*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์
หนังเรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงเพลง pale blue eyes ของ velvet underground ขึ้นมาจับใจ
ไม่มีผู้ชายคนไหนจะไม่ตกหลุมรัก summer ถ้ามี ผู้หญิงคนหนึ่งน่ารักระดับซูอี้ ดาเชนแซล แล้วมาบอกคุณว่าเธอชอบเพลงที่คุณฟังอยู่ อย่างน้อยก้มีหวั่นไหวกันบ้าง
“ความสัมพันธ์มันวุ่นวายและทำให้คนเราเสียความรู้สึก” คำพูดของซัมเมอร์ในบาร์แห่งหนึ่ง เธอบอกกับทอมเมื่อทั้งคู่แลกเปลี่ยนนิยามเรื่องความรักกัน คำพูดนี้ชัดเจนโดยตัวมันเองตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเธอไม่ได้ต้องการ อะไรที่ซีเรียส จริงจังในความสัมพันธ์ แต่ ทอมผู้ซึ่งตกหลุมรักซัมเมอร์ และยึดมั่นในรักแรกพบของเขาและความรู้สึกดีที่หลอกเขาให้หลงไปในความสัมพันธ์ที่ไร้ชื่อซึ่งนำไปสู่เรื่องราวสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้
หลังจากที่เขาและเธออกจากบาร์และได้ส่งเพื่อนขึ้นแท็กซี่จู่ๆเพื่อนที่เมาก็เกิดพูดพรวดขึ้นมาว่า “เขาชอบเธอนะ. บอกเขาไปสิทอม ” หลังจากนั้นเธอก็ถามทอมว่า จริงเหรอที่คุณชอบฉัน ถ้ามีคนแบบซัมเมอร์มาถามคุณแบบนี้ แล้วบังเอิญว่าคุณก็แอบชอบเธออยู่พอดี เป็นใครก็หวั่นไหวปะ เมื่อกี้พึ่งบอกว่าไม่อยากซีเรียสเรื่องความสัมพันธ์ แต่พอเดินออก มา นอกร้านโดนถามว่าคุณชอบเขาหรือเปล่า แต่ซัมเมอร์ก็ยากแค่เป็นเพื่อนกับเขา “เธอชอบเขาในแบบเพื่อน” และในวันต่อมา พวกเขาก็จูบกันในห้องเอกสาร แล้วความสัมพันธ์อันไร้ชื่อก็เริ่มต้น
ทอมและซัมเมอร์ต่างใช้เวลาร่วมกันไปเรื่อยๆ
“เธอชอบเขา แต่ไม่ชอบอะไรจริงจัง” คำพูดที่ค่อยบอกเป็นระยะๆจากซัมเมอร์
แต่ดูเหมือนว่าวันเวลาอันหวานชื่นและความเป็นอุดมคติของเธอทำให้ทอมหลงไปในมายาคติของเขาเองและหลงลืมความจริงข้อนี้ทำให้เขาถลำลึกไปในความเข้าใจผิด
และเรียกหาความชัดเจนมากขึ้น
จนในที่สุดความสัมพันธ์นั้นก็พังลง ในร้านแพนเค้ก พร้อมประโยคบอกท้ายสุดช้ำใจ “เรายังเป็นเพื่อนกันได้นะ ทอม ” แต่มันยังไม่จบ(สำหรับทอม)ทอมยังไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้น
ภาพฝันของเขาพังลง
“ใจนึงผมก็อยากจะลืมเธอ แต่อีกใจนึง ผมรู้ว่าเธอเป็นคนเดียวในโลก ที่จะทำให้ผมมีความสุขได้”
เมื่อวันผ่านไปเขาก็ได้พบเธออีกครั้งบนรถไฟทอมกำลังจะไปงานแต่งเพื่อนร่วมงานในตอนแรกทอมทำเป็นเหมือนไม่เห็นเธอแต่เมื่อซัมเมอร์เอ่ยปากชวนเขาไปกินกาแฟ เขาก็เดินตามไปต้อยๆ แล้วช่วงเวลาดีๆก็ เกิดขึ้นอีกหนความสุขหนึ่งเดียวที่ห่างหายไปจากชีวิตเขาจู่ๆก็มาปรากฏตัวขึ้นหล่อเลี้ยงภาพวันเก่า ๆหลอกทอมอีกหนให้กลับมามีความหวัง
แต่แล้วภาพฝันและความหวังเล็กๆในใจของเขาก็พังครืนเมื่อเขาไปปาร์ตี้ของซัมเมอร์ที่เธอชวนเขา เขากลับมามีความหวังอีกหนว่าเขาจะได้กลับไปในวันเหล่านั้นแต่เมื่อไปถึงปาร์ตี้เขาก็ได้รู้ว่าทุกอย่างได้จบลงหลังจากนั้นเขาก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อลืม ตั้งต้นชีวิตใหม่ลาออกจากงาน
ในวันหนึ่งทอมนั่งบนม้านั่งในสวนสาธารณะตัวเดียวกับที่เขาชวนซัมเมอร์มาออกเดต และเขาก็พบเธออีกหน
ซัมเมอร์ผู้ซึ่งเกลียดความสัมพันธ์ที่ผูกมัดคนที่ทำลายภาพอุดมคติความรักของเขา ได้ แต่งงาน
นั่นทำร้ายทอมตลอดช่วงเวลาที่เขาและเธอมีร่วมกันกับกลายเป็นสิ่งไม่มีค่าเพราะเขาแค่ไม่ใช่คนที่ใช่
SUMMER
I knew I could promise him I’d feel
the same way every morning. In a way that I... I never could with you. (เจอแบบนี้เป็นใครก็จุก)
ในความคิดของผมไม่ใช่ซัมเมอร์หรอกมายาคติของทอมที่มีต่อความรักต่างหากที่ทำร้ายเขาแต่ใครบ้างเล่าไม่คาดหวังในความสัมพันธ์ การใช้เวลาดีๆไปกับคนที่คุณหลงใหลเขาอย่างสุดซึ้ง อุดมคติของความรักถูกทำลายลงจากความคาดหวังและเข้าใจผิดในความสัมพันธ์ของทอมมันจึงทำร้ายเขาให้พังยับเยินจากความสัมพันธ์ที่ถูกหลอกจากมายาคติของเขาเอง แต่นั่นเป็นความผิดของทอมแต่เพียงผู้เดียวหรือ ก็ในเมื่อ เธอ ยิบหยื่นความหวังให้แก่เขา หล่อเลี้ยงอุดมคติเขาจึงทุ่มสุดตัว แต่ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ สุดท้ายแล้วทอมก็ยอมรับความจริงแล้วเดินหน้าไปต่อ ตราบใดที่ชีวิตยังคงดำเนินอยู่ ความรักจะปรากกขึ้นไม่รุ้กี่ครั้งกี่หน วันนี้รักพรุ่งนี้อาจจะไม่ บางทีเราอาจจะตกหลุมรักใครคนหนึ่งและมีเวลาดีๆด้วยกันแล้ววันหนึ่งเกิดว่ามันไม่ใช่ก็ทำได้เพียงออกมาจากความสัมพันธ์นั้น
SUMMER I know.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in