1.
วิชาสิ่งแวดล้อมในช่วงชั้นประถมสอนให้ผมรู้ว่า ตามธรรมชาติ เหล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจะประคบประหงมลูกของตัวเองจนถึงจุดหนึ่ง จนถึงเวลาที่ลูกเติบโตมากพอ ก็จะสั่งสอนวิธีการเอาตัวรอด วิธีใช้ชีวิต และพยายามผลักใสให้ออกไปเผชิญกับโลกกว้าง ตามหาเผ่าฝูงใหม่ๆ สร้างครอบครัว มีบุตรหลานเพื่อรักษาไว้ซึ่งเผ่าพันธ์ พวกมันต่างรู้ดีว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตชนิดใดจะอยู่ใกล้ชิดกับผู้ให้กำเนิดได้ตลอดเวลา วันหนึ่งเมื่อถึงเวลา ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจำเป็นต้องไป จะด้วยการจากเป็นจากตายก็ตาม ส่วนผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ ก็ต้องออกไปใช้ชีวิตที่เหลือตามสัญชาติญาณและยึดเอาวิถีปฏิบัติจากสิ่งมีชีวิตรุ่นก่อนๆซึ่งสืบทอดกับมาเป็นรุ่นๆ
เราตื่นตากับภาพสัตว์โลกพิศวงในหนังสือเรียน คลิปวีดีโอสารคดีสำรวจโลกแสดงให้เห็นถึงพลังของฝูงหมาป่าในการล่าทำลายเหยื่อ หรือภาพสิงโตหนุ่มดูเด่นสง่าน่าเกรมขามเหมาะกับสมยานามว่าเจ้าแห่งสัตว์ป่า เราตื่นตาตื่นใจเมื่อได้เห็นวิถีชีวิตของพวกมัน ครั้งหนึ่งในชั้นเรียนปะถม เราเคยตอบคำถามว่าถ้าเป็นสัตว์ได้หนึ่งชนิด จะเลือกเป็นอะไร ไม่ต้องคิดนาน เสือ สิงโต และสัตว์ปีกต่างถูกเลือกขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ
เราอยากมีชีวิตที่เท่ น่าเกรงขาม อยู่อย่างยิ่งใหญ่ในผืนป่ากว้าง
ภาพเจ้าป่าซิมบ้าในไลออนคิงฉายฉัดให้เห็นถึงอำนาจของผู้อยู่สูงสุดของห่วงโซ่อาหาร
จนวันที่เราเติบใหญ่ ภาพของเสือ สิงโตและฝูงหมาป่า
เป็นเพียงภาพสัตว์สวยงามตามจินตนาการ
กว่าจะรู้ตัวอีกที เราพบว่าแท้ที่จริงเราเป็นได้แค่ฝูงกระต่ายภายในป่าคอนกรีตอันโหดร้าย เราเลิกฝันไปว่าจะกลายเป็นเจ้าแห่งผืนป่า เรารู้เพียงว่าเพียงหาปัจจัยเลี้ยงชีพเท่านั้นก็ยากเกินกว่าจะไปทำอื่นใด
2.
ย่านสะพานใหม่ที่ผมอาศัยตั้งแต่สองขายังไม่เท่าฝาหอยกำลังค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยอย่างมีจุดหมาย ปลายทางคือการสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีใหม่เพื่อนำพาชีวิตที่ดีกว่ามาสู่ชาวบ้านละแวกนี้ เรารู้ตลอดนับตั้งแต่วันที่มีประกาศออกมา แต่ลึกๆเราตระหนักดีว่าการเปลี่ยนแปลงแม้จะมีผลกระทบกับผมหรือผู้คนในย่านนั้น แต่การเปลี่ยนแปลงคือสิ่งจำเป็นที่มนุษย์จำต้องเผชิญ การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ชวยให้เผ่าพันธ์มนุษย์อันแสนจะอ่อนแอทางด้านกายภาพกลับกลายเป็นผู้อยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหาร ทั้งทางร่างกายและสภาวะแวดล้อม สิ่งหนึ่งที่ผมทำได้คงเป็นเพียงการยอมรับและพยายามเติบโตไปพร้อมๆกับมัน
ระยะห่างจากบ้านไปสถานีรถไฟฟ้าใกล้สุดแม้จะห่างกันราว 20 กิโลเมตร แค่ความยากลำบากของมันคือการฝ่าฟันสภาพการจราจรอันเลวร้ายในทุกๆเช้า ภาพรถติดถูกฉายซ้ำไปซำมาบังคับให้ต้องตื่นเช้ากว่าปรกติ เพียงเพื่อจะได้มีเวลาเผื่อใช้ในการเดินทาง ผมชินชาไปแล้วกับภาพถนนที่ถูกปิดเหลือสองเลน ชินชากับภาพของรถสาธารณะบางประเภทที่ยึดครองถนนหนึ่งเลนไว้ ชินชากับเวลาที่เสียไปอย่างน่าเสียดายในการเดินทางไปทำงาน
3.
เป็นเวลานานทีเดียวนับตั้งแต่ถูกความจำเป็นผลักออกจากอ้อมกอดบุพการี ในวันที่ขนาดตัวเติบใหญ่จะเกินกว่าอ้อมกอดนั้นจะโอบกอดเราเอาไว้ ชีวิตเราต่างต้องพานพบเรื่องราวแบบนี้ ไม่มีอ้อมกอดไหนจะโอบรัดเราได้ตลอด เรื่องแบบนี้สัญชาติญาณความเป็นมนุษย์รู้ดี เมื่อใช้ชีวิตอยู่กับคนทางบ้านมานานถึงจุดหนึ่ง เสียงสัญชาติญาณนักล่าภายในจะกู่ร้องบอกให้เราพิสูจน์ตัวเองโดยการประกาศตนว่าตัวข้าสามารถทำงานทำเงินเพื่อเลี้ยงดูตัวเองได้ และก้าวกระโจนออกจากคอมฟอตโซน ลึกๆชีวิตของมนุษย์ซักคนย่อมไม่ประสงค์ที่จะเป็นภาระใครอยู่แล้ว เราต่างต้องการใช้ชีวิตในทิศทางของเรา แม้ว่าเส้นทางนั้นจำจะผลักให้เราต้องห่างไกลใครบางคน ออกไปพจญภัยในผืนป่า ล่าอาหาร และกลับบ้านอย่างผู้มีชัย
จู่ๆในวันนี้ผมดันนึกถึงคนที่บ้าน อันที่จริงแม้เราจะอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน แต่ผมและคนในบ้านแทบไม่มีเวลานั่งสนทนากันเสียเท่าไร ที่ทำบ่อยสุดก็เป็นเพียงโทรศัพท์ไปถามไถ่รายการอาหารว่าต้องการอะไรไหม ก่อนจะแวะไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อหาเก็บตุนเอาไว้ ยัดใส่ตู้เย็น
แม้จะเป็นสิ่งของเดิมๆที่ซื้ออยู่ประจำก็ตามที แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าช่องแช่แข็งของที่บ้านจะไม่มีวันว่าง พร้อมมีอาหารทั้งหลายช่วยเยียวยาความหิวอยู่ตลอดเวลา ไม่แปลกใจเลยว่าถ้าเปิดบันทึกการโทรเข้าในมือถือของผม รายชื่อบนสุดมักเป็นชื่อของแม่เสมอๆ ก็จะให้ทำอย่างไรได้ ระยะเวลาในการเดินทางไปกลับวันต่อวันอยู่ที่ประมาณ 3 ชั่วโมงถ้าหากรถไม่ติด (ซึ่งแทบไม่พบเห็น) สิ่งที่ทำได้นอกเหนือจากการเล่นอินเตอร์เน็ตก็คงเป็นการโทรคุยกับคนที่บ้าน เพียงเพราะไม่รู้จะกลับไปทันคนทางนั้นเข้านอนหรือไม่
ในแต่ละวันผมผ่านผู้คนนับร้อยนับพัน ตั้งแต่รถเมล์ยันรถไฟฟ้า ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟปิดดึกร้านหนึ่งแถวย่านรัชโยธินซึ่งช่วงหลังๆที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งพักพิงอาศัยในระยะเวลาหนึ่งแก้วนมสดเพียงเพื่อรอการจราจรคลายตัวลง และใช้เวลาว่างเหล่านั้นสะสางงานที่ยังคั่งค้าง น่าเศร้าตรงที่เราทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งมองผู้คนเหล่านั้นและการจราจรเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆ และเมื่อถึงเวลาที่น่าพอใจ ผมก็พาตัวเองขึ้นไปเบียดเสียดกับผู้คนอยู่บนรถเมล์คันใหญ่
บนรถเมล์สาย 34 เวลาห้าทุ่มกว่า แววตาเมื่อยล้าฉายชัดจากเพื่อนร่วมคันรถ ถนนยังคงเคลื่อนตัวได้อย่างไม่สะดวกเท่าไรนัก มันคงเป็นเช่นนี้ ถูกกลไกในความเป็นคนเมืองค่อยๆฉีกเราออกห่างจากคนทางบ้านด้วยการจราจร และมีคำคมจากหน้านิวฟีดคอยย้ำเตือนการใช้ชีวิตให้เราต้องเข้มแข็งในทุกย่างก้าว เราต่างรู้ว่าในเมืองใหญ่ ไม่มีที่ยืนมากพอให้กับผู้อ่อนแอ เราต่อสู้กับการงานและปัญหาด้วยความเดียวดายเหตุเพราะลึกๆเราไม่อยากเป็นภาระใคร เฝ้าฝันไว้ว่าซักวันหนึ่งเราต้องสบาย เราต้องกลายเป็นหัวหน้าเผ่าใดเผ่าหนึ่งที่เข้มแข็ง และกำจัดความโดดเดี่ยวในป่าคอนกรีตอย่างทุกวันนี้ให้ออกไปเสียที
4.
ระหว่างกำลังเข้าบ้าน บ่อยครั้งผมมักจะเห็นหมาฝูงใหญ่ออกคุ้ยเขี่ยเศษอาหารจากถุงขยะอย่างที่มันกระทำเป็นประจำ หรือไม่ก็วิ่งไล่จักรยานยนต์ซึ่งขับไปเฉียดในรัศมีการมองเห็นของพวกมัน และหลายครั้งเช่นกันที่ผมเห็นมันถูกชาวบ้านแถวนั้นออกมาขับไล่ มันล่าถอยไปอย่างผู้แพ้ เพียงแต่มันก็ยังวนเวียนอยู่แถวนั้น และมันก็กลับมาใหม่หลังจากใครคนนั้นลับสายตา
ความทรงจำลางๆจำได้เพียงว่าละแวกบ้านของผมมีสุนัขตัวหนึ่งซึ่งคลอดลูกช่วงเวลาไล่ๆกับช่วงแรกของโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า แต่ระยะทางระหว่างชีวิตของสุนัขอาจเร็วกว่าของคนนับสิบเท่า จนถึงวันนี่ที่รถไฟฟ้าสายนั้นกำลังจะตั้งเสา เหล่าลูกหมาพวกนั้นคงเติบโต รวมฝูงและออกไปใช้ชีวิตอย่างที่มันควรจะทำ
ไม่แน่ว่าหมาฝูงนั้นมันอาจวิวัฒนาการมาจากฝูงหมาป่าดุร้าย กลายมาเป็นหมาข้างถนนในป่าคอนกรีต คอยแทะเล็มของเหลือจากเหล่ากระต่ายผู้ซึ่งบริโภคเกินกว่าความต้องการของตัวเองอยู่เสมอๆ ผมไม่แน่ใจว่าหากนำผมเป็นตัวแทนของฝูงกระต่ายใส่สูทไปปล่อยป่าพร้อมกับฝูงหมาเหล่านี้ สิ่งมีชีวิตใดจะอยู่รอดได้นานกว่ากัน
แว็บแรกคำตอบของผมเป็นฝูงหมา
พร้อมกับความรู้สึกเศร้าใจข้างในลึกๆ
ผมกลับถึงบ้าน ยัดอาหารสำเร็จรูปเข้าช่องแช่แข็ง นั่งพักอยู่บนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ แม่หลับไปแล้วเรียบร้อยอย่างที่คิดไว้ ผมนึกภาพในอีกห้าปีข้างหน้า ลึกๆ ผมหวังว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะสร้างเสร็จทันกำหนด การจราจรบนถนนเส้นนี้คงคลายความแน่นขนัดลงไป
และผมได้ใช้เวลากับคนที่บ้านได้นานกว่าเดิม
อย่างน้อยก็ในแง่ของการบอกราตรีสวัสดิ์ …..
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in