เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
ขอบ่นหน่อยนะคะmmorning
WHAT HAPPENED IN 2017 PART 1


  • คำเตือน : น่าจะยาว น่าจะหยาบ มีคำสบถเยอะน่าดูแต่ไม่ใช่คนหยาบคายเลยไม่มีอะไรนอกจากอีเหี้ยยยยยไรงี้หรอกค่ะ(มั้ง) น่าจะชวนเศร้าได้นิดหน่อย แต่น่าจะตลกด้วย เพราะเราเป็นคนตลกขบขัน

    ข้อควรระวัง : ระวังขำตอนอ่าน



    ขอข้ามช่วงต้นปีเพราะชีวิต bittersweet ขมขื่นเป็นระยะ แต่ไม่หนักไม่หนา ยังร่าเริงอยู่น่ะค่ะ ฮา

    ซึม

    มีช่วงนึงเราซึมค่ะ (ไม่ได้เปนซึมเศร้านะคะ แค่ซึมเฉยๆ) แบบตอนนั้นก็ว่าเหี้ยละอะ ตั้งแต่เดือนหก ช่วงปิดเทอมใหญ่เป็นต้นมา หน้าไดอารี่เราโล่งมากเหมือนความทรงจำขาดหาย ซึ่งกลับไปย้อนอ่านก็ไม่รู้จริงๆว่าตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่สอบเสร็จแล้วเคว้งคว้าง จู่ๆก็ไม่มั่นใจในอนาคตตัวเองขึ้นมา รู้สึกว่าอีเวร กูต้องเติบโตไปเป็นคนน่าเบื่อในสังคมจริงๆเหรอ รับไม่ได้ สัสเอ๊ย ประกอบกับหลังจากซึมแซดแต่ไม่ซึมเศร้ามาซักพักก็แบบ ต้องขายของ อะ บอกกันตรงนี้ว่าสาเหตุหลักๆของความสลดหดหู่ของกูในช่วงครึ่งปีหลังมาจากตรงนี้แหละ 555555555555555555555

    บอกเลยว่าเราเป็นสายอุดมการณ์ แต่อุดมการณ์แดกไม่ได้ อีคว้ายยยย พอรู้ตัวอีกทีก็รู้สึกว่ากลายเป็นคนทำมาหากินกับน้องไปซะแล้วอะค่ะ เราไม่ได้รู้สึกแย่จากตรงนั้นหรอกมั้ง แต่ก็นิดหน่อย เจ็บใจด้วยแหละ หลายอย่าง เหมือนตัวเองทำยังไงก็ไม่ดี ดีลกะโรงงานก็เจอแต่อะไรผีๆ เหนื่อยชิบหาย อะไรทำนองนั้น บวกกับฮือ ไม่อยากใช้คำนี้ แต่ตอนอุลโกเรากลัวตัวเองเลิกชอบน้องมากจริงๆ 555555

    (แต่ก็ค่ะ ยังชอบอยู่ เพราะยังไม่มีใครทำให้เราชอบมากกว่าน้องได้เลย)

    ซึ่งพอน้องจะมาไทย ดีใจมาก แต่เสือกมีแต่สแตนด์ เพื่อนก็ไปบัตรยืนกันหมด เหงาเลยดิ ละเราเกลียดคอนยืนอะ ช่วงนั้นมันเหี้ย เก็บไปฝันว่าน้องมาเป็นคอนยืนทั้งคอนละเราไปไม่ไหว ร้องไห้จะเป็นจะตาย เพราะจะตายในคอนแทน 5555555555555555555555555555555

    ใช้เวลาทำใจนานมากกว่าจะยอมตัดใจไปสามพันแปด อีสัส บอกแล้วว่าเป็นไทป์ T เราใช้อารมณ์ก็จริงนะ แต่พออย่างงี้อะเสือกคิดเยอะคิดมาก คำนวณละ 48 + ดวงเหี้ยๆอย่างนี้ ไม่มีวันได้สิทธิ์อะไร 55555555555555555
    (ซึ่งก็ค่ะ ไม่ได้ห่าไรเลยจริงๆดังว่า)

    อะ กลับมาที่เรื่องขายของ

    คือเราไม่ได้ไม่ชอบขายนะ เราชอบแหละ แต่แบบ มันเหนื่อยอะ เฟลอีก ท้อด้วย

    ไม่ได้สนุกเลยนะ เหนื่อยมากๆ รู้สึกแย่มากๆ ลองนึกดูว่านั่งวาดแทบตาย สุดท้ายก็ขายม่ายหมด ขาดทุน หรืออะไรทำนองนั้น มันก็น่าจะรู้สึกแย่บ้างสิ

    บวกกับเรารู้สึกว่า เห้ย ที่ทำอยู่นี่มันขัดกับแนวทางของเรามากๆเลยนะ ทำไมวะ ทำไมเรากลายเป็นคนน่าผิดหวังงี้อะ

    สุดท้ายแล้วเราก็รู้สึกเศร้าเฉยๆที่ความพยายามของเรามันน่าสิ้นหวัง ตอนนั้นคิดแล้วคิดอีก จบคอนน้อง ปิดแอคแฟนอาร์ตเลยดีมั้ย เตรียมโน๊ตไว้ยาวเหยียดว่าจะเลิกวาดละนะ ชั้นทริกเกอร์อะ สตรัคเกิ้ลแล้วก็ไม่มีแรงบันดาลใจสัสๆ demotivated สุดอะไรสุด กูแบบพร้อมไปมากๆตอนนั้น

    ถ้าใครยังจำได้หรือไม่รู้ แต่ตอนที่ทำของแจกหน้าคอน เราตั้งใจทำมากๆ กะแบบครั้งสุดท้ายแล้ว ไม่อะไรอีกแล้วนะ จบๆกันตรงนี้

    แล้วรู้ปะว่าเกิดอะไรขึ้น

    คุยกับอีคุณต่าย(โรงพิมพ์นามสมมุติ) แล้วโดนพูดจาแย่มากๆ(สำหรับชั้น)ใส่

    เขาตอบเรามาว่า “งงๆจ้า”

    แค่นี้อะ แค่นี้จริงๆ แต่เราร้องไห้อยู่ครึ่งวัน

    ความรู้สึกตอนนั้นคือ กูผิดอะไรอะ คือจะทำอะไรดีๆกับเขายังไม่ได้เลยงี้

    ไม่ไหวแล้วแบบไม่ไหวจริงๆ ตอนที่ทำก็ไม่อยากดีลเอง แต่ก็แบบ เป็นคนชวนอะ ก็ต้องเป็นคนคุย (แม้สุดท้ายจะโยนไม้ต่อให้คุณพ.นามสมมุติคุยต่อก็ตาม)

    แต่กูเกลียดเมิงค่ะอีคุณต่าย อีเหี้ย คุณต้นที่ว่าน่ามคานละยังดีกว่ามึงอะ (รักเขานะคะ แต่สุดท้ายคุณมึงก็เหี้ยกับกูอะเกน อีคว๊ายยยยยยยยยยยยย)

    ดังนั้นก็โคตรไม่อยากกลับไปทำห่าเหี้ยอะไรขายอีกแล้วค่ะ แบบจริงๆนะ โคตรไม่อยากเลยอะ ทำไมเราต้องเหนื่อยอะ worthy มั้ยก็ไม่รู้ จะมีคุณค่าอะไรกับใครหรือเปล่าก็ไม่ เออ ทำไปทำไมอะ

    เราแค่อยากเป็นคนดีๆที่ให้อะไรดีๆกับคนอื่นได้บ้างเท่านั้นเอง

    ซึ่งแม่งทำไม่ได้

    เราไม่ใช่คนวาดรูปเก่งอะ แต่เราก็ชอบงานตัวเองนะ จริงๆนะ

    ซึ่งสิ่งที่เจอช่วงนั้นมะใช่แค่แบบขายของละเฟลอะไรนักหนาหรอก เจอก็อปไอเดียด้วยนิดหน่อย

    เป็นฟีลโกรธๆ ปนแบบ น้อยใจนิดนึงแบบเอ้าอีเวน ทำไม เขาก็อปกูนะ แต่เขาทำมันออกมาได้ดีกว่า(เหรอวะ)อะ

    เป็นความรู้สึกแบบ อา อีเหี้ย ความประชานิยมแม่งหยั่งงี้ ขอโทษที่ไม่ดี ไม่ดัง ไม่ชิปคู่นั้นนะคะ สัด (เหมือนปลอบใจตัวเองแต่ก็รู้สึกแบบนั้นจริงๆ ยี๊ห้า)

    แต่ช่างมันแล้วอะ ผ่านมานานขนาดนี้ เหนื่อยจะโกรธแล้ว มีเรื่องให้คิดเยอะกว่านั้นอีก(เยอะมาก แม่ง ขอกลับไปโกรธยังจะแฮปปี้กว่า สัส5555555)

    สรุปก็คือโคตรไม่แฮปปี้ อีเหี้ย กว่าจะขุดตัวเองออกมาจากความบัดซบตอนนั้นได้ก็คือแบบหนีไปซุกบ้านเพื่อน แดกเหล้า (ใช่ค่ะ ถึงไม่เมาแต่เราก็จะคิดน้อยลง สมองฟังก์ชันได้น้อยลง ความคิดก็จะน้อยลงไปด้วย) ย้อมผมใหม่ ทำเหี้ยอะไรก็ได้ที่ต้องไม่อยู่ติดที่เดิมนานเกินสามวัน ไม่งั้นจะเป็นบ้า

    ตอนนั้นตัดหน้าม้าแล้วเต่อเหี้ยมาก ก็ตลกอะ นึกถึงที่เพื่อนเข้ามาด่าว่าหน้าม้าเหี้ยไรมึ้งงงง นี่เข้าข่ายทำร้ายตัวเองปะสัส กูก็เป็นห่วงนะแต่ขอด่าก่อน ตลกก ชอบโดนด่าค่ะ รู้สึกได้รับความรัก 5555555555555

    มีวันนึงเราโทรไปหาแม่ร้องไห้ละบอก แม่ หนูไม่ไหวแล้วอะ แต่เราตอบไม่ได้เหมือนกันว่าเป็นอะไร

    เพราะเราคิดแล้วคิดอีก เหตุผลที่เราเศร้าเราหดหู่แม่งไม่มีน้ำหนักพอจะให้รู้สึกแบบนั้นเลยอะ ชีวิตก็รวมๆละซวยมากซวยน้อย ครอบครัวก็เหี้ยนิดนึง แต่ก็ดีอยู่ดี พ่อแม่ขี้สปอย เงินก็พอมีใช้ตลอดไม่อดยาก

    แต่สุดท้ายแม่งก็ใช่ปะ คนจะเศร้า เราจะทำเหี้ยอะไรด๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยย

    อีกเรื่องก็คือเราผิดหวังกับเรื่องเรียนตัวเองนิดหน่อย (เหรอวะเอาจริงๆมันก็ดีนะ เกรดสามกว่าแบบนอนๆไปวันๆ เพราะจริงๆสมัยก่อนที่เหนเกรดไม่ดีคือไม่ส่งงาน— ปกติไม่เคยเครียดเรื่องเรียนเลยอะ ตลอดชีวิตที่เรียนมา เกรดต่ำสุดคือ 1.98 กุยังไม่เห็นเครียดเลยอะ)

    มันคงฟีลแบบ กูมาทำไรที่นี่ กูจะเอาไงกับอนาคตดี กูชอบอะไรเนี่ย ไอ่ที่เรียนมันก็ดี ละไงต่อวะ งงๆจ้า (โคฟเปนพี่ต่าย - สัส)

    อีกเรื่องที่ค่อนข้างมีอิทธิพลกับเราตอนนั้นคือคอมมู ใช่แก ใช่ ชั้นเลิกเล่นละไง แต่ตอนกำลังจะตัดใจแม่งก็ยากอยู่ดี

    ตอนนั้นรู้สึกผิดที่ไม่ค่อยตั้งใจเล่นแล้วก็แบบเฟวๆๆ ฮือ หน้าด้านอยู่มานานเกินไปแล้ว แต่เราชอบผู้คนในนั้นมากๆ ถ้าเราถอยออกมาไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเจอคนดีๆแบบนี้อีกมั้ย

    สุดท้ายก็แบบ ฮื่อ ออกมาแล้วทุกคนยังยินดีจะเวลคั่มเราก็ดีใจอะ ขอบคุณมากๆๆๆ เป็นหลายปีที่ผูกพัน ขอบคุณแล้วก็ขอบคุณมากๆจริงๆนะ

    สรุปคือก็หลายสิ่ง นานาจิตตัง แล้วก็โรงงานที่ดีลด้วยจังไรทุกโรงงาน โดยเฉพาะอีกันรังสี อีควาย กูไม่ทำแล้ว อีเหี้ย

    ถึงตรงนี้อยากขอบคุณหลายๆคนที่อยู่ด้วยตอนนั้นมากๆ ถ้าพวกเธอเศร้าเราก็จะพยายามช่วยนะ แต่เป็นคนไม่ได้เรื่องเลยอะ แม่งก็แย่

    และสาวออฟฟิศจ๋า ขอบคุณที่ชวนดึงเราจากความเศร้าตอนนั้น พอมีอะไรทำแล้วก็ฟุ้งซ่านน้อยลงจริงๆแหละ

    อนุ่ง นี่เพิ่งพาร์ท 1 ของพาร์ท 1 ยังไม่ถึง 1/10 ของความเหี้ยที่ผ่านมาเลยแก จริงๆ

    ซวย

    คนเราเวลานึกถึงคำว่าซวยมันก็ดูซอฟต์ๆปะ แบบคนเราก็ต้องมีเรื่องซวยบ้างเรื่องสองเรื่อง ขำๆแก เป็นสาวน้อยซุ่มซ่ามซวยซ้ำซวยซ้อนก็ดูน่ารัก นางเอกแจ่มใสดีอะ คิ้วว

    แต่แม่ง อีเหี้ย ขำไม่ออกอะค่ะ ซวยขนาดนี้คือควรพิจารณาตัวเองว่าชาติก่อนเผลอเหยียบตีนเทพองค์ไหนหรือเปล่า ท่านถึงจงเกลียดจงชังกูขนาดนี้ อีเหี้—

    ซึ่งเราไม่รู้จะอธิบายความซวยของเรายังไงดี เรียบเรียงไม่ถูก เยอะมากจนต้องร้องขอชีวิต

    อันที่จริงค่ะซวยจนถึงขั้นเพื่อนจาเลิกคบแล้วอีสัส มึงมันกาลกิณี!!!!

    (จริงๆก็เปนแค่มุกใช่ปะวะ นี่กุเริ่มเส้าจริงจังอีกรอบละพอคิดก้อ..)

    ตอนแรกก็แค่แบบซวยนิดซวยหน่อย ซึ่งจริงๆมันถี่ไปหน่อย เลยทำเอาอยากจะร้องไห้อยู่เหมือนกัน หลังๆก็เริ่มลามไปเจ็บตัว

    ตกจากบันได ตกหน้าต่าง ปางตายอีสัส ซึ่งเนี่ยค่ะ คนซวยที่แท้จริงเค้าจะไม่ตาย เค้าจะเกือบตายแต่ไม่ตาย โลจิกนี้ทำให้เรายังอยู่ต่อไปโดยไม่คิดจะฆ่าตัวตาย เพราะกลัวไม่ตายนั่นเอง (...)

    แต่วันนั้นแบบ ห่าเอ๊ย ตกมาจากหน้าต่างเสร็จลงไปกองกับพื้น ร้องไห้ให้หมาเลียหน้า สัส 55555555555555

    ซึ่งถ้าความซวยของเรามันวนเวียนอยู่แค่กับเราก็ยังดีกว่าลามไปคนอื่นน่ะนะ ชั้นเหนื่อยกับความกาลกิณีของตัวเองเหลือเกินค่ะ

    จริงๆความซวยแม่งต่อเนื่องมาจากความซึม และเราจะจบที่ความแซดค่ะ

    พอเปิดเทอมก็เป็นฟีลอะอีเหี้ย ไม่มีเวลาสำหรับความซึมของมึงแล้วจ้าาา เอ้าาา เรียนอีดอกเรียนนนนนนนนนน

    ซึ่งจริงๆก็เกเรมากเลยเทอมนี้ โดดเป็นว่าเล่น เกรดจะเป็นไงก็ไม่รู้ แต่คิดว่าก็น่าจะเก็บนกเหมือนเดิมแหละ (เจือน)

    มันเคว้งคว้างจริงๆค่ะ อยากดรอปมาก อยากลาออก แต่ก็ไม่ค้นพบว่าการเรียนมันเหนื่อยตรงไหน แค่ไม่อยากเรียนอะ เหนื่อย เหนื่อยเดินทาง เหนื่อยกับการใช้ชีวิต ไม่ค้นพบว่าจะเกิดประโยชน์อะไรจากสิ่งนี้ เลยอยากเลิกๆไปซะ

    แบบเราคิดจริงๆนะว่าถ้าต้องตื่นเช้าแบบนี้ เดินทางขนาดนี้ เราต้องตายก่อน 53 แน่ๆเลยอะ เรามีเป้าหมายว่าจะเลี้ยงแมวตอนอายุ 53 ถ้าตายก่อนก็แย่สิ อ.ถามว่าทำไมถึงอยากเลี้ยงตอน 53 แมวเลี้ยงตอนไหนก็ได้มั้ยเธอ

    แต่เราคิดมาละอะว่าจะเลี้ยงตอนนั้น น่าจะเริ่มแก่ๆละ เลี้ยงหมาคงไม่ไหว แมวละกัน บวกกับมันก็เป็นชีวิตที่ยืนยาวอยู่นะ เริ่มเลี้ยงตอน 53 อะ คิดเป็นเป้าหมายระยะยาว จะได้ไม่อยากรีบตายไวๆ

    ถึงในใจจะอยากลดมาเหลือซัก 23 35 ไรงี้ละก็ตาม แต่จะอดทนนะ เผื่อในอนาคตแม่งจะมีอะไรดีๆรออยู่ 5555555

    เออ พูดถึงอายุ มีเรื่องตลกจะเล่า นี่บอกแม่ว่าจะไปตรวจฟันยิกๆมาสามปีละ เพิ่งได้ไปปีนี้ ซึ่ง 20 แล้ว เบิกไม่ได้ละ ยิ้มแห้งเลยกู

    ค่าหมอแพงน่าดู แถมเนี่ย สองข้าง อย่างละซี่ ถอนอีกสองซี่บน วู้ว ซึ่งแค่คิดว่าต้องผ่าก็เศร้าแล้วอะ ผ่า29 aka ตอนลงก็คือวันนี้แล้วอิเหี้ยยยยยยย เอาให้ตายกันไปข้าง อีเหี้ย (เข้าใจฟีลคนไม่ค่อยเจ็บค่อยปวดฟันปะ แบบไม่ได้เป็นเหี้ยไรเลยอะ แต่หมอบอกเอาออกเถอะค่ะ ก็ค่ะะะะะะะะะะะะ ก็ด้าย แงงงงงงง ทำไมกุต้องเอาตัวไปขึ้นเขียงแล้วกลายร่างเป็นคนพิการด้วยวะ กุไม่เก้ตพ้อย แง มั่ยโอเค มากๆ ‪ಥ_ಥ‬ )

    ตอนนี้เลยเปนพาร์ท 1 เพราะ 2017 ยังไม่จบ ยัง ยังน่าจะชิบหายได้มากกว่านี้อีก ไม่รู้จะคาดหวังอะไรแร้วแก

    แซด

    ความเศร้าที่มาจากสิ่งที่อยู่เหนือความควบคุมนี่เหี้ยสุดแล้วแก

    เช่น ความเจ็บไข้ อะไรตั่งต่างงงงงงงงง

    คือเมื่อเดือนที่แล้วคุณปู่เราป่วยค่ะ ไอ้ความซวยทั้งหมดที่ผ่านมาตลอดปีนี้นี่เรายอมซวยต่ออีกปีเพื่อให้เขาหายเลย

    ก็ไม่อยากตั้งความหวังไว้สูงมาก เพราะว่ามันก็ยาก

    เอาเป็นว่ามันก็เกินจะรับมือจริงๆ 55555555555

    เอาเป็นว่าปู่เราที่ผ่านมาแข็งแรงมากๆ และเราก็เห็นเขายืนอยู่ตรงนี้ตลอด เราเลยไม่ค่อยห่วงอะไร

    เจ็บใจเหี้ยๆก็ตรงนี้ เพราะเราก็กล้าพูดเหมือนกันว่าเรารักเขามากๆๆๆๆ มากที่สุดเท่าที่หลานสาวคนนึง(และคนเดียว หนึ่งเดียวของหลานสายตรง)จะให้ได้ละอะ

    แม่ง เกิดมา 20 ปี 20 ปีก็คือทั้งชีวิตอะค่ะ ไม่เคยโดนปู่ตะคอกหรือด่าเลยนะ อภิสิทธิ์ของหลานรักค่ะ รักมาก เพราะมีคนเดียว ไม่รักเราจะรักใคร แค่ก

    แต่ตอนเค้าเข้ารพ.อะ มันก็มีบางช่วงที่เขาจำเราได้บ้างไม่ได้บ้าง เขาก็ตะคอกใส่ ทำหน้าบึ้งใส่ เราป้อนข้าวเขาก็บอก ไม่เอาแล้วโว้ย ไม่เอาแล้วโว้ย ไปซะ

    แม่ง กูร้องไห้เลย

    คิดถึงตอนนี้ก็ยังจะร้องไห้อยู่แต่แบบ

    ถ้าตอนนี้ปู่ตื่นมาด่าเราก็ยอมนะ เคโอเคโอ 5555555

    จริงๆอีกรอบที่ทำร้องไห้มันเดี๋ยวนั้นเลยคือตอนเขาถามเราว่าเนี่ย ทำไมไม่ช่วยปู่ ฮือ เราจะทำอะไรได้บ้างมั้ยนะ ตอนนั้นหัวแม่งโล่งไปหมด

    เขาบอกเขาทรมาน เราก็ทำเหี้ยไรไม่ได้ซักอย่าง

    เหี้ยมาก เหี้ยโคตร กูเกลียดตัวเองที่สุดเลยวันนั้น

    สำหรับเราอะ โลกใบนี้แม่งไม่ได้มีแค่เขาหรอก แต่สำหรับเขาล่ะ สำหรับปู่อะ เราแม่งก็แทบจะเป็นโลกทั้งใบของเขานั่นแหละ

    เขารักเรามากๆๆๆๆ เรารู้ แล้วเราก็รักเขามากเหมือนกัน

    ซึ่งเราพิมไปร้องไห้ไปเลยคิดว่าตัดจบดีกว่า 5555555

    จนถึงตอนนี้ก็เดือนกว่าแล้ว เราก็พอทำใจได้หลายอย่างแล้ว แต่ตอนเข้าไปเห็นเขาโดนโกนผมก็สะอึกอยู่ดีอะ แบบ สัส คุณพยาบาลต้องไม่รู้แน่ๆว่าปู่หวงผมมาก ย้อมบ่อยๆ ไม่เคยปล่อยให้ผมเทา ผมหงอก ฮื่อออออ แล้วดูตอนนี้ซิ ใจนี่ก็อยากจะสกินเฮดเป็นเพื่อนปู่มั่ง ติดตรงหัวไม่สวยเนี่ย แง 5555

    แต่ก็นะ ที่ทำใจได้มาเยอะแล้วก็เพราะหมอฟันธงมาละว่าอะ ทำไรต่อร่างดายจะไม่ไหวเอา งั้นจะไม่ยื้อนะถ้าจะเกิดอะไรขึ้น เอาให้บั้นปลายเขาแฮปปี้ที่สุดก็พอ

    จุกชิบหายเลยค่ะ

    สิ่งที่เราคิดไว้แม่งไม่ใช่อย่างงี้เลย

    เราคิดมาตลอดว่าแบบ เราอยู่บนโลกนี้โดยที่ไม่มีใครก็ได้

    ยกเว้นเขาจริงๆ หรืออย่างน้อย ถ้าใครจะต้องจากเราไป มันก็ไม่ควรเป็นเขาคนแรกจริงๆ

    แบบ คิดแล้วว่าอยากใส่ชุดรับปริญญาถ่ายรูปกับปู่ อยากกอดแล้วก็กอด เนี่ย คิดภาพละน่ารักสัสๆ กูต้องได้ถ่ายดิ

    ปู่เราเป็นอัลไซเมอร์ หูก็ไม่ได้ยิน แต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เขาจำไม่ได้ว่าเราเรียนอยู่ปีไหน เขายังเพิ่งบอกอยู่เลยว่าเดี๋ยวก็จบแล้วสิ เก่งๆ

    ก็เออ เนี่ย หลานสาวคนเก่งของปู่จะเรียนจบละเนี่ยอีกแป๊บบบบบบบเดียวเอง

    แต่แป๊บเดียวแม่งนานชิบหาย

    อยู่กับหนูไปนานๆๆๆๆๆก่อนนะ

    ถ้าหายได้ก็จะดีมากๆๆ เพี้ยงๆๆ เราทำใจได้ แต่ไม่ใช่ว่าโอย คร่ำครวญ สิ้นหวังขนาดนั้น อีสัส คนเราต้องมูฟออน

    และถ้ามันยื้อได้อีกก็จะแกล้งเรียนไม่จบซักที ต่อแม่งจนปริญญาเอก 55555555

    สุดท้ายคือ อีสะไม่ไหวแล้ว ปีนี้แม่งเศร้าเกินไป แต่เรามาปิดท้ายด้วยคำคมเกร๋ๆกันคร่ะ

    เราท้อแท้ชิบหาย อยากตายก็หลายรอบ แต่พอคิดว่า แม่ง คนที่อยากอยู่ก็ดันต้องตาย แล้วเราที่ไม่ตายทำไมถึงจะต้องอยากตายวะ ชีวิตแม่งไม่ยุติธรรมกับคนพวกนั้นเลยเนอะ ก็เลยอยากจะใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ พยายามกับโลกนี้หน่อย ในเมื่อมันเหี้ยนัก ก็คงต้องอยู่แบบเหี้ยๆกันไป เผื่อคนที่อยากอยู่แต่ไม่ได้อยู่ด้วย

    จนถึงตอนนี้เราก็ยังคิดว่าชีวิตมันสวยงามไม่ลง มีแต่อะไรเหี้ยๆ มันจะไปเอาอะไรมาสวยงามวะ แม่มึง

    แต่ไอ้ที่ไม่สวยงามมันก็มีอะไรดีๆอยู่บ้างแหละ อย่างน้อยก็ผู้คน บนโลกนี้อาจจะมีคนเหี้ยเยอะ แต่ก็มีคนดีๆเยอะเหมือนกัน

    บนโลกนี้ไม่ได้มีแค่เราที่กำลังเศร้า หรือไม่ได้มีแต่คนที่กำลังสุข ต่อให้ตอนนี้เราเศร้าเหี้ยๆ ในขณะเดียวกันมันก็ต้องมีคนมีความสุขอยู่ที่ไหนซักที่ แล้วก็มีคนที่เศร้าเหมือนกันด้วย

    ส่วนไอ้ตอนที่เรากำลังมีความสุขก็คงมีคนทุกข์อยู่เป็นธรรมดา

    ความเศร้าของแต่ละคนมันก็ไม่เท่ากันด้วย สาเหตุที่คุณว่าจิ๊บจ๊อย บางทีมันก็ไม่น้อยสำหรับใครๆ

    บางทีเราก็เอ๊....เราทำไมต้องเศร้ากับเรื่องแค่นี้นะ แต่สุดท้ายก็ อืม มันก็ช่วยไม่ได้อ่านะ

    จะอกหัก จะโดนเท จะซื้อของไม่ทัน หรือมื้อกลางวันไม่อร่อยมันก็เศร้าได้ทั้งนั้นอะ!!!

    คือชีวิตมันก็หยั่งงี้แหละแกร สุดท้ายแล้วพระพุทธเจ้าแสวงหาอะไรล่ะ หนทางดับทุกข์ไง!! (ซึ่งใช่ค่า ไม่มีหนทางนั้น มีแต่ปลงอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา!!!)

    ซึ่งมันไม่มีก็ต้องอยู่กันไป ใช้ชีวิตร่วมกับความเศร้าให้เหมือนสิว เดี๋ยวมันก็หาย! ไม่หายก็ทายา! อย่าปล่อยให้มันอักเสบน่ากัว วววว

    สุดท้ายยยยยยยย จริงๆละ จริงๆแล้วที่เวิ่นเว้อมายาวเหยียดนี่ก็แค่บ่นนี่หว่า ใช่ค่ะ ปากดีขี้เหงาเอาแต่บ่นคือคนอย่างกูเอง

    และ!!!! ผ่าฟันคุดเฟิสไทม์ส่งท้ายสิ้นปี 2017 เป็นกำลังใจให้น้องด้วยนะคะ!!! ชิเมตังโป้ง!!!! (เหนเค้าเล่นกันมาเปงปียังไม่รุ้ที่มาเลยเอาจริง)

    ปล. ฉัน และ ฉิบหาย สะกดให้ถูกแบบนี้นะคะ รู้ค่ะ แต่ชั้นว่ามันไม่ได้อรรถรสค่ะอีชิบหายยยยย!!!

    ปลล. สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุข ตอนนี้มันยังเศร้า แต่สุดท้ายแล้วมันก็ต้องหายเศร้าบ้างแหละแก เชื่อเถอะ ถึงชั้นเองจะไม่ค่อยเชื่อก็ตาม 55555555

    ปลลล. หวังว่าพาร์ท 2 จะสั้นกว่านี้ เหี้ยน้อยกว่านี้ ความเหี้ยจงหายไป เพี้ยง!














เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in