เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
รีวิวนิยายแปล✿ Peony ✿
รีวิว ม่านหมอก (ไร้สิ้นสุด)

  • ม่านหมอก (ไร้สิ้นสุด)《 薄雾[无限]》


     ผู้แต่ง: เวยเฟิงจี๋สวี่ 微风几许
     สำนักพิมพ์: Rose 
     จำนวน: 3 เล่มจบ
     เรื่องย่อ:

    🚀  จี้อวี่สือแห่งหนิงเฉิงมาแล้ว


         เมื่อผู้พิทักษ์ที่รับหน้าที่สังเกตการณ์ของหน่วยเจ็ดแห่ง โดมท้องฟ้า สาขาเจียงเฉิงได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติภารกิจ เบื้องบนจึงต้องการดึงตัว จี้อวี่สือ ผู้จดบันทึกสาขาหนิงเฉิงมาร่วมงานอย่างเร่งด่วน จี้อวี่สือมีชื่อเสียงด้านความจำเป็นเลิศ แต่กลับมีข่าวลืิิอว่าเป็นพวกไม้ประดัับที่กระทั่งเปิดฝาขวดน้ำก็ยังเปิดไม่ออก 555 ส่วน ซ่งฉิงหลาน หัวหน้าผู้พิทักษ์หน่วยเจ็ดได้ดูแคลนจี้อวี่สือว่าพวกเขาจะออกไปเผชิญอันตราย ไม่ได้ต้องการอัจฉริยะที่อ่านหนังสือเร็วแบบควอนตัมได้สักหน่อย

          ไม่นานคำพูดของหัวหน้าซ่งได้ลอยข้ามน้ำข้ามทะเลมาถึงหูจี้อวี่สือแบบไม่ตกหล่น เดิมทีจี้อวี่สือยืนกรานปฏิเสธภารกิจนี้มาตลอด ทว่าสุดท้ายก็ตัดสินใจมารับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาพิเศษของหน่วยเจ็ด แม้ว่าหัวหน้าทีมกับลูกทีมชั่วคราวจะต้องร่วมมือกันทำภารกิจให้สำเร็จ ทว่าความไม่ลงรอยกันระหว่างพวกเขาย่อมไม่จางหายไปง่ายๆแน่นอน




    🌌  ยินดีต้อนรับเหล่าผู้พิทักษ์จากศักราชชิงหยวน ปี 1456 สู่ PU-31

           ระหว่างการเดินทางไปทำภารกิจ แคปซูลของพวกเขาวาร์ปไปโผล่ยังป่าลึกในช่วงตีสี่ ณ อีกมิติเวลาหนึ่ง นอกจากสถานที่นี้จะแปลกมากแล้วยังไม่สามารถติดต่อศูนย์บัญชาการใหญ่ได้อีกด้วย และเมื่อพวกเขามาถึงที่ทำการอุทยานกลาง PU-31 ก็พบเบาะแสคลิปวิดิโอที่ทำให้รู้ว่าทั้งเมืองนี้มีแต่ซอมบี้!! รวมถึงข้อความที่แจ้งว่าการเดินทางครั้งนี้ถูกล็อกไว้ และมีเพียงต้องทำภารกิจให้สำเร็จเท่านั้นจึงจะปลดล็อกได้ ส่วนด้านนอกอุทยานพวกเขาได้พบกำแพงสีดำสูงจรดท้องฟ้าที่พร้อมจะกลืนกินทุกอย่าง รวมถึงซอมบี้ฝูงใหญ่ที่หลั่งไหลออกมาจากทั่วทุกสารทิศ แม้ตอนนี้จะไม่รู้ว่า PU-31 คืออะไร แต่ในเมื่อติดแหง็กอยู่ที่นี่แล้วก็จะไปเจอมันสักตั้งแล้วกัน!!

            ไม่นานหน่วยเจ็ดก็ถูกฝูงซอมบี้ต้อนจนเกือบขิตทั้งทีม แถมยังเกิดเหตุการณ์พลิกผันตามมาติดๆจนจี้อวี่สือที่เป็นอัจฉริยะที่มีอาการไฮเปอร์ธีมีเซีย ซึ่งไม่ว่าจะพบเจอสิ่งไหนมาก่อนล้วนสามารถจดจำทุกอย่างได้ไม่ลืมนั้น เริ่มรู้สึกว่าเหตุการณตรงหน้าต้องไม่ใช่ความรู้สึกเดจาวูแน่นอน!! (⊙_⊙) ส่วนซ่งฉิงหลานเองก็เริ่มตระหนักแล้วว่าที่เขาพูดๆกันว่า คนที่ความจำดีมักเจ้าคิดเจ้าแค้น... นั้นไม่ผิดเลยจริงๆ 555 // จี้อวี่สือ: อาฆาตอะไรกัน ผมแค่ความจำดีเท่านั้นเอง 


          ทุกคน!! ถ้าใครชอบนิยายไซไฟบอกเลยว่ามาถูกทางแล้วค่ะ!! ม่านหมอกเรื่องนี้คุณนักเขียนทำการบ้านมาดีมากๆ ทั้งการวางโครงเรื่อง เชื่อมโยงเหตุการณ์ต่างๆมันเต็มไปด้วยปริศนา ความลึกลับซับซ้อนของมิติเวลาที่น่าติดตามและสนุกมากๆ แถมยังเลี้ยวโค้งหักมุมให้ตื่นเต้นได้ตลอดเลยด้วย 555 ส่วนการเอาตัวรอดในภารกิจต่างๆ ทั้งลุ้นระทึก แอคชั่นดุเดือด ตรรกะทฤษฎีเข้มข้นสมองบวม ระหว่างทางก็มีความน่ารักโรแมนติกของหัวหน้าซ่งและที่ปรึกษาจี้ออกมาให้ชุ่มชื่นหัวใจเล็กน้อย ก่อนจะสำลักความหวานช่วงเล่ม 3 ตอนที่พวกเขารักกัน!! 555 ส่วนการบรรยายการแปลทำดีทำถึงมาก อ่านง่าย ลื่นไหลสุดๆค่ะ               

           สำหรับ ม่านหมอก (ไร้สิ้นสุด) เป็นนิยายไซไฟที่ใช้การเดินทางข้ามเวลา และทฤษฎีด้านมิติเวลามาเป็นลูกเล่นได้น่าสนใจมากๆ เซตติ้งจะเป็นยุคที่มีการวิจัยค้นพบว่ากระแสเวลาไม่ได้มีเพียงเส้นเดียวเท่านั้น นักวิจัยจึงก่อตั้งระบบที่ชื่อว่า โดมท้องฟ้า ที่สามารถคำนวณอนาคตออกมาได้ผ่านปัจจุบันของเรา โดยจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านต่างๆ และเช่น ผู้พิทักษ์ จะเดินทางข้ามมิติไปยังอนาคตเพื่อหยุดยั้งการก่อการร้ายหรือป้องกันภัยพิบัติที่จะอาจเกิดขึ้น ส่วน ผู้จดบันทึก จะรับผิดชอบในการเดินทางข้ามมิติไปยังอดีตเพื่อบันทึกเหตุการณ์น้อยใหญ่ประวัติศาสตร์

        ส่วนภารกิจในเรื่องจะหนักไปทางกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องอาศัยการทำความเข้าใจ และเชื่อมโยงเหตุการณ์เข้าด้วยกัน ทั้งการกำเนิดโลกคู่ขนาน การดำรงอยู่ของมิติต่างๆ และกระแสเวลาของมิติเวลานั้นๆด้วย ดังนั้นจับ Timeline ให้ดีแล้วทุกอย่างจะง่ายขึ้นค่ะ! ด้วยความที่เนื้อหาค่อนข้างหนัก รายละเอียดเยอะ แนะนำให้ค่อยๆอ่านค่อยๆทำความเข้าใจไป ทุกภารกิจมันมีเหตุและผล รวมถึงสอดคล้อง เชื่อมโยง และมีอิทธิพลต่อกันราวกับวงกลมเลยค่ะ


             พวกภารกิจจะประมาณเดียวกับ เกมปริศนาสอบมรณะ Global Examination มีพวกกฎและเป้าหมายภารกิจมาให้ตีความว่าระบบต้องการอะไรกันฟระ!! แต่ละภารกิจบอกเลยว่าสิ้นหวังมาก มันเต็มไปด้วยปริศนา ไร้ซึ่งเบาะแส แถมยังมองไม่เห็นจุดหมายปลายทางอีก 555 อย่างเช่นแรกจะเป็น Time loop ที่บอกเลยว่านี่คือรวมหนึ่งร้อยวิธีตายใช่ไหม (?) มันคือวัฎจักรที่ไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งกว่าจะหลุดออกมาได้แทบร้องขอชีวิตทั้งหน่วยเจ็ดและคนอ่านเลย ยังดีที่คุณนักเขียนยังมีอะไรมาเซอร์ไพรส์หักมุมได้ตลอดเลยทำให้การเล่าเรื่องไม่น่าเบื่อเลย 

         แน่นอนว่าโรคไฮเปอร์ธีมีเซียที่เมมโมรี่สมองไม่มีลิมิตของจี้อวี่สือเป็นเหมือนสกิลโกงสุดเทพ เป็นความหวังของหมู่บ้านที่เอาชนะได้ทุกอย่าง ทว่าทุกภารกิจกลับสะท้อนให้เห็นเลยว่าเขาต้องทุกข์ทรมานจากโรคนี้มากแค่ไหน ซึ่งถ้าจิตใจไม่แข็งแกร่งพอก็น่าจะไม่รอดแร้วเนี่ย ยังดีที่ความแข็งแกร่งของหัวหน้าซ่งและความรู้ใจกันระหว่างพวกเขามาซัพพอร์ตและเติมเต็มจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ที่เราชอบมากคือวิธีที่คุณนักเขียนอธิบายพวกทฤษฎี หรือแนวคิดต่างๆผ่านการวิเคราะห์ของจี้อวี่สือ มันเป็นขั้นเป็นตอน เข้าใจง่าย แต่นี่ก็เป็นนิยายอีกเรื่องที่เราอ่านไปแล้วกางกระดาษจดไปด้วยเพราะมันเยอะมากจริงๆ ซึ่งใครอ่านภารกิจอูโรโบรอสแล้วงงๆ สามารถเข้าไปดู Timeline ที่เราจดได้ค่ะ จริงจังมาก 555 ( ; ω ; )

            ส่วนชาวแก๊งผู้พิทักษ์หน่วยเจ็ดนั้น ด้วยความที่ซ่งฉิงหลานเป็นหัวหน้าทีม ส่วนจี้อวี่สือเป็นมันสมองของทีม ส่วนตัวเราเลยคิดว่าบทบาทของสมาชิกแต่ละคนยังไม่โดนเด่นเท่าไร แต่ตอนรวมทีมแล้วมีความเป็น Team work และความเชื่อใจกันมากเลยค่ะ และไม่ว่าภารกิจต่างๆจะกดดันปั่นประสาทแค่ไหน หรืออุปสรรคจะมาในรูปแบบใดพวกเขาก็พุ่งไปข้างหน้าเสมอ แถมยังหยอดมุกฮาๆสร้างสีสันได้ตลอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนมุมมองของผู้จดบันทึกที่มักทำงานคนเดียวอย่างจี้อวี่สือไปเลย ขณะเดียวกันความใจเย็นและละเอียดรอบคอบของที่จี้อวี่สือก็ได้มาเติมเต็มจุดอ่อนของผู้พิทักษ์เลือดร้อนกลุ่มนี้ได้พอดิบพอดี 


              สำหรับ จี้อวี่สือ เขาคืออัจฉริยะที่มีความจำเป็นเลิศที่ป่วยโรคไฮเปอร์ธีมีเซีย หน้าตาดีมากๆ ฉลาดรอบรู้ มีเหตุมีผล รูปร่างบอบบาง บุคลิกพูดน้อย สุขุมนุ่มลึก และเย็นชาเยือกเย็น แต่ตอนต่อสู้กลับดุดันและเท่มากค่ะ! แถมยังกล้าที่จะแสดงความอ่อนแอออกมาให้คนอื่นเห็นด้วย ตัวละครนี้มี Childhood Trauma ทำให้กลายเป็นคนเงียบขรึม โดดเดี่ยวและเก็บตัว ส่วนการแบกรับปมในใจที่ไม่อาจคลี่คลายนี้เอาไว้เพียงลำพัง ทำให้เขาติดอยู่ในม่านหมอกของอดีตและมีชีวิตเพื่อไล่ล่าความจริงอันแสนเจ็บปวดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น

            ส่วน ซ่งฉิงหลาน เป็นหัวหน้าผู้พิทักษ์หน่วยเจ็ดสุดหล่อของโดมท้องฟ้า รูปร่างสูงใหญ่ ฉลาด บุคลิกน่าเกรงขาม นิสัยตรงไปตรงมา เด็ดขาด ดุดัน ส่วนฐานะทางครอบครัวและความสามารถได้หล่อหลอมทำให้เขาหยิ่งทะนงและมีความมั่นใจ หัวหน้าซ่งมีความเป็นผู้นำสูง จิตใจแข็งแกร่งมาก เปรียบเหมือนหลักความปลอดภัยให้คนในทีม และสามารถรับมือได้ทุกสถานการณ์เลยค่ะ 

            แม้ความสัมพันธ์ของคู่นี้จะเริ่มต้นจากไม่กินเส้นกันตั้งแต่ยังไม่เห็นหน้า คนนึงเป็นเกย์ คนนึงเป็นชายแท้ที่มีพิรุธและชวนให้สงสัยทุกการกระทำ รวมถึงมีความเข้าใจผิดที่หัวหน้าซ่งมีต่อชีวิตรักของที่ปรึกษาจี้ด้วย 555 แต่พอทั้งคู่ได้มาต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ และเผชิญความเป็นความตายด้วยกันหลายครั้งเข้าก็เริ่มเข้าใจความคิด และมุมมองของกันและกันได้โดยไม่ต้องมีคำพูดราวกับคู่หูสุดแกร่งเลยค่ะ ไม่นานหัวหน้าซ่งเริ่มรู้แล้วว่าที่สบประมาทอึกฝ่ายไว้เมื่อก่อนนั้นแย่มาก!! ยิ่งเห็นว่าอีกฝ่ายต้องเผชิญกับอะไรบ้างก็ยิ่งเป็นห่วงเป็นใยจนส่วนจี้อวี่สือสงสัยว่าหัวหน้าซ่งเป็นคนเอาใจใส่คนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ (⁄ ⁄>⁄ ▽ ⁄<⁄ ⁄)


           ด้วยความที่เนื้อเรื่องเทไปที่ตัวละครจี้อวี่สือนี้ค่อนข้างมาก ตอนอ่านก็ลุ้นว่าซ่งฉิงหลางจะแสดงตัวตนออกมาบาลานซ์ความต่างนี้เพื่อให้คนอ่านมองเห็นเขาได้ยังไง ช่วงแรกยอมรับว่าตัวละครนี้มีความสมบูรณ์มากไปจนจืดชืด เขาไม่มีปมในใจ ไม่มีความปรารถนาอะไร นอกจากทำภารกิจๆให้สำเร็จ 555  กระทั่งเขามาเจอที่จี้อวี่สือจึงค่อยๆสัมผัสถึงได้ถึงความร้อนรุ่ม กลุ้มใจ กระวนกระวายใจจนทำอะไรไม่ถูกจากตัวละครนี้ และต้องขอชมว่าจุดนี้ออกมาได้ดีมาก เมื่อซ่งฉิงหลานได้ก้าวเข้ามาทำความเข้าใจความเจ็บปวดของจี้อวี่สือ เขาได้ดึงอีกฝ่ายที่วนเวียนในสายธารแห่งอดีตให้กลับมาอยู่ในโลกใบเดิมได้อย่างมั่งคง ทำให้คนที่ปิดกั้นตัวเองกลายเป็นยอมรับใครสักคน รวมถึงปล่อยวางปมในใจลงได้นั้นมันดีต่อใจมากๆเลยค่ะ โฮรๆ โรแมนติกมากค่ะ

           ซึ่งความรักของพวกเขาเป็นเหมือนรางวัลความหวานให้คนอ่านหลังจากตรากตำกับภารกิจสุดโหด สองเล่มแรกสารภาพว่าภารกิจจะหนักหน่วงมาก แต่อยากให้ทุกคนอดทนรอจนถึงเล่ม 3 เพราะยิ่งเรื่องราวดำเนินไปมากเท่าไร ก็จะยิ่งพบว่าแท้จริงแล้วชะตากรรมของพวกเขาถูกลิขิตไว้ก่อนที่ทั้งคู่จะรู้ตัวด้วยซ้ำไป  "เวลา" ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคตมาสอดประสานกันไปมาได้อย่างน่าอัศจรรย์มากๆ จนเข้าใจเลยว่า “อดีตที่เขาเคยเดินทางข้ามไป กลายเป็นอนาคตที่เขาเคยวาดหวังไว้ในที่สุด” นั้นหมายถึงอะไร!! เพราะบางทีเราอาจจะได้พบกัน ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งบนร่องรอยที่ถูกทิ้งไว้บนเส้นเวลาก็ได้… 💘 



เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
(@fb2130636923646)
ขอบคุณที่เรียงไทม์ไลน์ให้นะคะ ช่วยได้มากเลย สนุกตามที่รีวิวเลยค่ะ