เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
เหตุแห่งโศกาJellienne
13
  • อายุ 13 ปี

    สิบสามคงเป็นช่วงอายุที่ใครหลายคนได้เติบโตแบบก้าวกระโดดมากที่สุดในชีวิต ฉันคือหนึ่งในนั้น แต่มันไวเกินไปสำหรับเด็กที่เพิ่งได้เข้าใจความจริงของโลก มันกะทันหันเกินไปสำหรับความฝันที่ค่อย ๆ สลายลง ไม่มีแม้สักเสี้ยววินาทีที่ชีวิตจะอนุญาตให้เด็กคนนั้นกลับไปเป็นเด็กน้อยคนเดิมได้อีกครั้ง ไม่มีแม้แต่ความเมตตาที่ควรมอบให้แก่เด็กหญิงที่เพิ่งทำพลาดเป็นครั้งแรก 

    ฉันคิดถึงเด็กคนนั้น

    ฉันทำพลาด

    ฉันทำพลาดที่เลือกจะยอมรับความจริง


    ทุกวันหลังเลิกเรียน ฉันมักรีบตรงกลับบ้านเพื่อเปิดยูทูปดูเรื่องราวของคนอีกฝั่งของโลกที่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ฉันหวัง ฉันได้เรียนรู้เรื่องจริงของการเติบโตหลายอย่าง สิ่งที่ต้องเสียไป สิ่งที่ได้คืนมา ในตอนนั้น ฉันคิดเพียงว่ายังไงมันก็ต้องคุ้มเสี่ยงอยู่แล้วสิ โลกไม่เคยโหดร้ายกับเราเลยนี่นา 


    ฉันคิดถูกครึ่งหนึ่ง

    ใช่แล้วล่ะประโยคที่ว่าโลกไม่โหดร้ายกับเรา แต่โลกของเราก็คือตัวเราเองนี่นา? 
    นี่ฉันพูดจาชวนงงหรือเปล่านะ

    ฉันเพิ่งได้รู้ว่าความสงบที่ฉันเคยชินคือความโดดเดี่ยว ความเปล่าเปลี่ยวที่ฉันประสบแท้จริงแล้วคือความรู้สึกอันซับซ้อนเกินกว่าจะบรรยายได้ 


    หลังจากนั้นฉันก็ไม่เคยได้พบความสงบอีกเลย


    เถาวัลย์แห่งความวุ่นวายเริ่มเลี้อยเข้าสู่โสตประสาทฉัน ความโดดเดี่ยวเริ่มเปลี่ยนเป็นโทสะ ความเปล่าเปลี่ยวกำลังพาฉันไปยังจุดที่ลึกที่สุดในใจ ที่แม้แต่ฉันเองก็ไม่อาจจะรักษาท่าทีสงบนิ่งได้ในทุกขณะนึกถึง


    เถาวัลย์พาฉันไปพบกับหลุมแห่งความทรงจำมากมายที่ฉันเคยฝังกลบดินเอาไว้ บางความทรงจำนั้น ฉันฝังมันเอาไว้ลึกจนเหมือนกับห้องขังเดี่ยวในเรือนจำ บางครั้งหลุมก็รับรู้ได้ถึงความเกลียดชังที่ฉันส่งลงไป เพราะยิ่งพยายามหนีเท่าไหร่ พยายามจะฝังความทรงจำเอาไว้ในหลุมให้ตัวฉันเองไม่สามารถนึกถึงได้อีกยังไง ฉันก็จะยิ่งถูกดึงลงไปลึกมากขึ้นเท่านั้น


    และทุกครั้งที่ใครก็ตามพยายามจะแวะเวียนมาเยี่ยมที่สุสานเถาวัลย์ของฉัน พวกเขามักเจอเพียงป้ายบอกทางหลอก ๆ ที่ฉันสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องไม่ให้พวกเขาต้องติดอยู่ในหลุมนรกนั้นเหมือนกันกับฉัน


    หรือฉันกำลังปกป้องตัวฉันเองกันแน่นะ?


    ป้ายบอกทางนั้นเต็มไปด้วยสีสันละลานตาจากชาวบ้านของเมืองแห่งศิลปะ เมืองที่อยู่คู่ตัวฉันมาอย่างเนิ่นนาน ประชาชนในเมืองนี้ล้วนแล้วแต่มีอายุมาก แม้พวกเค้าจะรู้สึกเหนื่อยล้าที่ผู้คนชอบสัญจรมาทักทายไม่ซ้ำหน้า แต่พวกเขาเองมักแสดงความต้อนรับให้เหมือนกับว่าแขกของพวกเขากำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้านของตนอย่างเสมอ ๆ ชาวบ้านทุกคนมีอัธยาศัยที่ดี ทุกคนจะเป็นมิตรกับคนที่ไม่เป็นอันตรายต่อพวกเขา และทุกคนล้วนแล้วแต่ถูกพัฒนามาจากความคลั่งไคล้ในศิลปะของฉัน


    ที่นั่นมีภาพยนต์เป็นของฝากชื่อดังประจำเมือง มีดนตรีที่เปรียบดั่งสายน้ำหล่อเลี้ยงต้นไม้ทั้งสองฝั่งของถนนสายหลัก เหล่าหนังสือที่คอยขัดเกลาทิวทัศน์ และจินตนาการซึ่งเป็นหัวใจของเมือง ฉันรักเมืองนี้มากเลย

    แต่ฉันรู้สึกเหมือนว่าเมืองของฉันกำลังถูกลืม และผุพังไปตามกาลเวลา
    พวกเขาไม่ได้ถูกปฏิบัติเป็นบ้านพักใจเหมือนเคย เถาวัลย์เริ่มเลื้อยผ่านบ้านช่องจนเกิดซากปรักหักพัง


    ฉันจำเมืองของฉันไม่ได้อีกแล้ว


    เถาวัลย์คือปรสิตร้ายที่กำลังลุกลามในจิตใจฉัน มันกัดกินทุกสิ่งอย่างจนไปพบกับหลุมอันดำมืดที่ฉันพยายามซ่อนเอาไว้ ฉันจำไม่ได้ว่ามันกินอะไรเข้าไปบ้าง บางทีฉันอาจไม่เคยรู้เลยก็ได้ และก็ไม่แน่ใจแล้วด้วยว่าฉันจะได้เศษเสี้ยวของจิตใจคืนมาไหม 

    ในหลุมนั้นมีเสียงของฉันที่สะท้อนก้องกังวานอยู่ตลอดเวลา ทุกครั้งที่ฉันพยายามรีบตะเกียดตะกายออกจากที่แห่งนั้น ฉันมักจะเผลอไปคว้าเส้นแห่งความรู้สึกที่ส่งไปยังหลุมความทรงจำอื่นเสมอ ที่นั่นฝนตกตลอดเวลา และทุกครั้งที่ฉันเผลอไปกระตุกเส้นแห่งความรู้สึกเข้า จะมีสายฟ้าฝ่าฟาดผ่านลงมาราวกับว่าตัวฉันคือสายล่อฟ้า


    ฉันเกลียดฤดูฝน 


    มันทำให้ฉันรู้สึกหนาวข้างใน ความชื้น เสียงครึกโครมที่ไร้ซึ่งความปราณี อีกทั้งความหนาวเหน็บ ฉันไม่เคยรู้สึกปลอดภัยซักครั้งในวันที่ฝนตก 


    ฉันแค่อยากให้ฝนหยุดตก

    เพราะยิ่งฝนตกเท่าไหร่ เถาวัลย์ก็ยิ่งเติบโตไวมากขึ้นเท่านั้น 



                                                                    ฉันเกลียดเถาวัลย์
                                ____________________________________________________________________









Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in