ถึง ดุจดาวอีกครั้ง
รู้สึกเกี่ยวโยงกันอย่างประหลาดและอยากจะพรรณาถึงเสมอในฐานะเด็กสาวที่มาจากดาวดวงเดียวกัน
หลายวันมานี้ ลมกรรโชกแรงพัดผ่านราวกับพายุ
หากหนึ่งในความหมายของชลลดาแปลว่าน้ำ ฉันคงกำลังลอยคอเอาตัวรอดจากพายุโหมกระหน่ำที่ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต
มันเปลี่ยนไปแล้วทุกอย่างไม่มีอะไรเหมือนเดิมจากที่เป็น ความจริงใหม่นี้วิ่งตามหลังฉันเหมือนเงาและคอยเตือนความจำด้วยการตะโกนเรียกซ้ำๆให้หันหลังกลับไปหา
ฉันควรจะต้องเป็นเด็กสาวที่ชินชากับความแก่ชราของพ่อและแม่มากที่สุดด้วยซ้ำไป แต่ฉันรับไม่ได้สักอย่าง
แม่อุ้มท้องฉันด้วยความยากลำบากเพราะภาวะครรภ์ที่มักจะเกิดกับคนมีอายุ เป็นลูกสาวคนเล็กที่แม่หวังจะเลี้ยงไว้คลายเหงา เติบโตมากับชุดพนักงานบริษัทของพี่ชายและชุดรับปริญญาของพี่สาว อยู่จนเคยชินว่านี่คือความปกติธรรมดา ไม่มีภาวะให้ทำใจกับความโรยราและความแก่ชราของพ่อแม่
ตลอดยี่สิบปี ภาพจำคือพ่อและแม่อายุ 50 เสมอและแข็งแรงเกินกว่าใคร เคยชินจนแทบไม่ได้สังเกต ผมป๊าบางลงมากและการบำรุงด้วยน้ำมะนาวเป็นกิจวัตรที่แม่ทำ
ป๊าใส่ฟันปลอมมานานเท่าไรแล้วไม่รู้ แม่ต้องคอยย้อมปิดผมหงอกเดือนละกี่รอบ กลิ่นตัวแปลกไป ผิวกายแห้งเหี่ยว ข้าวของแก่ๆทยอยเข้าบ้าน ความทรงจำหลงๆลืมๆ ปั่นน้ำผักเพื่อสุขภาพผสมมั่วซั่ว กิจกรรมโบร่ำโบราณบ้าง ยาหลังและก่อนอาหารเป็นกำมือ ร่องรอยแห่งกาลเวลาทั้งหมดนั่น ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าทุกครั้งจะเดินนำหน้าแม่เสมอเพราะแม่เดินตามไม่ทันอีกแล้ว ไม่เคยเป็็นกังวลกับจำนวนครั้งของการนอนเฝ้าที่โรงพยาบาลมันเพิ่มขึ้นทุกปี เฉยๆกับการเปลี่ยนหัวเข่าทั้งสองข้างของป๊าเพราะไม่เหลือน้ำหล่อเลี้ยงข้อต่อข้างใน
แก่จริงๆ ในทุกอย่าง แก่เกินกว่าที่จะยอมรับได้
ฉันผลักความจริงทุกประการให้ไกลออกจากตัว และวินาทีนั้นฉันก็นึกถึงเธอขึ้นมา
ฉันมองว่าเธอแข็็งกระด้างสุดแรงเกิด ในตอนที่ปล่อยให้คนอื่นในครอบครัวโปรยผงเถ้ากระดูกพ่อบนผิวน้ำ
เธอเอาตัวออกจากห่างบ้าน เมื่อรู้ว่าพ่อเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว
ไม่รู้เหมือนกันนะดาว ตอนนี้ฉันเหมือนจะเข้าใจเธอขึ้นมาบ้าง
มันยากจริงๆเนอะดาว กับการยอมรับว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้วไม่เหมือนเก่า
เมื่อรู้สิ่งใดไปแล้ว มันก็็จะปรากฏเช่นนั้นตลอดไป ฉันยอมรับไม่ได้แม้แต่นิดเดียวและมืดมนหนทางจะอาศัยอยู่กับมันด้วย
ฉันเอาแต่หลบสายตาไม่เผชิญหน้า เมื่อไรที่วงสนทนาเต็มไปด้วยเรื่องนั้นฉันจะรีบหลีกหนี ไม่เข้มแข็งดังใครว่า ไม่สมกับลูกสาวที่ป๊าสร้างให้เป็็น มันพาลทำให้ฉันไม่กล้าจินตนาการถึงอนาคตแม้อันใกล้ และจำใจเก็บความปรารถนาใดใดของตนไว้เงียบๆ
ไม่รู้จะเสแสร้งยังไงไหว หรือต้องรอให้ลมระลอกใหม่ค่อยๆพัดผ่านไปเรื่อยๆจนหายดี
มันหนักหนาเกินไปที่จะสลัดทิ้้ง หากต้องคอยแบกโถแห่งความโกรธไว้บนหลัง ขณะเดียวกันก็็ต้องผลักความจริงทุกประการออกไปอีก
ฉันมีช่องว่างกลวงๆที่ป๊าเว้นไว้ให้เสมอ ไม่แน่ใจว่านับแต่นี้มันจะถูกถ่างให้กว้างกว่าอีกหลายเท่าหรือบีบแคบลงจนเหมือนไม่เหลือ แต่ฉันเชื่อเหลือเกินว่ามันจะต้องเปลี่ยน
พายุโถมมาเตือนให้จงตระหนักรู้ทุกลมหายใจเข้าออก
พร้อมชะล้างหมากทั้งกระดานที่ฉันเคยวางไว้โดยสกัดกั้นการมีอยู่ของชาติกำเนิดออกไป
เหมือนชีวิตที่แท้จริงของฉันจะเริ่มต้นจากบัดนี้
แด่ปีแสงอีกครั้ง.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in