#?????????????????
??????? : Peck × Tom
?????? : Cotton Candy 702
_____________
01/06/17
แสงแดดอ่อนยามบ่ายส่องผ่านกระจกใส
ตกกระทบบนเบาะที่นั่งด้านหลังของรถยนต์คันหรูสีดำ
กระเป๋าเป้นักเรียนและถุงใส่อุปกรณ์
ถูกวางอยู่ตรงกลาง ถัดมาเป็นกล่องใส่ขนมและขวดน้ำผลไม้ที่จัดเตรียมไว้สำหรับคนที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนโดยเฉพาะ
ทว่าเจ้าของกระเป๋า กลับไม่ได้ใส่ใจสิ่งของภายในรถแต่อย่างใด สายตาทอดมองออกไปนอกหน้าต่างของรถคันใหญ่อย่างไร้จุดหมาย พลางเคาะนิ้วตามจังหวะของเพลงโปรดที่ได้ยินผ่านหูฟังทั้งสองข้าง
ใช้เวลาไม่นาน
ยานพาหนะสีดำเดินทางมาถึงจุดหมาย
ประตูรั้วอัตโนมัติเปิดออก
เผยให้เห็นภาพของสวนดอกไม้ที่ห้อมล้อมน้ำพุสีขาว และบ้านสองชั้นหลังใหญ่ที่คุ้นเคย
ร่างของเด็กชายในยูนิฟอร์มโรงเรียนนานาชาติ ก้าวลงจากรถพร้อมถือกระเป๋านักเรียนไว้ข้างตัวและเดินเข้าไปในตัวบ้าน
"คุณทอมกลับมาไวนะคะวันนี้
ของเยอะแยะเลย มาค่ะ ให้ป้าช่วยถือดีกว่า"
หญิงสาววัยกลางคนเดินเข้ามาต้อนรับ
ด้วยร้อยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนเช่นทุกวัน
"อ๋อ ไม่เป็นไรฮะ วันนี้ของไม่หนักมาก
ทอมถือเองได้ครับป้า"
เขาเอ่ยตอบ คลี่ยิ้มบางแทนคำขอบคุณ
ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองของบ้าน
"คุณทอมคะ"
"ครับ?"
เขาหยุดยืนและหันกลับมามองที่ต้นเสียง
"คือเมื่อเช้า คุณพ่อกับคุณแม่ฝากป้าบอกคุณทอมว่าท่านมีประชุมด่วนที่ญี่ปุ่น อาจจะไม่อยู่บ้านสองสามวันนะคะ..."
ทันทีที่พูดจบ
ความรู้สึกเดิมๆเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ดวงตาสีน้ำตาลฉายแววความผืดหวังอย่างปิดไว้ไม่มิด
"ครับ..ขอบคุณที่บอกครับ"
เด็กชายตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
ก่อนจะหันหลังกลับและเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง
ก็เป็นแบบนี้ทุกปี หวังอะไรไปก็เท่านั้น
เสียงปิดประตูดังขึ้น
ความเงียบเข้าปกคลุมบ้านหลังใหญ่อีกครั้ง
.
.
22:16
คอมพิวเตอร์ที่ใช้ทำงานเมื่อสักครู่ถูกพับปิดลง ปากกาและสีไม้ถูกเก็บใส่กระเป๋าดินสอและวางไว้บนกองสมุดและหนังสือเรียน
ร่างในชุดนอนแขนยาวสีเข้มล้มตัวลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า มือเรียวคว้ามือถือที่ชาร์จไว้ข้างเตียง เขากดเข้าแอพที่คุ้นคุยและ
เปิดอ่านข้อความ จากใครบางคนที่ไม่ได้อยู่กับเขาในตอนนี้
'ทอมนอนรึยังลูก'
'พ่อแม่ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ฉลองวันเกิดปีนี้กับทอมนะ ทางนี้มีงานด่วนจริงๆ'
'ไว้เจอกันที่บ้านนะ แม่ซื้อของขวัญจากญี่ปุ่นไว้ให้ทอมด้วย'
' happy birthday ล่วงหน้านะลูก ♡ "
เสียงถอนหายใจดังขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในห้องนอน
หน้าจอสว่างดับลง
มือถือถูกวางไว้ข้างตัวตามเดิม
ทอมลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ตู้กระจกใส
ลูกแก้วหิมะ ที่เขาเคยได้เป็นของขวัญวันเกิด ยังคงวางอยู่ตรงนั้น
ประตูกระจกใสถูกเปิดออก
มือขาวค่อยๆหยิบของสะสมออกมาดูอย่างเบามือ
ทันทีที่ขวดสโนว์โกลบถูกเขย่า เกล็ดหิมะก็เริ่มกระจายตัวและตกลงมาลงมาปกคลุมบ้านไม้และป่าสนที่อยู่ภายใน
นัยน์ตาสีเฮเซลจับจ้องสิ่งที่อยู่ภายใน
โลกใบเล็กชั่วครู่
ทุกครั้งที่รู้สึกเหงาหรือไม่สบายใจ
ทอมมักจะหยิบสโนว์โกลบลูกนี้ออกมาเล่น
ของเล่นชิ้นนี้ เป็นเหมือนตัวแทนของความทรงจำในวัยเด็กที่เขาคิดถึง และทุกครั้งที่มองเข้าไปข้างในลูกแก้ว เขาจะรู้สึกอุ่นใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากนั้นไม่นาน
แสงไฟดวงสุดท้ายของบ้านมืดดับลง
ร่างเล็กสอดตัวเข้าไปใต้ความอบอุ่นของผ้านวมและทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่าง
จากมุมนี้ เขาสามารถมองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่เงียบสงบ
แม้คืนนี้ท้องฟ้าจะโปร่งใส
แต่กลับไร้แสงสว่างของกลุ่มดาวน้อยใหญ่
ทิ้งให้ดวงจันทร์สีนวล ล่องลอยในความมืดมิด
อยู่เพียงลำพัง
คงไม่ต่างจากตัวเขาในตอนนี้
ตลอด 16 ปีที่ผ่านมา เขาโชคดีที่เติบโตมาในครอบครัวที่เพรียบพร้อม และมีชีวิตที่สุขสบายในบ้านหลังนี้
พ่อกับแม่ของเขามีบริษัทเป็นของตัวเอง
มีธุรกิจใหญ่โตที่กำลังไปได้สวย และนับวันยิ่งมีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
จนบางที เขาเองก็เกือบลืมไปแล้วว่าการได้นั่งกินข้าวพร้อมกันทุกคนมันมีความสุขมากขนาดไหน
ทอมเข้าใจทุกเหตุผลเป็นอย่างดี
และไม่เคยเรียกร้องอะไร
ขอเพียงแค่อย่างน้อย ให้ครอบครัวได้อยู่ด้วยกันมนวันเกิดของเขาก็พอ
และเป็นปีที่เท่าไหร่ไม่รู้ ที่เขาเผลอหลับไปพร้อมกับความรู้สึกอ้างว้างภายในใจ
.
.
ความหนาวเหน็บและเสียงทุ้มของใครบางคน ปลุกเด็กชายให้ตื่นจากห้วงนิทรา
"นี่นาย...ตื่นแล้วสินะ"
ดวงตาคู่สวยกระพริบถี่ๆ สองสามครั้ง เพื่อปรับภาพให้ชัดขึ้น สัมผัสของไหมพรมที่ไม่คุ้นชินใต้ฝ่ามือทั้งสองข้าง ทำให้เขาเริ่มได้สติ
เตียงนอน? ผ้าปูเตียงเขาไม่ใช่แบบนี้นี่
คนที่มาใหม่ยันตัวขึ้น และกวาดสายตาสำรวจไปทั่วห้องด้วยความสับสน
เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางของ หรือแม้แต่ผนังห้องล้วนทำมาจากไม้สีน้ำตาลทั้งสิ้น
ไม่มีสิ่งไหนเหมือนห้องนอนของเขาเลยสักนิด
ทอมกวาดสายตามาทางหน้าต่างและอุทานเสียงดัง เมื่อเห็นร่างของชายหนุ่มที่ยืนกอดอกพิงขอบหน้าต่างอยู่ก่อนแล้ว
"คุณ...คุณเป็นใคร!? ละ..แล้วที่นี่คือที่ไหน"
"นี่ ฉันไม่ทำอะไรนายหรอกนะ ไม่ต้องทำท่ากลัวขนาดนั้นก็ได้"
"คุณเป็นใคร? ตอบผมมาก่อน"
"เฮ้อ ฉันชื่อปีเตอร์ หรือจะเรียกว่าพีทก็ได้
ส่วนที่นายถามว่าที่นี่คือที่ไหน ลองยืนตรงนี้แล้วมองออกไปข้างนอกสิ "
แม้จะเป็นครั้งแรกที่ได้พบกัน
แต่เขากลับสัมผัสได้ถึงความจริงใจ
ผ่านสายตาและรอยยิ้มของคนตรงหน้า
ร่างเล็กในชุดนอนค่อยๆก้าวลงจากเตียงและเดินตรงไปยังหน้าต่างบานที่อีกฝ่ายยืนอยู่
วิวด้านนอกทำให้ดวงตาทั้งสองเบิกกว้าง
ด้วยความประหลาดใจ
"นี่มัน หิมะ! ที่นี่มีหิมะตกด้วยเหรอ"
แม้วิวนอกหน้าต่างของบ้านหลังนี้จะถูกปกคลุมด้วยหมอกบางจากความหนาวเย็น
แต่ก็ยังสามารถมองเห็นบ้านไม้ที่ประดับประดาด้วยกระดาษสีและดวงไฟสีเหลืองส้ม ปลูกเรียงรายไปตามถนนที่กลายเป็นสีขาวจากหิมะ
ห่างออกไปจากเขตบ้านเรือน จะเป็นป่าสนสีเขียวชอุ่มที่ปลูกเรียงรายกันเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา
ทิวทัศน์ที่หาดูได้ยากและสวยงามราวกับฉากในเทพนิยายทำให้เด็กชายตกอยู่ภวังค์ไปชั่วขณะ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าลักษณะบ้านเรือนที่นี่
ดูคุ้นตาเหมือนว่าเขาเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
"มองแค่ข้างนอก คงไม่สวยเท่าได้มาเห็น
ข้างใน กับตาตัวเอง ใช่ไหมล่ะ?"
"คุณหมายความว่าอะไร? มองข้างนอกกับ
ข้างใน— เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่าผมหลุดเข้ามาอยู่ใน..สโนว์โกลบลูกนั้น"
"ใช่แล้วล่ะ ตอนนี้นายอยู่ข้างในสโนว์โกลบ"
"ถ้าอย่างนั้น คุณพาผมกลับไปได้ไหมครับ?"
"จากที่เคยได้ยินมา มีแค่วิธีเดียวที่จะออกจากที่นี่ได้ คือต้องรอจนพระอาทิตย์ขึ้น นั่นคือทั้งหมดที่ฉันรู้นะ"
"หมายความว่า ผมต้องนั่งรอเฉยๆจนเช้า? "
เด็กชายหันกลับมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใกล้กัน มีคำถามมากมายที่เขาอยากถาม
แต่ก่อนที่จะได้เอ่ยอะไรออกไป สายตาที่มองกลับมาก็ทำให้เขาไม่อาจละสายตาจากคนตรงหน้าได้เลย
คนตรงหน้าสวมเสื้อแขนยาวสีอ่อน และเพิ่มความอบอุ่นด้วยเสื้อคลุมหนัง กางเกงสีน้ำตาลเข้ม และรองเท้าบูทหนังเก่าๆ ดูคล้ายชุดพื้นเมืองที่เขาเคยเห็นในหนัง
ใบหน้าเรียวได้รูป รับกับสันจมูกโด่งได้เป็นอย่างดี เรือนผมสีควันบุหรี่ ช่วยขับให้นัยน์ตาสีรัตติกาลดูโดดเด่นขึ้น ประกอบริมฝีปากทรงกระจับ ยิ่งทำให้ชายแปลกหน้าคนนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัว
สิ่งหนึ่งที่ทำให้คนข้างหน้าดูผิดแปลกไปจากคนทั่วไป คือผิวหนังที่มีลวดลายสีน้ำตาลอ่อน แบบเดียวกับตุ๊กตาไม้ที่เขาเคยเห็นในตู้กระจก
"ฉันอยู่ในสโนว์โกลบ ไม่ได้เป็นมนุษย์เหมือนนายหรอกนะ ทอม "
คนอายุน้อยกว่าพึ่งรู้สึกตัวว่ามองนานเกินไป จึงเดินกลับมานั่งที่เตียง แต่สายตายังคงมองออกไปนอกหน้าต่าง
"คุณรู้ชื่อผมได้ยังไง"
ร่างสูงคลี่ยิ้ม ก่อนจะก้าวไปหยุดยืนตรงหน้าคนตัวเล็กกว่า
"เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจหรอก แต่ตอนนี้เรารีบไปกันเถอะ ใกล้เที่ยงคืนแล้วนะ"
"เที่ยงคืน?"
"ก็ไปฉลองวันเกิดนายด้วยกันไง"
ทอมละสายตาจากหน้าต่าง
และมองตามคนที่เดินไปที่ประตูห้อง
"คุณจะพาผมไปที่ไหน"
"อยากรู้ก็ตามฉันมาสิ"
.
.
การออกมาเดินเล่นในคืนที่หิมะโปรยปราย
ทอมเคยฝันว่าอยากลองทำสักครั้งในชีวิต
ลมหนาวที่สัมผัสใบหน้าใต้กรอบแว่น
เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้
คือเรื่องที่จริง และไม่ใช่เพียงความฝัน
แม้ท้องฟ้าในคืนนี้จะไร้แสงดาว
แต่แสงของหลอดไฟดวงเล็กตามบ้านเรือน
ก็สว่างเพียงพอที่จะนำทางพวกเขาไปตามถนนสายเล็กโดยไม่หลงทาง
"นายหนาวหรือเปล่า?"
ความเงียบที่น่าอึดอัดถูกทำลายด้วยคำถามของคนที่เดินอยู่ข้างกัน
ทอมส่ายหน้าแทนคำตอบ
แต่มือทั้งสองข้างยังซุกในกระเป๋าของแจ๊กเก็ตที่เขาสวมทับชุดนอน
ปีเตอร์เหลือบมองอีกฝ่ายและหัวเราะออกมา
ก่อนที่เสื้อคลุมหนังจะถูกยื่นให้คนข้างๆ
"ถ้ากลับไปไม่สบาย นายจะโดนแม่ดุเอานะ"
"..ขอบคุณครับ"
คำขอบคุณถูกเอ่ยอย่างแผ่วเบา
นั่นคือบทสนทนาสุดท้ายก่อนที่ความเงียบ
จะปกคลุมบรรยาศรอบตัวไปตลอดทาง
ไม่นานนัก ภาพของหอนาฬิกาสีทองสวยงาม
ก็ปรากฏสู่สายตาของคนทั้งสอง
"ถึงแล้ว ไทม์แสควร์กลางเมือง"
บรรยากาศรอบตัวดูครึกครื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เสียงหัวเราะและพูดคุยเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
เหมือนผู้คนมากมายจะเดินทางมาที่นี่ในค่ำคืนนี้
"วันนี้เป็นวันพิเศษเหรอครับ? ทำไมคนมารวมตัวกันเยอะจัง"
"อืม พรุ่งนี้เป็นวันก่อตั้งเมือง เรียกได้ว่าเป็นวันสำคัญที่สุดของทุกปีเลยแหละ"
เป็นครั้งแรกที่เขาได้มาร่วมงานเฉลิมฉลอง
ในตอนกลางคืนแบบนี้
เด็กชายกวาดสายตามองรอบตัว
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความสุข
ของครอบครัวและผองเพื่อนที่ได้มารวมตัวกันในคืนพิเศษ
หลังจากยืนรอเพียงไม่กี่อึดใจ
สายตาทุกคู่ก็เริ่มจับจ้องไปยังหอนาฬิกา
เข็มยาวและเข็มสั้นสีทองเคลื่อนที่มาบรรจบกันในที่สุด เรียกเสียงโห่ร้องจากผู้คนได้เป็นอย่างดี
และนั่นบ่งบอกให้รู้ว่าเวลาแห่งการเฉลิมฉลองได้มาถึงเเล้ว
"สุขสันต์วันเกิดนะ ทอม"
"ขอบคุณมากครับ คุณปีเตอร์"
"นายอยากไปเที่ยวในเมืองต่อไหม?"
และคราวนี้คำตอบถูกเอ่ยออกไปโดยไม่ลังเล
"เอาสิฮะ"
ตั้งแต่เมื่ิอไหร่ไม่รู้ ที่ทอมเริ่มคิดว่าบางที
คืนวันเกิดของเขาอาจจะไม่ได้น่าเบื่อเสมอไป
.
.
รู้ตัวอีกที คุณปีเตอร์ก็พาเขาก็มาเดินอยู่ท่ามกลางร้านรวงและบรรยากาศสนุกสนานของชาวเมือง บนถนนกลางเมือง ที่บัดนี้ได้กลายเป็นถนนคนเดินและตลาดนัดในคืนวันเฉลิมฉลอง
"โห ร้านนั้นขนมน่ากินอ่ะ ไปดูกันๆ"
เมื่อเห็นร้านที่สนใจอยู่ข้างหน้า
คนตัวเล็กไม่รอช้า และก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างลืมตัว แต่มือขวาถูกใครบางคนรั้งไว้เสียก่อน
"ที่นี่คนเยอะ จับไว้แบบนี้ จะไม่หลงทางกัน"
ท่ามกลางอากาศที่เย็นยะเยือกและหิมะที่ยังคงโปรยปรายลงมาตลอดทั้งคืน
น่าแปลก
ที่สัมผัสจากฝ่ามือของหุ่นไม้นั้นคลายความหนาว และมอบความอบอุ่นในแบบที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ผู้คนมักพูดกันว่า เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วโดยที่เราไม่รู้ตัว
ทอมไม่เคยเข้าใจความหมายของประโยคนั้น
จนกระทั่งเขาได้ใช้เวลาในคืนวันเกิดอยู่ที่นี่
พวกเขาเดินซื้อของและซึบซับบรรยากาศของเทศกาลแห่งความสุขอย่างไม่รีบร้อน
ทอมมีความสุข
เวลาได้ลองชิมอาหารหรือขนมแปลกตาที่วางขายตลอดทาง
เวลาคนตัวสูงมักชี้ให้เขาดูงานแกะสลักหรือของเล่นแปลกๆที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
หรือในตอนที่นักเต้นรำจับมือเขาไปกลางวง ทำให้ได้เห็นคุณปีเตอร์หัวเราะเพราะท่าทางเก้ๆกังๆของเขา
โลกใบเล็กในลูกแก้วได้กลายเป็นโลกใบใหม่ของเขาไปเสียแล้ว
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่จะอยู่ในความทรงจำของเขาตลอดไป
ระหว่างเดินกลับบ้าน บนถนนสีขาวเส้นเดิม
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ความเงียบอันน่าอึดอัดที่เคยมีได้สลายหายไป
มีเพียงเสียงพูดคุย และเสียงหัวเราะของคนสองคนที่ดังขึ้นตลอดทาง
มือทั้งสองยังคงกุมกันไว้เหมือนเดิม แม้จะไร้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา
ท่ามกลางหิมะดูเหมือนจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
ความอบอุ่นที่ส่งถึงกัน ไม่เพียงแต่คลายความหนาวให้กับทอม
แตยังละลายกำแพงน้ำแข็งที่อยู่ภายในใจของเขา
หลังจากที่ใช้เวลาด้วยกันมาตลอดทั้งคืน
ทอมได้เห็นอีกหลายมุมและได้เรียนรู้เกี่ยวกับคนๆนี้มากขึ้น
เขาชอบความรู้สึก เวลาที่มีคนคอยรับฟังเรื่องต่างๆของเขา
ปีเตอร์เอง ก็มีความสุขที่ได้ยิ้มและหัวเราะไปพร้อมกับใครสักคนและได้กลสยเป็นความสบายใจของกันแลักัน โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว
แสงสีนวลจากโคมไฟภายในห้องสี่เหลี่ยม
สะท้อนให้เห็นเงาของคนสองคนที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงมองออกไปนอกหน้าต่างบานเดิม
ขอบฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้มอ่อนๆ
ความสว่างของแสงตะวัน
กำลังเข้ามาแทนที่ความมืดมิดในยามราตรี
"คืนนี้สนุกมากเลย ขอบคุณสำหรับทุกอย่างเลยนะครับ"
"ขอบคุณเหมือนกันนะ"
"เรื่องอะไรเหรอฮะ?"
"ก็อยู่คนเดียวมาตั้งนาน พอมีนายมาอยู่เป็นเพื่อน มันก็ไม่เหงาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว"
คนตัวเล็กยิ้มออกมาเมื่อได้ฟังคำตอบนั้น
เขาควรดีใจที่จะได้กลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริง แต่เหมือนมีบางอย่างที่ค้างคาอยู่ภายในใจ
"คุณปีเตอร์"
"มีอะไรเหรอ?"
"วันเกิดปีหน้า..เราจะได้เจอกันอีกไหมฮะ"
คนที่นั่งอยู่ข้างกัน หันหน้ามาหาเขา
แสงสว่างกระทบนัยน์ตาสีเข้มเป็นประกาย
ราวกับต้องการจะสื่อแทนถ้อยคำที่สำคัญให้เขารับรู้
"นายเชื่อในปาฏิหาริย์รึเปล่า ทอม"
คนถูกถามนิ่งคิดไปชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยตอบ
"ไม่รู้สิคุณ แต่ที่เราสองคนได้มาเจอกันที่นี่ พอจะเรียกว่าปาฏิหาริย์ได้ไหมนะ"
"ถ้าอย่างนั้น
ฉันจะรอวันที่ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกครั้งนะ"
"ทอมก็จะรอวันนั้นเหมือนกันฮะ"
.
.
.
01/06/20, NYC
23:39
ท้องฟ้ายามเย็นที่เคยเป็นสีชมพูอมส้ม
ในตอนนี้ ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มดาวที่เรียงตัวอยู่ท่ามกลางความมืดของคืนหนึ่งในฤดูร้อน
อากาศในวันนี้เย็นสบายกว่าทุกวันที่ผ่านมา
สายลมอ่อนพัดผ่านช่องหน้าต่างบานเล็ก
เสียงหัวเราะของคนที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างดังขึ้น
นิ้วเรียวที่โผล่พ้นแขนเสื้อไหมพรมกำลังเลื่อนบนหน้าจอสว่างไปเรื่อยๆ
เป็นเวลาเกือบสามเดือน
หลังจากที่ทอมตัดสินใจมาเรียนต่อ
และเช่าห้องพักอยู่ที่อพาร์ทเมนท์แห่งนี้
ใบหน้าใต้กรอบแว่นอมยิ้มอีกครั้ง
เมื่อเห็นรูปของเขาและพ่อแม่ที่ถ่ายด้วยกัน
ในร้านอาหารแห่งหนึ่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขมาก
เพราะเป็นไม่กี่ครั้งที่ครอบครัวของเขาจะได้อยู่ฉลองวันเกิดด้วยกัน
ดวงตาสีน้ำตาลเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง
เข็มนาฬิกากำลังเคลื่อนที่มาบรรจบกัน
วันเกิดของเขากำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
ร่างเล็กเดินไปวางมือถือไว้บนโต๊ะทำงาน
ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง ทว่าสายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ ลูกแก้วหิมะ ที่เขาตั้งใจวางไว้ข้างเตียงนอนตั้งแต่วันแรก
ค่ำคืนวันนั้นผ่านพ้นไป
ทันทีที่ตื่นขึ้นมาในห้องนอนของตัวเอง
ทุกอย่างรอบตัวยังคงเหมือนเดิม
ราวกับก่อนหน้านี้ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น
เข็มเวลายังคงทำหน้าที่ของมัน
และทอมเอง ก็ใช้ชีวิตต่อไปเหมือนทุกวัน
เวลาสามปีผ่านพ้นไป
มีหลายสิ่งในชีวิตของเขาที่เปลี่ยนแปลงไป
เขาเติบโตขึ้น มีภาระหน้าที่เพิ่มมากขึ้น
หากแต่ภาพเรื่ิองราวที่แสนพิเศษในคืนนั้น
ยังคงโลดเเล่นอยู่ในห้วงความทรงจำของเขา
เสมอมา และไม่เคยเลือนหายไป
ทุกครั้งที่มองเข้าไปข้างในสโนว์โกลบ
บทสนทนาในวันนั้นมักจะดังขึ้นในหัวใจ
ของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
"ฉันจะรอวันที่ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกครั้งนะ"
"ทอมก็จะรอวันนั้นเหมือนกัน"
ความสุขที่เกิดขึ้นในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน
และคำสัญญาในวันนั้น
เขารู้ดีว่ามันอาจจะเป็นแค่ความฝัน
ที่ไม่มีวันเกิดขึ้นในโลกความเป็นจริง
แต่ไม่รู้ว่าทำไม ความรู้สึกที่อยู่ภายในใจ
กลับบอกให้เขามีความหวังว่าสักวันปาฏิหาริย์นั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้ก็คงเป็นปีที่สาม
ที่เขาทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างในคืนก่อนวันเกิด
และปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปกับฟ้ายามราตรี
แม้จะต้องผิดหวังมาหลายครั้ง
แต่เขาก็ยังเฝ้ารอ วันที่จะได้กลับไปเยี่ยมโลกใบนั้นอีกสักครั้ง
เฝ้ารอ วันที่เขาจะได้ฉลองวันเกิดพร้อมกับทุกคนท่ามกลางหิมะที่โปรยปราย
และเฝ้ารอ วันที่เขาได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคนที่คิดถึงตลอดมา
ปีนี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วสินะ
เจ้าของห้องถอดหายใจเบาๆ และเอื้อมมือไปปิดสวิตช์โคมไฟเพื่อเตรียมเข้านอน
" นายนอนดึกแบบนี้ทุกคืนเลยรึเปล่าเนี่ย "
เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังท่ามกลางความมืด
ทำให้เจ้าของชื่อหันไปมองอีกฝากหนึ่งของห้องด้วยความตกใจ
ท่ามกลางความเงียบสงัดและแสงโคมไฟ
นัยน์ตาสีเดียวกับท้องฟ้ากลางคืนกำลังมองมาที่ทอมเช่นกัน
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
รอยยิ้มที่อบอุ่นนั่นไม่เคยเปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
"คุณ..คุณปีเตอร์"
"ได้เจอกันสักทีนะ ทอม"
ความรู้สึกและคำถามมากมายเกิดขึ้น
ภายในใจของทอม และก่อนที่จะได้เอ่ยถามอะไรออกไป คนตรงหน้าก็พูดขึ้นมา
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง
แต่ว่าคืนนี้...นายคงต้องเป็นคนพาเที่ยวนิวยอร์กแล้วล่ะ"
.
.
.
{ The End }
_________________
Writer's Notes :
ขอบคุณทุกคนที่กดเข้ามาอ่านฟิคเรื่องนี้นะคะ
หวังว่าจะเป็นเรื่องสั้นๆที่ทำให้คุณยิ้มได้ :)
ดีใจมากๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้
ที่นี่คือเซฟโซน รอยยิ้ม และจุดเริ่มต้นในการเเต่งฟิคของเรา ♡
ขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกันมาตลอด3ปี
ทุกคนคือกำลังใจและความสุขของเรานะคะ
ดรั๊กมากมาย ??
สามารถคอมเมนท์ติชมได้เต็มที่เลยนะคร้อบ
มาคุยกันได้ที่ @CottonCandy702
#CottonCandyLibrary
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in