เคยพลาดหนังเรื่องที่ตั้งใจจะไปดูในโรงหนังกันมั้ยครับ
ผมมีอยู่เรื่องหนึ่งที่พลาดการไปดูในโรงหนัง
หนังเรื่องนั้นก็คือ Bakuman (อ่านว่าบาคุมัง) วัยซนคนการ์ตูน
ความจริงอยากจะเขียนรีวิวเรื่องนี้ลงใน
รีview แต่ยังมีตอนสปอยล์ของ Captain America : Civil War ต่อคิวอยู่เลยมาลงในนี้ดีกว่า
"Bakuman วัยซนคนการ์ตูน" เดิมเป็นการ์ตูนมังงะที่เขียนเรื่องโดย อาจารย์ Tsugumi Oba (ว่ากันว่าอาจารย์เคยเขียนเรื่อง Luckyman ในนามปากกาว่า Hiroshi Gamo) และอาจารย์ Takeshi Obata (ผลงานวาดเรื่องฮิคารุเซียนโกะ) ซึ่งอาจารย์ทั้งสองท่านเคยรวมงานกันในเรื่อง Death note (เป็นมังงะที่แปลงเป็นหนังได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง)
ได้รับการตีพิมพ์ตอนแรกในวันที่ 8 สิงหาคม ปี 2008 ลงในนิตยสารการ์ตูนชื่อดังของญี่ปุ่น "Shonen Jump" (นิตยสารที่ตีพิมพ์การ์ตูนยอดฮิตมากมายอาทิเช่น Dragonball , Naruto , One Piece , Jojo's Bizarre Adventure) ของสำนักพิมพ์ Shueisha
ต่อมา Bakuman ได้รับการดัดแปลงเป็นอนิเมชั่นโดย J.C. Staff ออกฉายทางโทรทัศน์ทางช่อง NHK ของประเทศญี่ปุ่น ตอนแรกในวันที่ 2 ตุลาคม ปี 2010 แบ่งเป็น 3 ซีซันๆละ 25 ตอน มีลิขสิทธิ์ในไทยโดยโรสมีเดีย
ตีพิมพ์เป็นฉบับรวมเล่มรวมทั้งสิ้น 20 เล่มจบ มีลิขสิทธิ์ในไทยโดยสำนักพิมพ์เนชั่น
Bakuman วัยซนคนการ์ตูนเป็นเรื่องราวของ มาชิโระ โมริทากะ (ไซโค) ที่มีความสามารถในการวาดการ์ตูน และ ทาคากิ อาคิโตะ (ชูจิน) ที่มีความสามารถในการแต่งเรื่อง ทั้งสองคนร่วมมือกันเป็นคู่หูเขียนการ์ตูนเพื่อความฝันของทั้งคู่ที่จะได้ทำมังงะของตนให้เป็นอนิเมชั่นให้ได้
เข้าเรื่องของผม หลังจากที่พลาดการดูหนังเรื่องนี้ในโรง ด้วยความที่เป็นคนอ่านการ์ตูนและดูอนิเมะของเรื่องนี้ ก็เลยเสาะแสวงหาจนได้ดูจนได้ (ในเวอร์ชั่นบรรยายภาษาอังกฤษ แปลทันบ้างไม่ทันบ้าง)
Friendship Effort Victory นี่คือสิ่งที่หนังบอกเราได้เป็นอย่างดี ถึงมันจะดูการ์ตูนจ๋าก็เถอะ
โดยในเวอร์ชั่นการ์ตูนก็จะเสนอแนวๆนี้ คือมิตรภาพ (Friendship) ทั้งสองรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวในชื่อ อาชิโรกิ มุโตะ และในเรื่องจะมีการช่วยเหลือกันระหว่างนักเขียนด้วยกันและระหว่างนักเขียนกับบก.อีกด้วย
การต่อสู้ อุสาหะ (Effort) ทั้งสองฝ่าฟันอุปสรรคมากมายจนกว่าจะถึงฝั่งฝันไปด้วยกัน
ชัยชนะ (Victory) สุดท้ายความอุสาหะก็ทำให้พวกเค้าสองถึงฝั่งฝัน
ส่วนหนังรักษาคุณภาพจากต้นฉบับได้ดีมาก เคารพต้นฉบับมาก นักแสดงเหมือนถอดแบบออกมาจากการ์ตูน (รู้สึกดีทุกครั้งที่เห็นตัวละครต้นฉบับออกมาครั้งแรก เพราะเหมือนเราได้เห็นพวกเค้าออกมาจริงๆ) เป็นหนังที่เกี่ยวกับมิตรภาพ การต่อสู้ และชัยชนะโดยแท้จริง มีทั้งการช่วยเหลือกันระหว่างนักเขียนด้วยกันและบก.กับนักเขียน (ประโยคคมๆในการ์ตูนมาในหนังด้วย) การต่อสู้กับความโหดสัสรัสเซียในการเขียนการ์ตูน(ซึ่งงานหนักมาก ผมเคยลองมาแล้วเรียกได้ว่า ช็อตนั้นกูตายว่ะ)
บางฉากในหนังลดทอนจากในการ์ตูนนิดหน่อยแต่ก็ทำให้ดูจริงขึ้น เพราะบางฉากก็เป็นการ์ตูนซะเหลือเกิน เป็นหนังที่ดัดแปลงจากมังงะที่ประทับใจที่สุดเท่าที่ผมเคยดูมา มันทำให้นึกถึงตอนที่กำลังอ่านการ์ตูนเรื่องนี้อยู่ และตัวหนังก็ยังให้ข้อคิดว่า ถึงเพื่อนจะดีจะร้าย จะสุขจะทุกข์ยังไงก็จะเดินร่วมทางไปจนสุดทาง
อยากให้ลองไปหาอ่านเวอร์ชั่นมังงะก่อนดูกันนะครับ
แต่นึกไปทำไมผมไม่ไปดูในโรงหนังวะเนี่ย ทีหนังที่แปลงจากได้มังงะห่วยอย่าง ผ่าพิภพไทสา่สเาดสทดสเสเสสดสสุถุยยภ เสือกไปดู แล้วยังจะหน้าด้านทำสองภาคมาเลยด้วยนะ ทีหนังดีๆอย่างบาคุมังยังไม่มีภาคสองเลย
เดี๋ยวนี้บางทีหนังดีๆชอบมีรอบฉายนิดเดียว แต่หนังเฉยๆที่เค้าดันเยอะๆดันมีรอบฉายมาก
เอาเป็นว่าถ้าอยากไปดูหนังเรื่องไหนก็รีบไปดูเถอะครับก่อนที่สายไป
ชีวิตก็คงจะเป็นเช่นเดียวกัน อยากทำอะไรก็ทำเลย (ถ้าไม่เดือดร้อนตัวเราและใครอื่น) เพราะชีวิตมันสั้นเหมือนรอบฉายหนังดีๆแหละครับ
*
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in