตแล้วถึงกับเขิน ไม่กล้าแม้แต่จะเปิดดูให้จบคลิป เพราะเสียงตัวเองที่แหกปากร้องเพลงทั้งที่กำลังกระโดดโหยงๆนั้นช่าง

    เฮ้อ 

    มองข้ามเรื่องเสียงของเราไป ไม่กี่ชั่วโมงที่เราได้เจอวงโปรดในวันนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนล้ำค่า หากเปรียบเป็นอัญมณีสักชิ้น เราคงนำไปเจียระไนให้สวยที่สุดชนิดที่ไม่มีอัญมณีใดในโลกเทียบเทียมได้ แล้วเก็บเข้าลิ้นชักส่วนที่ลึกที่สุด เก็บรักษาเป็นอย่างดี ทะนุถนอมให้ถึงที่สุด และหยิบออกมาชื่นชมความงดงามแห่งช่วงเวลาทรงคุณค่าบ้างเมื่อคิดถึง
    (อ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่ามันเว่อร์อะไรขนาดนั้น แต่เชื่อเถอะ ชอบมากจริงๆ)

  • เราชอบเพลงของวงนี้มากๆ แต่วันนี้จะขอโฟกัสที่ "ช่างมัน"

    เนื้อเพลงกรีดแทงหัวใจร้าวราน พอๆกับดนตรีหนักหน่วงจนถ่วงน้ำหนักหัวใจให้หนักอึ้งทุกครั้งที่เปิดฟัง แน่นอนว่านี่ก็เป็นหนึ่งในเพลงโปรดอันดับต้นๆของเรา
    และวันนี้ก็ได้ฟังสดๆแล้วด้วย ปลื้มใจเป็นที่สุด พยายามแหกปากร้องตามเกือบทุกท่อนเลยด้วย คงเพราะมีเรื่องราวทำให้อินจัด

    *เนื้อหาหลังจากนี้ค่อนข้างเวิ่นเว้อ เพ้อเจ้อตามประสาคนติดอยู่ในห้วงรักนิดหน่อย ถ้าไม่ถือสาก็เชิญอ่านต่อได้ตามสบาย*

    ว่ากันตามตรง เรื่องเพลงอกหักขอให้ไว้ใจเรา เราเชื่อว่าเราเข้าถึงอารมณ์เพลงได้ไม่แพ้ใคร
    โดยเฉพาะในช่วงที่หัวใจกำลังสับสนอย่างหนัก จุดจบของคนใจง่าย มักจะเป็นเขาวงกตที่หาทางออกได้ยากเย็น ก้อนเนื้อที่เต้นตุบๆเป็นจังหวะอยู่ในหน้าอกข้างซ้ายได้ลิ้มรสหวานซึ้งแห่งรัก พร้อมกับความขมปร่าของความเจ็บปวดในรักจนชินชา
    ความรักมีหลายรสชาติเสมอ เปรี้ยวซู่ซ่า นำพาความกระชุ่มกระชวยมาสู่หัวใจที่แห้งเหี่ยว เราชิมมาแล้ว
    รสชาติกลมกล่อม ยามที่อะไรๆก็เป็นไปดั่งใจ รสชาติโปรดของเราเลยเชียว
    ความหวานลึกล้ำ เมื่อความหวังเล็กๆน้อยๆ คลับคล้ายคลับคลาเหมือนจะมาเยือน เราได้ชิมรสนี้อยู่บ่อย ทว่าไม่เคยไว้วางใจ
    เพราะรสหวานนำมาเมื่อใด รสชาติขมปร่าสุดขั้วหัวใจก็ตามมาเกาะหนึบ เป็นแบบนี้เสมอไม่เคยพลาด
    พูดให้เห็นภาพขึ้นอีกหน่อย คงเหมือนถูกส่งขึ้นสวรรค์ แล้วจู่ๆก็โดนถีบตกนรก

    พยายามลืมเพื่อลบล้างความเสียใจ ไม่อยากต้องเป็นคนคอยเจ็บทนอยู่เรื่อยไป
    เพราะฉันยิ่งรักเธอมากเท่าไหร่ เธอไม่เคยเข้าใจ คนจะไปฉันรั้งไว้ไม่ได้ ไม่ได้

    ค่ะ เพลงโปรด สถานการณ์ตรงตามเนื้อเพลงทุกคำ จะไม่ให้เราอินยังไงไหว
    เรานึกถึงหน้าใครคนหนึ่งตลอดทั้งเพลง แค่นึกถึง ไม่ได้มีความรู้สึกเชิงลบในนั้น
    ไม่เคยโกรธ ไม่เคยเกลียด แม้จะบ่นอุบเป็นหมีกินผึ้งทุกครั้งที่เจอ ทำไมต้องเจอบ้างล่ะ มาทำอะไรตอนนี้บ้างล่ะ เพื่อนได้ยินประโยคพวกนี้บ่อยครั้ง เชื่อว่าหลายคนคงเอือมระอาไม่น้อย
    จะมูฟออนอะไรของมัน ได้เจอทีไร ไม่นั่งยิ้มหวานเพ้อเจ้อเป็นวันก็พาลหงุดหงิดงุ่นง่านไม่เข้าเรื่อง เป็นแบบนี้เสมอ
    เราเองก็ไม่ชอบที่ตัวเองเป็นแบบนั้น และใช่ เรากำลังฟุ้งซ่านสติแตกจนโฟกัสอะไรผิดถูกก็เพราะเหตุนี้แหละ


  • พยายามลืมเพื่อลบล้างความเสียใจ - อาจจะไม่ถึงขั้นเสียใจ แต่เหนื่อยล้าเต็มทีกับความรักที่รู้ว่ายังไงก็ไม่สมหวังแน่ๆ ไม่ว่าจะพยายามหรือไม่ ผลไม่ต่างกัน 
    เพราะรักเท่าไหร่ก็ไม่เคยเข้าใจ - แน่นอน ทุกครั้งที่เจอกัน เราซ่อนความรู้สึกบ้าบอนี่ไว้ในหลุมที่ลึกที่สุดของก้นบึ้งหัวใจ ใครเลยจะล่วงรู้
    เหมือนจะเก็บไว้ลึกเกินไป จนแม้แต่เราเองก็ชักจะไม่รู้เสียแล้วว่า รู้สึกยังไงกันแน่
    เดี๋ยวก็รัก เดี๋ยวก็อยากพอ สับสนเหลือเกิน

    เปลี่ยนใจเธอไม่ง่าย เปลี่ยนตัวเองก็ได้ ร่ำร้องไปสักเท่าไร เธอไม่เคยเข้าใจ
    ยากเท่าไรฉันต้องทำให้ได้ บอกตัวเองช่างมันเถอะ

    จะพยายามแล้วกันนะ 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in