เพื่อนๆ ว่าอะไร
คือประโยชน์ของ
อารมณ์โกรธครับ?.
.
.
.
.
.
วันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผมไม่ได้ตีตั๋วเข้าไป
ดู X-Men เหมือนใครๆ
แต่ปล่อยใจตัวเองไปกับ
อนิเมชั่น “นกขี้โมโห”
ที่อาจไม่ได้อยู่ในโผหนังน่าดู
ของผู้ใหญ่หลายๆ คน
ซึ่งถึงแม้ภาพรวมของหนัง
จะไม่ได้น่าประทับใจมากนัก
แต่ผมก็รู้สึกว่า มันมีอะไรหลายอย่าง
ที่สะกิดเตือนใจเราได้
ไม่น้อยเลยทีเดียว
.
.
อย่างแรกสุดเลย คือ
การ Group ตัวละครหลักในเรื่อง
ซึ่งถ้าใครที่เคยเล่นเกมนี้
จะรู้ว่า มีนกมากมาย หลายชนิด
หลายความสามารถให้เราตื่นตาตื่นใจ
แต่ทำไมพอมาทำเป็นหนังปุ๊บ
Group ตัวละครหลัก
จึงต้องเป็น เร้ด นกแดง
ชัค นกเหลือง และบอมบ์ นกอ้วนดำ ด้วย
.
.
ส่วนตัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่า
เป็นความบังเอิญหรือเป็นความตั้งใจ
ของคนทำหนังกันแน่
เพราะ หากเราพิจารณากันที่คุณสมบัติ
ของนกทั้ง 3 ตัวแล้ว
จะสามารถมองเห็นตัวตน
ของความโกรธได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
3 ข้อ คือ
.
.
หนึ่ง เร้ด เป็นตัวแทนความโกรธ
ที่สะท้อนความตรงไปตรงมา
ไม่ปั้นแต่งอะไร รู้สึกแบบไหนก็พูดแบบนั้น
อันนำมาซึ่งความเสียหายแก่ตัวเอง และทำให้ใครต่อใคร
รังเกียจไม่อยากยุ่งด้วย
.
.
สอง ชัค เป็นตัวแทนความโกรธ
ที่สะท้อนความรวดเร็ว
คิดอะไร ก็ทำปุบปับทันที ไม่มียั้ง
เหมือนกันกับเวลาโกรธ
เราก็จะไม่คิดอะไรให้รอบคอบ
จะตัดสินใจทำทุกอย่าง
ไปด้วยอารมณ์ที่รวดเร็ว
จนหลายครั้งก็นำความเสียหายมาให้
.
.
สาม บอมบ์ เป็นตัวแทนความโกรธ
ที่สะท้อนการควบคุมตัวเองไม่ได้
จนต้องระเบิดความรุนแรงออกมา
ทำให้ทุกคนรวมทั้งตัวเอง
ได้รับความเดือดร้อน
.
.
ประเด็นต่อมาคือ ลิโอนาร์ด
ราชาหมูเจ้าเล่ห์ที่เข้ามา
ต้มตุ๋นชาวนกเกาะด้วยการแสดงละคร
ทำโชว์ให้ทุกคนสนุกสนาน
และตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ
ให้ทุกคนเชื่อใจ เพื่อหวังจะขโมยไข่นก
ไปกินเป็นอาหาร
ซึ่งจะขัดแย้งกับ เร้ด มากๆ
ที่ไม่ว่าจะพูดความจริงยังไง
ก็ไม่มีใครเชื่อ
.
.
จุดนี้ ส่วนตัวทำให้รู้สึกว่า
บางทีอารมณ์โกรธ
ก็เป็นอารมณ์ที่บริสุทธิ์ที่สุด
ตรงไปตรงมาที่สุด
แบบไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
เพราะในชีวิตจริงเราอาจแกล้งหัวเราะ
แกล้งเสียใจได้ง่ายๆ
แต่ถ้าให้เราแกล้งโกรธ
ทำลายข้าวของด่าใครต่อใครเสียๆ หายๆ
หรือลงไม้ลงมือกับใคร
เราก็คงไม่เสี่ยงที่จะแกล้งทำแบบนั้น
ให้ใครเกลียดแน่ๆ
.
.
ดังนั้น ถ้าเรามองความโกรธในมุมที่ดี
เราก็จะรู้ว่า เขาไม่ได้โกหก
เราจะมองเห็นความต้องการ
ของเขาที่ซ่อนอยู่
เราจะมองเห็นปัญหา
และทางแก้ไขได้อย่างชัดเจน
ไม่เหมือนกับเวลาที่เห็นใครยิ้ม
หรือเห็นใครเศร้า
ซึ่งเราไม่มีทางรู้หรอกว่าตัวเอง
กำลังถูกหลอกอยู่หรือเปล่า?
.
.
ประเด็นสุดท้าย
(แต่ไม่ท้ายสุดสำหรับสาระ
ในการ์ตูนเรื่องนี้)
ที่สะกิดใจผมที่สุดก็คือ
จริงๆ แล้วความโกรธ
ถือเป็นแรงผลักดันที่ดี
ที่ทำให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จได้
หากแต่มันต้องเคลือบเอาไว้ด้วยสติ
และความรู้เท่าทัน
เหมือนกับที่เมื่อชาวนกเกาะ
รู้ว่าตัวเองถูกราชาหมูหลอก
ทุกคนก็เสียใจ และไม่รู้ว่า
จะแก้ไขปัญหาอย่างไรดี
เร้ดจึงได้ปลุกระดมให้ทุกคน
เอาความโกรธที่ถูกขโมยไข่
มาเป็นแรงผลักดัน
ในการที่จะฮึดสู้กับพวกหมู
และร่วมแรงร่วมใจกัน
กลับไปเอาไข่คืนมา
ซึ่งเมื่อทุกคนมีสติ ความโกรธที่มี
ก็กลายเป็นเป็นความมุ่งมั่น
ที่พร้อมจะฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อเป้าหมาย
จากที่เคยควบคุมตัวเองไม่ได้ ก็ควบคุมได้
จากที่เคยทำอะไรไวแบบไม่คิด
ก็กลายเป็นคิดและตัดสินใจ
ทำทุกอย่างด้วยความว่องไว
จนในที่สุด เหล่านกเกาะ
ก็เอาชนะพวกหมู
และนำไข่กลับคืนมาได้สำเร็จ
.
.
ถึงแม้ว่าอนิเมชั่นเรื่องนี้
จะไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกประทับใจ
มากเท่ากับเรื่องอื่นๆ
ในรอบปีสองปีที่ผ่านมา
แต่มันก็ช่วยปรับทัศนคติ
ที่มีต่อความโกรธของผม
ไปได้มากพอสมควร
อย่างน้อยที่สุดเลย ฉากที่เร้ด
ทะเลาะกับป้ายบอกทางหน้าบ้านตัวเอง
ก็สะกิดเตือนใจให้รู้เท่าทัน
อารมณ์ตัวเองว่า
ความโกรธอาจทำร้ายใครต่อใคร
แต่ก็ไม่รุนแรงเท่ากับที่มัน
ทำร้ายทำลายจิตใจ
...ของตัวเราเอง...
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in