I am not one who tell you twice, solisten
Got me lookin’ so crazy my baby,
I am not myself lately
I am foolished and I don’t do this
I’ve been playin’ myself, baby I don’t care.
เทียนจำได้ว่าในคราแรกตนนั้นเป็นฝ่ายควบคุม...
เป็นคนที่เริ่มต้นและใช้ภาษากายทำในสิ่งที่อยากทำและช่างหัวกับทุกอย่างที่ยังมาไม่ถึงเขารู้สึกเหมือนเส้นด้ายบางๆที่เคยเหนี่ยวรั้งสติของตนไว้ได้ขาดสะบั้นลงหลังจากได้ยินเสียงทุ้มกล่าวเรื่องจบความสัมพันธ์ที่ตนอยากจะให้มันเป็นเช่นนั้นมาตลอดแต่น่าตลกที่ท้ายที่สุดธารพิรุณกลับเลือกที่จะกลืนน้ำลายตัวเอง
และใช่...
เทียนจำได้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อน
แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่สามารถควบคุมหรือรับรู้อะไรได้อีกต่อไป จำแทบไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองถูกพาขึ้นรถมาตอนไหนจำได้เพียงแต่รสจูบวาบหวามที่ทำให้เรากลับมาถึงห้องช้าลง พวกเราเริ่มจูบกันอีกครั้งในลิฟต์และเมื่อถึงห้อง มันเหมือนกับทุกสิ่งที่สะกดกลั้นไว้พังทลายแทบจะในทันทีเมื่อสองกายโถมตัวเขาหากัน
คราวนี้เป็นเขาบ้างที่ถูกผลักชิดติดกับกำแพงหลังประตูถูกปิดลงเทียนไม่มีโอกาสได้สำรวจห้องของคนอายุมากกว่า ไม่มีแม้แต่เวลาไถ่ถามเรื่องคอนโดของอีกฝ่ายว่ามีกี่ที่กันแน่ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นนอกจากภาพของผู้ชายตรงหน้า
เขาหอบหายใจขณะใช้มือที่กำลังว่างเว้นฉีกกระชากชุดสีสดแสนเกะกะที่ตัวเองเป็นคนตัดเย็บกับมือออกไปให้พ้นทางปล่อยให้คราบน้ำวาวใสที่ไหลเปื้อนมุมปากถูกปลายลิ้นร้อนตวัดเลียก่อนริมฝีปากของเราจะกลับมาแนบชิดกันอีกครั้ง
ผู้ชายที่ชื่อเหมวิทย์จูบเก่งมาก...
อีกฝ่ายรู้ว่าต้องทำอย่างไรธารพิรุณถึงจะแพ้พ่ายรู้ว่าเขาชอบให้ใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือกดคลึงบริเวณท้ายทอย รู้ว่าเวลาไหนควรปล่อยให้ได้พักหายใจและต้องทำอย่างไรคนๆนี้ถึงจะชอบ
“อ่า...เหม อย่ากัด”
คำพูดของเทียนถูกปัดตกเมื่อกายสูงซุกหน้าลงมาที่ซอกคอแล้วฝากร่องรอยบางอย่างเพียงแค่จุดเดียวที่เหมวิทย์ทำแต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็ทั้งขบกัดและดูดเม้มจนพิรุณคิดว่าสิ่งนี้คงจะติดตัวตนไปอีกทั้งอาทิตย์
และคราวนี้เขาก็มีโอกาสได้เห็น...
เห็นถึงรอยสักและสัดส่วนแสนเพอร์เฟ็คของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจนกว่าครั้งไหนๆทั้งมัดกล้ามช่วงแขนและบริเวณหน้าท้องที่บ่งบอกถึงความมีวินัยในการดูแลตัวเองไม่เว้นแม้กระทั่งส่วนร้อนผ่าวที่เทียนเคยปรนเปรอตอนที่อยู่บนรถครั้งนั้น
เสื้อผ้าของเขาถูกถอดออกภายในเวลาไม่ถึงนาทีจากฝีมือคนอายุมากกว่าอันเดอร์แวร์ถูกรูดรั้งเป็นอันดับสุดท้ายถัดจากสูท ตอนนี้สิ่งเดียวที่เหลือปกปิดร่างกายของเทียนคือซีทรูตัวบางที่อีกฝ่ายไม่ยอมถอดออกไปจนหมด
และธารพิรุณเพิ่งรู้...
เพิ่งรู้ว่ารอยยิ้มมุมปากของผู้ชายที่ชื่อเหมวิทย์จะทำให้เขารู้สึกมวนท้องได้ขนาดนี้
“กฎของพี่มีอยู่แค่ข้อเดียว”
เสียงนั้นว่าขณะที่มือหนาเริ่มลูบไล้ เริ่มจากแก้ม ไล่ต่ำลงมาถึงแผงอกหน้าท้องและสิ้นสุดที่ส่วนอ่อนไหวกลางลำตัว ยามที่มือของอีกฝ่ายบีบคลึง ธารพิรุณก็รู้สึกเหมือนเสียความเป็นตัวเองอย่างสิ้นเชิง
“ถ้ารู้สึกดีก็แค่ร้องออกมาดังๆ”
“…….”
“ทะ...เทียน อ่า พี่เหม”
วินาทีนั้นเจ้าของชื่อหายใจสะดุดไปหมด เขารู้สึกเหมือนกับตัวเองกำลังอยู่บนที่สูงและถูกผลักลงมาเมื่อถูกปรนเปรอจากทั้งยอดอกและช่วงล่างความอุ่นชื้นที่ไล้เลียและดูดเม้มทำเอาผู้ถูกกระทำเผลอเกร็งหน้าท้องยิ่งร่างนั้นแทรกตัวเข้ามา ยิ่งเมื่อมือหนาจับขาข้างหนึ่งของเขายกพาดกับเอวเมื่อทุกอย่างไม่สามารถหยุดได้อีกต่อไปแล้ว
แต่นั่นมันก็แค่จุดเริ่มต้น...
ใบหน้าหวานเชิดขึ้นหลังจากรู้สึกถึงบางสิ่งที่เริ่มรุกล้ำเข้ามาจากด้านหลังมันอาจฝืดคับมากกว่านี้หากเหมวิทย์ไม่ใช้ประโยชน์จากความข้นหนืดที่ไหลปริ่มออกมาจากส่วนอ่อนไหวของเขาเป็นตัวช่วยในการทำให้ทุกอย่างง่ายยิ่งขึ้นและมันบ้ามากจริงๆที่พิรุณรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายตอนนี้ไม่ใช่ของตัวเอง
ผู้ชายที่ชื่อเหมวิทย์รู้ดีเกินไป
หรือหากไม่ใช่เพราะรู้ดีก็คงเพราะเป็นอีกฝ่ายใส่ใจ...
ร่างกายของเทียนตอบสนองกับการกระทำนั้นดีเสียจนผู้ถูกกระทำยังแปลกใจ เขาบิดตัวเร่าขณะที่จำนวนนิ้วถูกเพิ่มเข้ามาและหมุนเคว้งราวกับต้องการให้ธารพิรุณคลั่งตาย ไม่ใช่คู่นอนทุกคนที่จะใจเย็นทำแบบนี้ เทียนเคยชินกับทุกอย่างที่รวดเร็วและปุบปับ
เพราะทุกคนก็แค่สะใจและสนองความต้องการ
ไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกรัก เพราะนี่คือเซ็กส์...
“อึก...”
เหมวิทย์ใช้เวลาไม่นานในการทำให้เขาแตะขอบสวรรค์ เทียนหายใจหอบขณะเหลือบมองส่วนอ่อนไหวที่วางนาบอยู่บนหน้าท้องพร้อมกับน้ำสีขุ่นที่ไหลเปรอะเลอะตามตัว เขาแทบจะเก็บความรู้สึกตื่นเต้นนี้ไม่ไหวขณะที่กายสูงเคลื่อนขยับเข้าหา
เราจูบกันอีกครั้ง...
จบสิ้นแล้วกับการพยายามผลักไส เทียนเพิ่งรู้ว่าตนโหยหาอีกฝ่ายมากกว่าที่คิดก็ตอนที่ร้องขอให้ร่างนั้นจูบตนซ้ำๆช่วยดึงกางเกงแสนเกะกะนั่นลงและสาวรูดส่วนแข็งขืนที่ขึ้นเป็นเอ็น มันร้อนผ่าวจนเขาอยากสัมผัสอย่างใกล้ชิดมากกว่าให้สิ่งใดมากั้นขวาง
“ไม่มีเจลนะครับ” เสียงนั้นว่าขณะเงยหน้าขึ้นมาสบตา
“…….”
“พี่ไม่เคยพาใครมาที่นี่ เพราะอย่างนั้นนายจะต้องทนอึดอัดหน่อย”
“เทียนอยากให้พี่เข้ามาได้แล้ว”
ธารพิรุณแพ้รอยยิ้มแบบนี้ของอีกฝ่ายจริงๆ
“เทียนจะได้ตามที่ขอเลยค่ะ”
ผู้ชายที่ชื่อเหมวิทย์น่ะร้ายกาจ...
เขารู้มาตลอดจนกระทั่งตอนนี้ที่อีกฝ่ายเรียกเทียนด้วยชื่อเล่นและใช้คำพูดคะขา มือขาวกำผ้าปูที่นอนแน่นเมื่อรับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งรุกล้ำเข้ามาภายในร่างกายของตนมันถูกดันเข้ามาทีละนิดในคราแรก เข้ามาเพียงแค่ส่วนหัวแล้วก็ถูกดึงออก คนอายุมากกว่าทำแบบนั้นอยู่หลายครั้งจนเทียนตายใจกระทั่งวินาทีถัดมาสิ่งนั้นเข้ามาลึกกว่าคราใดจนดวงตารีเรียวเบิกกว้าง
มันลึก เสียดสีและคับแน่น...
เขาเผลอหยุดหายใจไปชั่วขณะเมื่ออีกฝ่ายดันส่วนแข็งขืนเข้ามาทีเดียวจนสุดความยาว เหมวิทย์ไม่ได้ขยับในทันทีหากแต่สิ่งที่ผู้ชายคนนั้นทำคือการก้มลงมาจูบเขาตั้งแต่ขมับชื้น แก้มอิ่มกระทั่งริมฝีปากที่ปริแตกและบวมจากการจูบหลายต่อหลายครั้ง
ก้อนเนื้อในอกของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นเมื่อฝ่ามือหนาเอื้อมมากุมมือของตนไว้หลวมๆ
วูบไหวเพียงเพราะไม่เคยมีใครทำแบบนี้...
หลงใหลในความอ่อนโยนที่แฝงไปด้วยความร้อนแรง
ธารพิรุณคิดไม่ผิดจริงๆว่าผู้ชายที่ชื่อเหมวิทย์น่ะอันตราย
ใบหน้าคมกับเส้นผมชื้นเหงื่อที่ปรกแนบไปกับกรอบหน้ายิ่งทำให้อีกฝ่ายดูมีเสน่ห์และสุดท้ายทุกอย่างก็เป็นตามที่เหมวิทย์เคยบอก ‘ถ้ารู้สึกดีก็แค่ร้องออกมาดังๆ’
เขาไม่ได้กลั้นเสียงครางของตัวเองเลยขณะที่ร่างกายค่อยๆไหวคลอนไปตามจังหวะขาทั้งสองข้างถูกแยกออก เทียนโอนอ่อนต่อทุกการกระทำของอีกฝ่ายราวกับขี้ผึ้งต้องไฟร้อน ทั้งถอดซีทรูที่เคยสวมใส่อย่างหมิ่นเหม่ออกไปให้พ้นทาง ยอมให้คนอายุมากกว่าจับเปลี่ยนท่าตามใจขึ้นควบและโยกขย่ม ปล่อยให้ริมฝีปากของตนถูกช่วงชิงซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นเดียวกับที่ยอมให้ชื่อเล่นของตัวเองหลุดออกมาจากปากของกายสูง
เทียนกอดอีกฝ่ายแน่นเมื่อถึงจุดที่ทำให้รู้สึกดีมากกว่าครั้งไหนๆซบหน้าลงกับลาดไหล่หนาก่อนจะฝากร่องรอยในแบบที่คนอายุมากกว่าเคยทำ ใบหน้าที่เคยขึ้นสีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วกลับร้อนผ่าวเมื่อได้ยินเสียงเหมือนกับขวดไวน์ที่ถูกเปิดยามเมื่อส่วนแข็งขืนถูกถอดถอนออก
เหมวิทย์ไม่ได้หยุดแค่นั้นเหมือนกับที่เทียนไม่ต้องการให้ทุกอย่างจบลง
เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อไป...
เป็นอีกครั้งที่ร่างกายเปลือยเปล่าถูกอุ้มจนตัวลอย
จุดหมายปลายทางคือห้องน้ำ
.
.
.
กลับไปอ่านต่อ
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in