เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
Me with my pillowartroom11_
•• คู่หูแมวกับหนู •• (ชุด นิทานประจำบ้าน)
  • "

     อย่าได้เล่นเกม 

    แมวจับหนู

    ถ้าหากคุณ เล่นเป็น 

    หนู 

    "

    •• Don Addis ••

    (c) whisperingbooks.com

                     กาลครั้งหนึ่ง มีแมวที่เป็นเพื่อนรักกับหนู มันได้แบ่งปันความรักต่อสหายอย่างแน่นแฟ้น จนเจ้าหนูได้มีความคิดอยากจะสร้างบ้านอยู่ด้วยกันกับคู่หู

                    “แต่เราต้องเตรียมหาอาหารให้ทันช่วงหน้าหนาวนี้ ไม่อย่างนั้นเราอาจอดตายได้” แมวว่า “และแก หนูตัวจิ๋ว จะเที่ยวเดินไปทั่วไม่ได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะโดนกับดักของมนุษย์เข้า” 

                    ทั้งสองทำตามกฎ ไขมันหนึ่งหม้อถูกตุนไว้เป็นอาหาร แต่พวกมันไม่รู้ว่าจะเอาเก็บไว้ที่ไหน หลังจากใช้ความคิดแล้ว แมวก็ว่า

                    “ฉันรู้แล้ว ไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยได้เท่าในโบสถ์ คนอื่นจะได้ไม่กล้าเอาไปได้ เราจะเอาเก็บไว้ใต้แท่นบูชา และจะไม่แตะต้องมันเด็ดขาด จนกว่าจะถึงเวลาจำเป็นจริงๆ”

                     และแล้วหม้อใบนั้นก็ถูกเก็บในที่ปลอดภัย แต่มันก็เก็บได้ไม่นานเพราะความหิวโหยเกินรับไหวของเจ้าแมว มันบอกหนูว่า

    (c) booksfortheyoungatheart.wordpress.com

                     “ฉันอยากบอกอะไรบางอย่างกับแก เจ้าหนูตัวน้อย ลูกของลูกพี่ลูกน้องฉันเพิ่งคลอด และขอร้องให้ฉันไปเป็นแม่ทูนหัวให้ ตัวของเด็กน้อยเป็นลายขาวและมีจุดดำฉันต้องไปร่วมพิธีล้างบาปกับพวกเขา ให้ฉันได้ออกไปข้างนอกวันนี้นะ ส่วนแกก็ช่วยอยู่เฝ้าบ้าน”

                    “ได้สิ ได้สิ” หนูตอบรับ “ไม่มีปัญหา แล้วถ้าแกเจออะไรดีๆ ก็นึกถึงฉันบ้างนะ ฉันอยากได้ไวน์แดงล้างบาปสักหยด”

                    ทั้งหมดที่แมวพูดไปล้วนโกหก มันไม่มีแม้แต่ลูกพี่ลูกน้องและไม่เคยถูกขอให้เป็นแม่ทูนหัวให้กับทารกตัวไหน เจ้าแมวตรงไปยังโบสถ์ ขโมยเอาไขมันหม้อใหญ่  แล้วเริ่มเลียกินด้านบนอย่างเอร็ดอร่อย จากนั้นมันก็ไต่ขึ้นไปบนหลังคาของชุมชนแถวนั้น ยืดตัวบิดขี้เกียจอาบแสงอาทิตย์พลางเลียริมฝีปากทุกครั้งที่นึกถึงไขมันหม้อที่กินไป จนกระทั่งตกเย็นมันก็กลับบ้าน

                    “แกกลับมาแล้ว” หนูร้องทัก “ไม่แปลกใจเลยที่แกดูอารมณ์ดีนัก”

                    “ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี” แมวพูด

                    “พวกเขาตั้งชื่อหนูน้อยว่าอะไรล่ะ?”

                    “ด้านบน!”

                    “ด้านบน!” หนูร้อง “เป็นชื่อที่แปลกและพิลึกมากเลย แมวน้อยตัวนั้นแตกต่างจากตัวอื่นในครอบครัวมากเลยหรือ?”

                    “ก็ทำนองนั้นล่ะนะ” แมวตอบ “อย่างน้อยก็ดูดีกว่าชื่อ หัวขโมยเศษขนมปัง ของลูกบุญธรรมแกล่ะน่า”  

                    ไม่นานเจ้าแมวก็เกิดความโลภอีก มันบอกหนูเพื่อนรักว่า

                    “แกต้องช่วยฉันอีกครั้งนะ ช่วยเฝ้าบ้านให้หน่อย ฉันถูกขอไปเป็นแม่ทูนหัวอีกแล้ว คราวนี้ไปร่วมมอบปลอกคอขาวให้เด็กทารกซึ่งฉันปฏิเสธไม่ได้” เจ้าหนูสหายที่แสนดีก็ยินยอมตามนั้น

                    ทว่าเจ้าแมวข้ามกำแพงเมืองตรงไปยังโบสถ์ ก่อนจะลงมือสวาปามไขมันไปครึ่งหม้ออย่างเอร็ดอร่อย

    (c) estherc.com

                    “ไม่มีอะไรอร่อยไปกว่าของที่เก็บไว้กินเองอีกแล้ว” มันว่าด้วยความอิ่มเอมใจไปตลอดทั้งวัน และพอมันกลับไปถึงบ้าน เจ้าหนูก็ถามว่า

                    “ครั้งนี้เด็กชื่ออะไรหรือ?”

                    “ครึ่งหนึ่ง” เจ้าแมวตอบ

                    “ครึ่งหนึ่ง! แกว่าอะไรนะ? ฉันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลยในชีวิต ฉันพนันได้ว่ามันไม่มีอยู่ในบัญชีรายชื่อใดๆ แน่ๆ”

                    เจ้าแมวเริ่มน้ำลายไหลด้วยความหิวอีกครั้ง

                    “เรื่องดีๆ มักเกิดขึ้นกับอะไรที่เป็นสามครั้ง” มันพูด “ฉันถูกขอไปเป็นแม่ทูนหัวอีกแล้ว เด็กทารกตัวนี้ขนค่อนข้างดำ อุ้งเท้าเป็นสีขาว แต่ติดตรงที่ว่า ครั้งนี้ไม่ใช่แมวขนสีขาวที่มีแค่ตัวเดียวเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นทุกๆ สองถึงสามปี แกจะให้ฉันไป ใช่หรือเปล่า?”

                    “เจ้าหมด! เจ้าครึ่งหนึ่ง!” หนูตอบกลับ ”ชื่อพวกนี้ประหลาดนัก มันทำให้ฉันต้องคิดหนัก”

                    “แกก็อยู่ที่บ้านนี่แหละ” แมวพูด “มีขนเทาเข้มกับหางยาวๆ หุ้มตัวเอาไว้ แต่งเติมสีสันเอาเต็มที่ นั่นก็เพราะแกไม่ควรออกไปข้างนอกตอนกลางวัน”

                     ในระหว่างที่เจ้าแมวไม่อยู่ เจ้าหนูก็ทำความสะอาดและจัดแจงบ้านให้เป็นระเบียบ ขณะเดียวกันด้านเจ้าแมวโลภมากก็จัดการกับไขมันหม้อใหญ่

                     “พอเราได้กินอะไรแล้ว มันก็สุขใจ” แมวพูดกับตัวเอง มันกินอิ่มจนหนำใจ พุงป่องอ้วนพี และกว่าจะกลับบ้านก็ค่ำมืดแล้ว เจ้าหนูเอ่ยถามถึงชื่อของเด็กทารกตัวที่สามอีก

                     "มันก็เป็นชื่อที่ทำให้แกรู้สึกประหลาดใจไม่ต่างจากตัวอื่นนั่นล่ะ”แมวเปรย “เจ้าเด็กน้อยชื่อว่า หมดแล้ว”

                     “หมดแล้ว!” หนูร้องขึ้น “นั่นเป็นชื่อที่พิกลที่สุดในนั้นแล้ว! ฉันไม่เคยเห็นชื่อนี้ในหน้ากระดาษที่ไหนเลย นี่จะหมายความว่าอะไรหรือ? ” มันว่าแล้วก็ส่ายหัวไปมา ก่อนจะขดตัวนอนหลับ

                     หลังจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวว่าจะมีใครมาขอให้เจ้าแมวไปเป็นแม่ทูนหัวอีก ทว่ายามฤดูหนาวมาถึง ด้านนอกก็ไม่มีอะไรให้ประทังได้อีกแล้วเจ้าหนูจึงนึกถึงอาหารที่ตุนเอาไว้ แล้วว่า

                     “มาเถอะเจ้าแมว เราไปเอาหม้อไขมันที่ซ่อนเอาไว้มากินกัน ต้องอร่อยแน่”

                     “ได้” แมวตอบ “แกจะได้มีความสุขไปกับอาหารอันโอชะนั้นหาที่สุดไม่ได้เลย”

                     หนูและแมวพากันไปยังที่เก็บอาหาร ครั้นพอไปถึง หม้อไขมันก็วางตั้งอยู่ที่เดิม แต่ด้านในกลับว่างเปล่า

                     “พิโธ่!” หนูร้องขึ้น “ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันตาสว่าง และรู้ว่าแกกินไปหมดเลย ตลอดเวลาที่แกอ้างว่าไปเป็นแม่ทูนหัว...”

                     “แกจะหุบปากได้หรือยัง” แมวเอ็ด “มีอีกคำที่อยากจะพูด และฉันก็จะกินแกซะ”

                     “หมดแล้ว” ถูกเอ่ยขึ้นจากปากของหนูผู้น่าสงสาร

                     ไม่ทันขาดคำ เจ้าแมวก็ตะครุบเจ้าหนู และกลืนมันลงท้องไปอย่างง่ายดาย

                     เป็นเช่นนั้นแล มันคือความเป็นไปของโลก ความจริงที่ไม่อาจบิดเบือนได้

    **| แม่ทูนหัว คือ บุคคลผู้ที่รับศีลให้กับลูกคนอื่นในศาสนาคริสต์ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ อาทิ พ่อและแม่ของเด็กคนนั้นเสียชีวิต ผู้ที่จะรับเลี้ยงดูเด็กต่อไปคือพ่อและแม่ทูนหัว |

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in