เทพเจ้าแห่งผืนดิน เป็นเทพเจ้าที่คนเชื้อสายจีนส่วนมากต่างให้ความเคารพบูชาไว้ประจำบ้าน โดยเชื่อที่ว่าเทพเจ้าที่จะคอยดูแลคุ้มครองท้องถิ่น ที่ดิน ชุมชนนั้นๆ เปรียบเหมือนเป็นเทพารักษ์ประจำท้องที่
...
“เคารพบูชาแล้วจะพบความสุขสงบร่มเย็น ช่วยคุ้มครองผู้ที่นับถือบูชา รวมถึงครอบครัวของผู้บูชา ในการบูชาคนจีนจะนำน้ำชาร้อน และจุดธูป 5 ดอกทุกวัน ซึ่งในอดีตคนจีนที่ย้ายถิ่นฐานมาค้าขายยังประเทศไทยจะเช่าบ้านเพื่ออยู่อาศัย จึงนำความเชื่อเรื่อง การเคารพและวิธีการบูชาเทพเจ้าที่มาเผยแพร่ยังประเทศไทย”
(สมชัย กวางทองพาณิชย์,2018
ศาลเจ้าดังกล่าวได้รับการนับถือมากจากฮ่องเต้พระองค์หนึ่งซึ่งได้ตั้งชื่อใหม่ให้กับเทพฮกเต็กว่า "ถู่ที้กง" อันแปลว่าเทพเจ้าแห่งผืนแผ่นดินทั้งหลาย ชาวจีนจึงยึดถือว่าท่านเป็นเทพเจ้าที่มานับแต่นั้น
2. ธูป 5 ดอก
3. เหรียญสิบใหม่ ๆ 5 เหรียญ วางใส่ในกระถางธูปหรือใต้กระถางธูปก็ได้ เพื่อช่วยเสริมเงินทองให้ไหลมาเทมา
4. แจกันพร้อมดอกไม้สด 1 คู่
5. น้ำชา 5 ถ้วย
6. เหล้า 5 ถ้วย
7. ผลไม้ 5 อย่าง
8. ฮวกก้วย 1 ชิ้น
9. ขนมอี้ หรือสาคูแดง 5 ถ้วย
10. ขนมจันอับ
11. ข้าวสวย 5 ถ้วย
12. เจฉ่าย
13. ซาแซ หรือ โหง่วแซ ซาแซ คือของไหว้ชุดเล็ก ประกอบด้วย ของคาว 3 อย่าง โดยมี ซาเปี้ย และ ซาก้วย หรือของหวาน 3 อย่างกับผลไม้ 3 อย่าง ไหว้พร้อมกัน
14. โหง่วแซ คือของไหว้ชุดใหญ่ เป็นของคาว 5 อย่าง ประกอบด้วย หมู ไก่ ตับ ปลา และกุ้งมังกร แต่เนื่องจากกุ้งมังกรมีราคาแพง และหาซื้อยาก จึงนิยมไหว้เป็ดหรือปลาหมึกแห้งแทน
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ การไหว้ประจำวันและการไหว้ตามวันพระจีน ต่างกันตรงที่ของไหว้เพียงเล็กน้อย อีกทั้งการไหว้ตามวันพระจีนมีแค่เดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งไม่นับรวมกับการไหว้เจ้าตามเทศกาล อย่าง ตรุษจีน สารทจีน รวมถึงการไหว้รับเทพ เพราะมีของไหว้ไม่เหมือนกัน
ความเชื่อเกี่ยวกับเทพเจ้าประจำบ้านของคนไทยเชื้อสายจีนเกิดจากลัทธิความเชื่อพื้นฐานดั้งเดิม คือ เชื่อเรื่องผีในธรรมชาติ ผสมผสานกับลัทธิเต๋า ลัทธิขงจื้อ และพุทธศาสนาแบบมหายาน ในสมัยโบราณ การบูชาเทพเจ้าประจำบ้าน มักจะเป็นเทพเจ้าที่มาจากธรรมชาติที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต
โดยเทพเจ้าเหล่านี้ล้วนเกิดจากความเชื่อว่าทุกส่วนภายในบ้านที่มีความสำคัญมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ เทพเจ้าประจำบ้านของคนไทยเชื้อสายจีนในอดีตมีด้วยกันทั้งสิ้น 5 องค์ คือ
1)เทพเจ้าแห่งประตู
2) เทพเจ้าเตาไฟ
3) เทพเจ้าบ่อน้ำ
4) เทพเจ้าสุขา (ส้วม)
5) เทพเจ้าช่องแสงบนหลังคา
ในระยะแรกที่อพยพมานั้นเห็นไม่ชัดเจน เพราะชาวจีนมีความรู้สึกว่าตนเองมาอาศัยอยู่เพียงชั่วคราว แต่เมื่อผ่านช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว จึงตระหนักถึงอัตลักษณ์ของตนที่แตกต่างจากคนไทยทำให้ต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
ต่อมาบทบาทของเทพเจ้าประจำบ้านมีความสำคัญและมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีนมากขึ้น จากที่เคยเคารพบูชาเพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เมื่อต้องอพยพมาอยู่ต่างถิ่นสู่ความสัมพันธ์ในฐานะเทพเจ้าที่ดลบันดาลให้เกิดความมั่งคั่ง
-
"เทพเจ้าประจำบ้านจึงเป็นสิ่งเดียวภายในบ้านที่เปรียบเสมือนกระจกสะท้อนความเป็นตัวตนของบรรพบุรุษคนไทยเชื้อสายจีน"
-
รุ่นแรกๆ จะเป็นอะไรที่ง่ายๆ เอาหีบไม้ใส่กระป๋องนมในยุคนั้นมาจับเปิดฝาพิงกับผนัง แล้วเอากระดาษแดงมาทากาวปะกับฝาหีบ เขียนสีทองด้วยคำว่า “ตี่จู้” ซึ่งแปลว่า เจ้าที่ลงไป
ตี่จู่เอี๊ยะ เป็นความเชื่อของคนจีน มีไว้เพื่อดูแลคนในบ้าน ป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้าบ้าน ซึ่งเหมือนศาลพระภูมิของคนไทย ถามว่าส่งผลอะไรกับชีวิตโดยตรงไหมคงไม่ แต่ส่งผลทางด้านจิตใจมากกว่า ตั้งไว้เพื่อความสบายใจ เพราะเรื่องแบบนี้ไม่สามารถพิสูจน์อย่างเป็นรูปธรรมได้
ในส่วนของการแสดงฐานะทางสังคม วัสดุที่ใช้ทำตี่จู่เอี๊ยะก็เป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกฐานะได้ คนที่มีฐานะมากก็จะซื้อตี่จู่เอี๊ยะเป็นหินอ่อนหรือหยกเพื่อแสดงฐานะหรือความมั่งมีของตน
เนื่องด้วยปัจจุบันวิถีชีวิตของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไป การใช้ชีวิตและการมีที่อยู่อาศัยเริ่มเล็กลง คนใช้ชีวิตอยู่คอนโดมิเนียม อพาร์ตเม้นท์มากขึ้นเพื่อความสะดวกในการเดินทาง จึงมีการพัฒนาตี่จู่เอี๊ยะให้เป็นรูปแบบโมเดิร์น เพื่อให้สอดคล้องกับที่อยู่อาศัย ความต้องการของคนสมัยใหม่ ไม่ขัดกับหลักฮวงจุ้ย และความเชื่อแต่เดิมในอดีต
ขนาดของตัวศาลที่จะวัดจากขอบหน้ากว้างของฐาน มีตั้งแต่ 12 นิ้ว 16 นิ้ว 18 นิ้ว รุ่นใหญ่ก็จะเป็น 24 นิ้ว ซึ่งขนาดเหล่านี้ต้องมีระยะลงเลขมงคลเท่านั้น ความกว้างฐานในเลขมงคลก็ต้องเพียงพอสำหรับการวางเครื่องน้ำชา และกระถางธูป ส่วนความสูงจากพื้นถึงยอดก็ต้องลงเลขมงคลสีแดงเหมือนกัน
ศาสตร์ตลับเมตรจีนแบบนี้เรียกว่า ‘หลู่ปัง’ เป็นมรดกทางปัญญาด้านหนึ่งของวิชาฮวงจุ้ย คิดค้นโดยท่านปรมาจารย์หลู่ปัง ซึ่งถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งช่างของจีน โดยถูกคิดเพื่อใช้ในงานก่อสร้างของคนจีนสมัยก่อน
แนวโน้มของตี่จู่เอี๊ยะในอนาคตยังไม่มีท่าทีที่จะดูลดลง เนื่องจากในปัจจุบันทั้งชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวไทยยังคงนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เป็นจำนวนมาก กิจการที่เกี่ยวกับเครื่องรางของขลังในสังคมปัจจุบันมีแนวโน้มที่เติมโตอยู่ตลอด อีกทั้งยังมีบริษัทท่องเที่ยวที่มีการจัดการท่องเที่ยวการไหว้หรือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งในและนอกประเทศ
อีกทั้งตี่จู่เอี๊ยะนั้นเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวจีนมาตลอดแล้วยังเป็นสิ่งที่แสดงถึงอัตลักษณ์ประจำเชื้อชาติที่แตกต่างจากคนไทย แต่ในอีกแง่มุมหนึ่งชาวไทยแท้ๆ ก็หันมาตั้งตี่จู่เอี๊ยะในบ้านหรือร้านค้า เพราะเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคลและนำความรุ่งเรื่องสู่ครอบครัวและกิจการของตนเอง
อย่างไรก็ตามตราบใดที่ลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนยังเคารพนับถือบุคคลในครอบครัว เช่น พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ที่แนะนำให้ปฏิบัติตาม พิธีกรรม ความเชื่อ ข้อปฏิบัติก็จะถูกสืบทอดต่อไปเรื่อยๆ เพื่อรักษาอัตลักษณ์ของความเป็นลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีน แต่ทว่าลูกหลานชาวไทยเชื้อสายจีนที่ไม่ได้สืบทอดตามเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษ ก็ใช่ว่าพวกเขาเหล่านั้นจะไม่เคารพนับถือ แต่อาจเป็นการเปลี่ยนวิธีปฏิบัติ
ยกตัวอย่างเช่น การลดของไหว้ หรือปรับเปลี่ยนของไหว้ ให้เหมาะสมกับฐานะ สภาพความเป็นอยู่ และสภาพเศรษฐกิจในตอนนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตในอนาคตมากขึ้น รูปแบบของตี่จู่เอี๊ยะอาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากรูปแบบเดิม เพื่อให้เข้ากับสมัยนิยมที่ต้องการพื้นที่ใช้สอยในบ้านมากขึ้น จึงต้องลดทอนสัดส่วนและตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นของตี่จู่เอี๊ยะลง
---
เป็นที่แน่ชัดว่า
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in