ผู้บริโภคเดี๋ยวนี้เถื่อนนะครับ ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้
พอทำหนังดีออกมาสักเรื่อง คนดูก็จะบ่นว่าไม่เข้าใจ น่าเบื่อ ไม่สนุก ไม่ตลก แต่พอทำหนังตลกเอาถาดตีหัว คนดูก็บ่นว่า “หนังเมืองไทยก็มีแค่นี้ รัก ผี ตลก”
สำหรับหนังอินดี้นี่ยิ่งไปกันใหญ่ กว่าจะดันให้เข้าโรงใหญ่ได้แม่ง เจรจาฉี่แทบเล็ด แล้วยังต้องมาลุ้นต่อว่าคนจะดูรู้เรื่องมั้ย จะชอบหรือเปล่า หรือจะไม่มีคนมาดูเลย...ถ้าฉายกันเองตามร้านกาแฟ ตามแกลเลอรี นี่ยังพอรับไหวนะครับ แต่ถ้าเข้าโรงใหญ่แล้วหลุดผังตั้งแต่วันแรกๆ กูรับไม่ได้จริงๆ
ถึงคนไทยส่วนใหญ่จะยังไม่เปิดใจกับหนังนอกกระแสมากนัก เพราะขี้เกียจคิด เสพติดความง่าย เวลาดูหนังผีก็ต้องน่ากลัว หนังรักต้องโรแมนติก เศร้าก็ต้องโดนกีดกัน อะไรก็ว่าไป ถ้าคนไทยไม่เสพอะไรแบบนี้ ละครหลังข่าวก็คงเปลี่ยนแนวไปนานแล้วล่ะ ไม่มาตบจูบ ข่มขืน ปืนลั่น คิดมีเสียงแบบนี้หรอกครับ นั่นแสดงให้เห็นว่าเรายังไม่พร้อมเปิดใจจริงๆ นั่นแหละ
แต่ยุคนี้ก็ถือเป็นยุครุ่งเรืองของหนังอินดี้ในประเทศไทยกว่าทุกยุคแล้ว ปัจจุบันมีหนังนอกกระแสหลายเรื่องที่ดูสนุก ดูรู้เรื่อง และทำให้คนดูเริ่มเกิดไอเดียว่า มันไม่ได้ยากขนาดนั้นนี่หว่า
มันเหมือนกับคนทั้งประเทศชอบกินไข่ดาวสุกๆ แล้ววันนึงก็มีคนกลุ่มนึงออกมาบอกว่า จริงๆ แล้วไข่ดาวมันกินแบบไม่สุกก็ได้นะเว้ย เดี๋ยวทำให้กิน
การทำหนังอินดี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ไม่ใช่เรื่องความเท่ ผู้กำกับหนังอินดี้ที่เรามองว่าเท่ คือคนที่ทำไข่ดาวไม่สุกมาแล้วเป็นร้อยๆ ฟอง ทำจนรู้ว่าคนกินชอบแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน
แต่ถามจริงๆ แน่ใจแล้วเหรอว่าเราจะทำไข่ขาย ทั้งที่เราสามารถหากินเองในร้านที่ชอบได้?
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in