โอเค
เลิกชิปก่อน เข้าเรื่องดีกว่า เล่มนี้คือคดีสุดท้ายของนักสืบอาเคจิค่ะ เป็นการเผชิญหน้ากับอาชญากรใต้ดินตัวฉกาจสองรายแบบที่วายร้ายมีทั้งอิทธิพล คอนเนคชั่น และอำนาจเงิน
เล่มนี้แม้นักสืบอาเคจิของเราจะซีนจางมากๆ ชนิดที่ว่าออกมาในครึ่งหลังของเล่มและโดนตัวร้ายกลบเกือบมิด อ่านจะจบแล้วยังหาอาเคจิไม่เจอ คุณพี่พ่อพระเอกของหนูอยู่ไหนค้า ถึงกับนึกไปว่า หรือบุรุษเร้นเงาคืออาเคจิวะ เพราะเขาดูเท่เหมือนกัน 55555
การเล่าเรื่องมีความแผนของพี่คือทำให้เธองง เปิดตัวด้วยวีรกรรมรีดไถเงินคนรวยอันแสนขี้โกงของบุรุษเร้นเงาพันหน้า ผู้รับบทเป็นทั้งนักเขียนนิยาย นักธุรกิจ เจ้าของอสังหาและมิจฉาชีพ ที่หาเงินโดยการขโมยความลับที่แพร่งพรายไม่ได้ของคนใหญ่คนโต ไม่ว่าจะเป็นรสนิยมวิตถารของเศรษฐี สมาคมลับของคุณหญิงคุณนาย ที่แม้บุรุษเร้นเงาจะเป็นตัวร้ายเจ้าพ่อแบล็คเมล แต่เขาก็ร้ายแบบมีชั้นเชิง ร้ายไม่สุด ร้ายแบบสีเทา ร้ายแบบมนุษย์ที่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่ จุดนี้ทำให้รู้สึกว่าถึงเขาจะเป็น villain ที่ตอนแรกคิดไปว่า หรือนี่คืออีกโฉมหน้าของอาเคจิวะ 5555 แต่เขาก็เท่มากจริงๆ
อัตชีวประวัติของบุรุษเร้นเงาอันสนุกสนานยังคงดำเนินต่อไปเกือบจะจบเล่ม จนเราเดาทางไม่ถูกว่าปู่แกจะแบ่งบทให้อาเคจิตอนไหน 5555 เรารู้สึกว่าเล่มนี้ปู่มีความตามใจฉันมาก อยากเขียนไรเขียน นึกอะไรได้ใส่ลงไปให้หมด ชนิดไม่ต้องสนแกนเรื่องสักเท่าไหร่ แต่เป็นการถักทอเอาความฟุ้งฝันในหัวมาร้อยเรียงให้เป็นตัวอักษรมากกว่า
ดังนั้น การจะอ่านเรื่องนี้ ขอให้ทุกคน ปิด PC (Political Correctness) แล้วโยนตรรกะทุกอย่างทิ้งไปให้หมด พื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่สำหรับคนที่ต้องการคุณธรรมจรรโลงสังคม แต่เป็นเพียงการปลดเปลื้องทางอารมณ์จากซอกหลืบเล็กๆ ของมุมมืดในจิตใจมนุษย์ที่มิอาจไปกระทำกับมนุษย์ตนใดได้ และจินตนาการอันไร้ขอบเขตจากอาชญนิยายแนว Ero Guro Nonsense ที่เคยเฟื่องฟูมากๆ ในยุคที่ผู้คนต้องการความบันเทิงที่ไร้ศีลธรรมและตรรรกะ เนื่องจากต้องเผชิญกับความสูญเสียจากภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ (Great Kanto Earthquake) สิ้นหวัง เศรษฐกิจตกต่ำ ภาวะการเมืองที่ไม่เสถียรไปจนถึงสงคราม
ซึ่งก็ต้องบอกว่าสนุกมากๆ ค่ะ สนุกตั้งแต่หน้าแรกยันหน้าสุดท้าย เพราะมันมีความเซอร์เรียลมาก เหมือนนั่งดูหนัง Cult เราอ่านรวดเดียวชนิดที่ไม่หยุดพักเลย Creativity สูง Initiation สูง สร้างสรรค์ความบันเทิงแบบไปสุด ปู่รัมโปละเลงจินตนาการลงไปแบบล้อฟรี ชนิดที่ว่าอ่านแล้วตาค้างและรู้สึกทึ่งมากๆ ที่ในยุคนั้นปู่แกไปเอาความคิดล้ำยุคแบบนี้มาจากไหน และสามารถกลั่นกรองไอเดียบรรเจิดและล้ำลึกขนาดนี้ได้ไง
ไฮท์ไลท์ของเรื่องก็คงหนีไม่พ้นกับฉากบรรยายความอัศจรรย์พันลึกของสถานเริงรมย์ในมหาสมุทรใต้ดินและดอกไม้ยักษ์ใต้บาดาล ที่เต็มไปด้วยจินตนาการอันแปลกประหลาดและบิดบี้ยวของ male gaze (5555) ดูจะสวยงามแต่ก็น่าขนลุกด้วยองค์ประกอบของผู้หญิง เลือด และ Repitation (ตรงนี้ทำให้นึกถึงงานของจุนจิ อิโตะและป้าคุซามะ ยาโยยเบาๆ)
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in