เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Movie ReviewAbout Me
[Review] Shang Chi and the Legend og the Ten Rings (2021)
  • [Review] Shang Chi and the Legend of the Ten Rings (2021)
    กำกับโดย Destin Daniel Cretton 


                     นับเป็นภาพยนตร์เรื่องที่2ของ MCU Phase 4 โดย Marvel Studio หลังจากจบศึกสงครามระหว่างทีมอเวนเจอร์สและธานอสผู้ครอบครองมณีทั้ง 6 ที่ต้องการจับประสมดุลของจักรวาลโดยการทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งจักรวาลหายไปครึ่งนึง ในครั้งนี้มาร์เวลได้มีการนำฮีโร่คนใหม่สัญชาติเอเชียอย่างชางชีเข้าสู่จักรวาลของ MCU รวมถึง Ten Ring อาวุธสุดร้ายกาจที่ภายในภาพยนตร์เป็นกำไลข้อมือของ เหวิน หวู่ ชายผู้เป็น แมนดาริน ที่แท้จริงเจ้าขององค์กร Ten Ring ซึ่งเป็นองค์กรที่มีบทบาทใน Ironman 3 แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่กำไลข้อมือแต่กลับมีขุมพลังระดับจักรวาลอีกทั้งยังมีความลับซ่อนอยู่ถึงที่มาของ Ten Ring ที่ทำให้ผมซึ่งเป็นคนดูถึงกับร้องขอว่าทำภาคต่อไวๆเลยเถอะนะ 


                     Shang Chi and the Legend of the Ten Rings เป็นเรื่องราวระหว่าง เหวิน หวู่ ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่มานานนับพันปีผ่านศึกมากมายไม่ว่าจะสงครามหรือเรื่องการเมืองต่างๆ พร้อมอาวุธคู่กายของเขา Ten Rings และ ชางชี ลูกชายของ เหวิน หวู่ ผู้ซึ่งหนีพ่อของตัวเองเพื่อมาชีวิตใหม่ที่อเมริกาและหันหลังให้กับองค์กรของพ่อและสิ่งที่พ่อทำมาต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นหนังแอคชั่นที่ใส่ความสัมพันธ์ของครอบครัวลงไปและทำให้มันลงตัว และที่สำคัญเลยสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้คือการแสดงของนักแสดงแต่ละคน โดยคนแรกที่ตัวผมอยากพูดถึงให้ผู้อ่านทุกคนฟังเลยคือ เหลียง เฉาเหว่ย หลายคนคงเคยรู้จักกันแน่นอนกับนักแสดงคนนี้โดยเฉพาะรุ่นพ่อแม่ของเรา เพราะเขาเป็นนักแสดงเจ้าบทบาทที่แสดงหนังมาเยอะมากในประเทศจีน 
                      

                     ซึ่งในครั้งนี้และเป็นครั้งแรกที่ เหลียง เฉาเหว่ย ได้โลดแล่นบทภาพยนตร์ระดับฮอลลี่วู้ด โดยเขาได้รับบทเป็นพ่อผู้หันหลังให้กับครอบครัวอย่าง เหวิน หวู่ ซึ่งการแสดงของเขาทำให้ตัวละคร เหวิน หวู่ ดูมีมิติมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นซีนที่ต้องใช้อารมณ์ในการสื่อสารหรือซีนแอคชั่นที่ตัวเขาแสดงออกมาได้ดีและเท่มากๆ ซึ่งภาพยนตร์ในปัจจุบันไม่มากก็น้อยที่จะทำให้ตัวร้ายในเรื่องเท่ได้มากขนาดนี้ และคนต่อไปที่จะพูดถึงเลยคือ เรียกคนไม่ได้สิต้องเรียกเป็นคู่เลยก็คือ ซือมู่ หลิว และ อควาฟีน่า ที่ต้องเอามาเป็นคู่เลยเพราะบทของ2คนนี้ค่อนข้างเข้าขากันได้ดีมากๆในบทของ ชางชี และ เคที่ คู่พระนางของเรา โดยบทบาทของ ชางชี คือหนุ่มนิสัยดีที่เบื้องหลังครอบครัวเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่แฝงตัวอยู่ทั่วโลกเพื่อก่อการร้ายรวมถึงตัวเขาเองก็ได้ฝึกวิชาการต่อสู้มาจากองค์กรนี้เช่นกัน ซึ่ง ซือมู่ หลิว แสดงออกมาได้ดีมากไม่ว่าจะเป็นฉากแอคชั่นที่ไม่ว่าดูกี่ครั้งกำให้ใจสั่น ให้อารมณ์เหมือนกำลังนั่งดูภาพยนตร์ของ แจ๊คกี้ ชาน ทั้งการเคลื่อนไหวต่างๆในฉากต่อสู้ค่อนข้างคล่องแคล่วและซีนอารมณ์ ถึงแม้ว่าจะดึงอารมณ์ได้ไม่เยอะแต่ก็ทำให้คนดูรู้สึกสนุกไปกับภาพยนตร์ได้ ในส่วนของบท เคที่ แสดงโดย อควาฟีน่า ขอบอกเลยว่าการแสดงของเธอทำให้ภาพยนตร์มีความตลกมากขึ้นด้วยมุกตลกที่เข้ามาในฉากและดูไม่ยัดเยียดจนเกิน แม้บางฉากจะทำได้ยิ้มได้แค่มุมปากก็ตาม แต่บางฉากก็หัวเราะลั่นเลย ซึ่งความตลกนี้จะขาดไม่ได้เลย หากขาด ซือมู่ หลิว ไปด้วยเพราะแสดงเข้าขากันได้ดีจริงๆ(รู้สึกอวยเกินไปจังเลยแหะ แต่ตัวผมก็ชอบแบบนี้เลยแหละ)และยังมีการแสดงของคนอื่นๆอีกมากมายภายในเรื่องที่ผมไม่ได้พูดถึง แต่บอกได้เลยว่าแสดงดีทุกคนเลยจริงๆ 


                      โดยรวมเนื้อเรื่องทั้งหมดสำหรับผมบอกได้เลยว่าดูแล้วเข้าถึงได้ง่ายมากๆเพราะภาพยนตร์ทำออกมาให้ย่อยง่ายไม่ว่าจะเพศไหนหรือวัยไหนก็ดูได้ รวมถึงฉากแอคชั่นที่ทำได้ถึงใจเอาใจแฟนหนังกังฟูสุดๆและ CG ที่ทำออกมาได้อลังการถึงแม้ว่าจะมีลอยอยู่บ้างพอเป็นพิธีตามสไตล์ของหนังมาร์เวล แต่จะไม่ทำให้ขัดอรรถรสในการชมของผู้ชมทุกท่านแน่นอน โดยตัวหนังจะมีความยาวอยู่ที่ 2ชม.12นาที ซึ่งไม่มีคำว่าน่าเบื่อเลย เพราะแต่ฉากทำให้เราร้อง อู้หู ได้ตลอดทั้งเรื่อง และ เอนเครดิตที่แฟนมาร์เวลทุกๆคนไม่ควรพลาด 


                       สุดท้ายนี้หากมีข้อผิดพลาดใดๆ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ด้วยนะครับ ภาพยนตร์เรื่องหน้าจะเป็นเรื่องอะไรฝากติดตามด้วยนะครับ
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in