เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Nerdหนังferdennn
Eternal Sunshine Of The Spotless Mind (2004)
  • "ลบเธอให้ไม่ลืม" คือชื่อภาษาไทยของหนังเรื่องนี้ 
    หนังที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ที่มีรัก แต่ไม่ได้เต็มไปด้วยความสุขสมหวังตามที่คาดหวังไว้



    เชื่อว่าใครหลายคนคงเคยมีประสบการณ์ความรักที่อยากจะลืมๆมันไปเพียงเพราะปลายทางไม่จบลงอย่างสวยงามตามที่หวังไว้ ตัวละครในเรื่องนี้ก็เช่นกัน

    เรื่องราวของ โจล และ คลีเมนไธน์ ที่พยายามลบความทรงจำที่ตัวเองมีต่ออีกคนหลังเลิกรากันไป 
    แต่เมื่อไปถึงจุดหนึ่ง โจลกลับตระหนักได้ว่าตัวเขาไม่อยากลบเธอให้หายไปแล้ว นั่นคงเป็นเพราะ
    ก่อนหน้านี้ ด้วยความโกรธ เสียใจ และผิดหวังที่เป็นฝ่ายถูกลบออกไปก่อน(อาจหมายถึงการที่เป็นฝ่ายโดนบอกเลิก) ทำให้ตัดสินใจจะลบอีกคนให้หายไป จนไม่ได้สนใจความทรงจำระหว่างทางที่มีร่วมกันมาว่ามันดีและพิเศษมากแค่ไหน

    หลังจากที่พยายามหลบหนีกระบวนการลบความทรงจำด้วยสาระพัดวิธี สุดท้ายแล้วโจลก็ต้องยอมรับผลของการกระทำที่เขาได้เลือกไป เขาตื่นขึ้นมาและจำคลีเมนไธน์ไม่ได้อีกต่อไป เขาตื่นขึ้นมาและใช้ชีวิตตามปกติ แต่สิ่งที่ผิดแปลกไปคือเช้าวันนั้นเขาเลือกที่จะโดดงาน และได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกคุ้นเคย และตกหลุมรักเธอเข้าอย่างง่ายดายอีกครั้งหนึ่ง


    หนังใช้วิธีการเล่าแบบย้อนไปยังจุดเริ่มต้นทำให้รู้สึกน่าติดตามมากว่ามันจะไปจบลงตรงไหน และเมื่อไปถึงจุดนั้นก็ทำให้เรารู้สึกประทับใจกับสิ่งที่หนังอยากจะสื่อมากๆ
    ตัวหนังทำให้เรารู้ว่าการลืมไม่ใช่ทางออก และเป็นความจริงที่ว่า เรื่องราวระหว่างทางนั้นสำคัญกว่าปลายทางที่เป็นจุดจบ

    อีกความน่าสนใจคือหนังใช้สีผมของคลีเมนไธน์เข้ามาช่วยในการเล่าเรื่องให้ผู้ชมสามารถเรียงไทม์ไลน์ได้อย่างง่ายแต่ก็แอบแฝงความหมายบางอย่างไว้ในสีผมนั้น ในแต่ละช่วงเวลามีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย 
    มีช่วงเวลาที่โจลและคลีเมนไธน์รักกันมาก มีช่วงเวลาที่ไม่เข้าใจกัน ในเรื่องเราจะเห็นเธอย้อมผมทั้งหมด 4 สี ซึ่งเปรียบเสมือนฤดูต่างๆที่วนเวียนไป เหมือนเป็นการสื่อว่าในความสัมพันธ์มักจะมีเรื่องต่างๆหมุนเวียนเข้ามาอย่างไม่จบสิ้นเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ที่ว่าจะเลือกจัดการกับมันยังไง

    และต่อให้จะพยายามลบอีกฝ่ายออกไปยังไงก็ทำได้แค่ลบเรื่องราวที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่ความเป็นตัวตนและความรู้สึกที่มีต่อคนๆนั้นไม่สามารถถูกลบไปได้เลย

    ทางออกที่ดีที่สุดคือการยอมรับในข้อผิดพลาดและความไม่สมบูรณ์แบบของอีกฝ่าย และลบภาพความคาดหวังที่มีต่ออีกฝ่ายทิ้งไปซะ


    "หากจะยังรักก็จงรักในความไม่สมบูรณ์แบบและรักแบบไม่คาดหวัง"
    "หากจะปล่อยให้ความสัมพันธ์จบลงก็จงกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความทรงจำและอยู่ร่วมกับมันให้ได้"



Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in