Chapter 2
Title: As a matter of fact, He’s not prideful guy
Pairing: EXO
Rated: PG
Genre: Romantic
Hastag: #FicYoureallisee
Written By NUYNYALONERS
To.D
My Dear
I love that feeling I get when I see your smile.
From. K
“เฮ้! คุณ”
ชายผู้มีใบหน้าคมคายยกมือขึ้นเพื่อดีดนิ้วเรียวยาวเป็นจังหวะเสียง 2 ครั้งเพื่อเรียกให้คนตรงหน้าหลุดจากห้วงแห่งภวังค์
ไม่ใช่ว่าที่คยองซูเหม่อลอยไม่พูดไม่จาราวกับว่าสติได้หลุดเข้าไปอยู่อีกมิตินึงนั้นจะมีความหมายว่าชายเจ้าของผิวสีแทนเข้มสวยจะดูดีชวนตกตะลึง แต่หมายความว่า เงิน3000วอนที่เขาเพิ่งเสียไปเขายังไม่ได้ใช้ให้คุ้มกับมูลค่าของมันเลย
เปาะ!
ชายเจ้าของเรือนร่างที่ดูดีราวกับเทพเจ้าปั้นดีดนิ้วอีก 1 ครั้งเพื่อจุดประสงค์เดิม คราวนี้ได้ผลเพราะ คยองซูเบิกตาเหลือกกว้างก่อนที่จะเปลี่ยนมาจ้องเขม็งที่เขาอีกครั้ง
จ้องอะไรหนักหนา น่ากลัวชะมัด
“คุณ เมื่อกี้ผมขอโทษนะ ส่วนเรื่องกาแฟ…”
“ไม่เป็นไรครับ ผมมันซุ่มซ่ามเอง ไม่ทันสังเกตว่าคุณเดินสวนมา”
ไม่คิดว่าคนตัวเล็กๆจะมีน้ำเสียงที่ทุ้มน่าฟังแบบนี้นะ แต่สายตานี่…ดุเอาเรื่องเหมือนกัน
“เรื่องกาแฟที่…”
“ไม่เป็นไรครับ” เจ้าของน้ำเสียงทุ้มน่าฟังก้มตัวลงเก็บแก้วกาแฟว่างเปล่าที่จมอยู่ในน้ำสีเข้มขึ้นมา ก่อนที่จะเดินผ่านชายร่างสูงเพื่อนำมันไปลงทิ้งในถังขยะและเดินต่อไปโดยไม่หันมาเหลียวมองอีก
“นี่! คุณ!”
เสียงตะโกนเรียกชายร่างเล็กที่เดินห่างไกลออกไปจากชายร่างสูง ความดังของเสียงทำให้เจ้าตัวหันหลังกลับมามองแบบงงๆ
"ครับ?"
"ผมขอเลี้ยงกาแฟเป็นการไถ่โทษนะ ตกลงไหม?"
รู้สึกอายแหะ...ยิ่งคนเดินไปเดินมาหันมามองผมกับชายร่างเล็กตาดุๆ นั่นก็ยิ่งทำให้ผมเขินและอายและยิ่งสายตาประมาณว่า 'ง้อแฟนเหรอ...น่ารักจัง' ของผู้หญิงม.ปลายหลายคนรวมกันเป็นกลุ่มที่เดินผ่านผมไปนั้น อายโว้ย
จะทำไงได้ละครับ สายตาเสียดายกาแฟที่หกเลอะเทอะเต็มพื้นของเจ้าหมอนั่นมันทำให้ผมรู้สึกผิด...ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ทำผิดซะหน่อย
คยองซูพยักหน้าตกลงแบบงงๆเหมือนเคยของฟรี ใครไม่สนก็บ้าแล้ว
.
.
.
ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์บริการในร้าน Coffee shop ระหว่างพวกเขาเกิดบรรยากาศเดดแอร์เพราะต่างคนต่างก็ไม่พูดอะไรต่อกัน จนพนักงานได้แต่ยืนทำตาปริบๆ และมองสลับไปทางชายร่างสูงทีไปทางชายร่างเล็กที
อ่า…ไม่ชอบกินกาแฟซะด้วย แล้วนี่มัน…มีแต่เมนูกาแฟ
“มีเมนูเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟไหมครับ?” เจ้าของใบหน้าคมถามพนักงานอย่างเลี่ยงไม่ได้
“ไม่มีเลยครับคุณลูกค้า”
“อ่า”
ไปต่อไม่ถูกเลยให้ตาย…เอาไงดีวะ ไม่รู้ซะด้วยสิว่าลาเต้ คาปูชิโน่ มอคค่า อเมริกาโน่บลาๆ อะไรนี่มันแตกต่างกันยังไง
“งั้นเอาเมนูที่ผู้ชายคนนี้สั่งเมื่อกี้ก็ได้ครับ คุณล่ะ?”
“อเมริกาโน่เย็นแก้วนึงครับ”
ผมหันไปมองชายตัวเล็กที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อเมื่อเขาเอื้อนเอ่ยถ้อยคำสั้นๆ ออกมาท่าทางนิ่งๆ ของเขาทำให้ผมคาดเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“6000วอนครับ”
ชายผู้มีผิวสีแทนยื่นแบงค์สีชมพูและสีฟ้าอย่างละ 1 ใบให้พนักงานประจำร้าน และบรรยากาศเดดแอร์ก็กลับมาคั่นระหว่างกลางพวกเขาอีกครั้ง เกิดความเงียบจนกระทั่งบาริสต้าทำอเมริกาโน่เย็นเสร็จและนำมันมาวางบนเคาน์เตอร์
แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าหยิบแก้วกาแฟก่อน จนเจ้ามือที่จ่ายเงินค่ากาแฟทนไม่ไหวต้องหยิบและยื่นแก้วที่บรรจุน้ำสีน้ำตาลเข้มและน้ำแข็งก้อนเล็กๆ ไปให้ชายร่างเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ขอบคุณที่จ่ายค่ากาแฟให้…นะครับ” คยองซูได้แต่พูดขอบคุณด้วยท่าทีนิ่งๆ แบบเขินอายเล็กน้อยกับชายร่างสูงแปลกหน้าคนนี้
ก็ยังดีนะที่พูดขอบคุณเป็น ไอ้เราก็นึกว่าหยิ่งและจะไม่พูดอะไรซะอีก ชายร่างสูงแอบแขวะเบาๆ ในใจ
“เดี๋ยวก่อนครับคุณลูกค้า”
“ครับ/ครับ?”
“คือ...ร้านเรามีโปรโมชั่นซื้อกาแฟเมนูอะไรก็ได้ 2แก้ว ทางร้านจะแถมพายไก่ให้ฟรี 1 ชิ้นครับ” พนักงานประจำร้านเอ่ยทักพวกเขาที่กำลังจะเดินออกจากร้านด้วยการบอกว่ามีของแถมซึ่งนั่นก็คือพายไก่ชิ้นขนาดใหญ่พอสมควรที่ถูกวางอยู่ในตู้โชว์เบเกอรี่
เฮ้อ…แถมทั้งทีทำไมไม่แถม 2 ชิ้น แล้วจะแบ่งกับเจ้าหมอนี่ยังไงละเนี่ย คยองซูได้แต่บ่นกระปอดกระแปดในใจ
ชายคนที่เลี้ยงกาแฟยื่นซองกระดาษสีขาวที่ข้างในบรรจุพายไก่ไว้เขายื่นมาให้ผม
“พายไก่…ผมให้คุณละกัน ท่าทางคุณน่าจะยังไม่ได้ทานข้าวกลางวันนะ”
“อ่า…ขอบคุณอีกครั้งครับ”
เขารู้ได้ไง ท่าทางเราดูมันโทรมและหิวโซขนาดนั้นเลยเหรอวะ…แต่ก็เอาเถอะ ปฏิเสธน้ำใจคนให้มันเสียมารยาท
คยองซูยื่นมือข้างที่ไม่ได้ถือแก้วกาแฟไปรับพายไก่จากชายร่างสูงพร้อมกับพวงแก้มกลมที่ขึ้นสีชมพูอ่อนๆ
“ถ้าคุณไม่รีบหรือไม่รังเกียจผม…เรานั่งด้วยกันก่อนไหมครับ?”
“ฮะ?”
“คุณจะได้กินพายไก่ไง กินไปเดินไปมันไม่ดีหรอกนะครับ”
ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ถึงพูดชวนผู้ชายหน้าดุคนนี้ให้มานั่งกินกาแฟกับเขา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรแต่แค่รู้ว่าอย่างน้อยก็ขอใช้เวลาเล็กๆ น้อยๆ กับคนๆ นี้ก่อน สัก 5 หรือ 10 นาทีก็ยังดี
คยองซูทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ เป็นอันว่าตกลง
อืม ก็ได้วะ ทนนั่งกินกับหมอนี่คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง คยองซูคิดในใจอย่างรู้สึกระแวงนิดหน่อย คงเป็นเพราะว่าเขาไม่เคยนั่งดื่มกาแฟกับคนแปลกหน้าแบบสองต่อสองมาก่อน
บรรยากาศภายในร้าน Coffee shop หน้ามหาวิทยาลัยนั้นเงียบสงบเพราะคนที่นั่งอยู่ก็นั่งอย่างเงียบๆช่างแตกต่างกับความวุ่นวายภายนอกร้านเมื่อมองออกไปข้างนอกผ่านกระจกใส ความวุ่นวายที่มีผู้คนเดินไปเดินมาเป็นองค์ประกอบ
ตรงมุมด้านในสุดมีผู้ชาย 2 คนนั่งอยู่ ภายนอกพวกเขาดูแตกต่างกันสิ้นเชิงเหมือนคู่ตรงข้ามหรือหยิน-หยาง คนนึงขาวส่วนอีกคนผิวเข้ม คนนึงตัวเล็กไหล่บางส่วนอีกคนตัวใหญ่ไหล่กว้าง แต่มีหนึ่งอย่างที่ทั้งคู่มีเหมือนกันคือความขี้อายเมื่ออยู่กับคนแปลกหน้า
ชายผู้มีเรือนร่างราวกับเทพเจ้าปั้นคอยลอบมองชายร่างเล็กที่กำลังกินพายไก่และดื่มกาแฟสลับกันเป็นระยะ แทนที่เขาจะสนใจอเมริกาโน่เย็นที่เริ่มมีความใสเจือจางอยู่ในความเข้ม คงเพราะเขาไม่คิดจะสนใจกินมันแม้แต่นิดตั้งแต่แรก แน่นอนว่าคนที่โดนมองไม่รู้ตัวหรอกเพราะสนใจแค่ของกินตรงหน้า
เวลาผ่านไปเท่าไหร่ ระหว่างพวกเขาไม่มีใครรู้ จนกระทั่งคยองซูหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกงเพื่อกดรับสายจากใครบางคน
“อืม...อยู่หน้ามหาวิทยาลัยนี่แหละ มีอะไรเหรอ”
…
“ได้ๆ เดี๋ยวจะเดินกลับเข้าไปเดี๋ยวนี้แหละ”
คยองซูกดวางสายและเอาสมาร์ทโฟนใส่กระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม พร้อมกับลุกขึ้นยืนและก้มหัวเล็กน้อยให้ชายแปลกหน้าที่เลี้ยงกาแฟเขาเพื่อเป็นการขอบคุณ
“ขอบคุณสำหรับค่ากาแฟนะครับ ผมคงต้องเสียมารยาทลุกออกจากโต๊ะก่อนคุณเพราะผมทิ้งเพื่อนให้นั่งรอผมนานแล้ว...”
ยังไม่ทันที่ชายผู้มีใบหน้าคมคายจะพูดอะไรตอบกลับ ซึ่งเขาทำได้แค่อ้าปากกินลมเพราะชายร่างเล็กรีบเดินออกไปทิ้งแก้วกาแฟที่มีน้ำสีเข้มเหลือนิดหน่อยกับพายไก่อีกครึ่งชิ้นไว้ให้เขาดูเป็นความทรงจำ
ถ้าพรหมลิขิตมีจริง…หวังว่าสักวันคงได้เจอกันนะ
เขาได้แต่อธิษฐานในใจเงียบๆ
.
.
.
“มึงทำอะไรวะชาน จะจับนกมากินรึไง”
ท่าทางวิ่งและกระโดดแบบประหลาดๆ ของไอ้หูกางนี่มันอะไรกัน… คยองซูที่เดินกลับมาถึงโต๊ะแล้วได้แต่ทำหน้าเหวอเล็กน้อย
“ก็ไม่มีอะไรให้ทำนี่หว่า” ชานยอลเลิกสนใจนกพิราบสีขาวหันมาพูดกับคนที่เพิ่งมาถึง
“บทเขียนเสร็จแล้วเหรอ” คยองซูหย่อนก้นอวบนั่งลงในตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งก่อนหน้าพร้อมกับลากโน๊ตบุ๊คของเขาให้มาอยู่ตรงหน้าเพื่อที่จะตรวจเช็กบท Music video
“เออ เลยให้แบคฮยอนนี่โทรตามมึงกลับมาไง ว่าแต่ทำไมมึงไปนานจังวะ”
“อุบัติเหตุนิดหน่อย ไม่มีอะไรมากหรอก”
“เหรอ ดีละที่มึงกลับมาครบ 32 และอีกอย่างที่โทรตามมึงเพราะแบคบอกว่า พระเอกที่นัดเอาไว้ใกล้จะมาแล้ว”
“อืม ดีๆ จะได้นัดคิวถ่ายไว้เลย” คยองซูใช้นิ้วป้อมเคาะลงบนคีย์บอร์ดเพื่อพิมพ์อะไรนิดหน่อยก่อนจะกดเซฟและพับหน้าจอโน๊ตบุ๊คลง
“พูดถึงก็มาเลย ตายยากจริงๆไอ้จงอิน” แบคฮยอนที่หันหลังมองอะไรสักอย่างก่อนจะหันหน้ากลับมาพูดกับชานยอลและคยองซู
มาไวจังแหะ คยองซูพูดในใจก่อนที่จะมองไปตามที่แบคฮยอนโบกไม้โบกมือให้คนที่ชื่อว่าจงอิน
.
.
“นั่นมัน…” คยองซูเบิกตากว้างและอ้าปากอย่างเหวอๆ ราวกับเห็นอะไรที่มันน่าตกใจยังไงยังงั้น
นี่มัน…
คนที่เลี้ยงกาแฟเขานี่!
มาอัพตอนที่ 2 ต่อแล้วนะคะ หายไปนานเลยเพราะว่าคิดหัวข้อทีสิสไม่ออกยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะ
และอันที่จริงก็เพราะคนนี้ด้วยแหละ ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ
ติชมได้ที่ Tag #FicYoureallisee ในทวิตเตอร์ได้เหมือนเดิมนะคะ
หรือจะคอมเมนท์ในนี้ก็ได้นะ เพราะล็อกอินผ่านทวิตเตอร์ได้เหมือนกัน
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in