1. Sleepless in
เป็น intro สั้นๆ เหมือนเสียงซ่าๆ ของทีวีหรือวิทยุที่เปิดค้างเอาไว้ในห้องนอน
เป็นตอนที่คุณกำลังจ้องมันด้วยความว่างเปล่า จะปิดก็กลัวความเงียบและถึงอย่างไร
คุณก็นอนไม่หลับอยู่ดี เป็น intro เบาๆ ที่บรรจุข้อความกรีดใจด้านบน
ข้อความที่บรรจุเหตุผลว่าทำไมคุณถึงยังตาสว่างเอาป่านนี้
2. In Seoul
ถ้าคุณได้ฟังต่อจาก Sleepless in คุณจะพบว่าสองเพลงนี้อาจจะถูกตั้งใจให้เป็นเพลงเดียวกัน
ท่อนเชื่อมนั้นทำให้เพลงนี้พิเศษ พอๆ กับเสียงของ Sunwoo Jung-A ที่มาร่วม feat. ในเพลงนี้
ดนตรีเพราะๆ กับเสียงเย้ายวนของเธอ ทำให้เพลงนี้ฟังแล้วให้ความรู้สึกลอยๆ วิ้งๆ
ของอาการนอนไม่หลับ นึกถึงการหลับตาแล้วถูกโอบล้อมด้วยท้องฟ้าพราวดาว
เพลงนี้พูดถึงความฝันและทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องเสียไปเพื่อคว้ามันมา
และโลกก็ร้ายเหลือเกินที่ทำให้เราต้องเจ็บปวดและหาทางออกจากสิ่งนี้จนเจ็บไปทั้งกายและใจ
ท่อนหนึ่งของเพลงบอกว่า
ความฝันนั้นไม่ใช่สิ่งใดเลยนอกจากความฝัน
แม้ว่าเราจะฝันอยู่ นั่นหมายความว่าเรายังไม่ยอมตื่น
จนกว่าเราจะได้พักผ่อนในความสงบสุขตลอดกาล
หลังจากที่เราเอาชีวิตไปแขวนไว้กับความสำเร็จ
กรีดใจ
3. Lovedrunk
เพลงนี้ถูกเลือกให้เป็นเพลงไตเติ้ล แทร็ก และมี M/V ที่นำแสดงโดยไอยูและจินซอยอน
ตั้งแต่ได้ฟังครั้งแรกก็บอกได้เลยว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่เป็นตัวตนของ Epik High มากที่สุด
Crush คือส่วนผสมที่ดีและลงตัวสำหรับเพลงนี้ เพราะเนื้อเสียงของเขา
สามารถบรรยายความเศร้า ความเหงา และความเจ็บปวดที่อยู่ในเนื้อเพลงได้ดีมาก
เพลงนี้ชื่อภาษาเกาหลีคือ 술이 달다 อ่านว่า ซุลลี ทัลดา ที่แปลว่า เหล้านั้นรสหวาน
มีบทสนทนาหนึ่งจาก documentary เบื้องหลังการทำอัลบั้มของวง
"พวกนายรู้มั้ยทำไมคนถึงพูดกันว่าเหล้ามันหวาน เวลาที่ต้องผ่านช่วงเวลาที่ลำบาก
เพราะว่าชีวิตแม่งโคตรขมไง เหล้าก็เลยหวานไปเลย ใช่ป่ะ?"
เพลงนี้พูดถึงการก้าวผ่านความสัมพันธ์ที่เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยเวลาและความเจ็บปวดมหาศาล
ท่อนหนึ่งของเพลงบอกว่า
บางที ในการลบคุณออกไปจากใจ นั่นหมายถึงการที่ฉันต้องลบตัวเองออกไปด้วย
รวดร้าว
4. Eternal Sunshine
ถ้าคุณฟังเพลงของ Epik High มาพอสมควร คุณจะบอกว่าเพลงนี้แม่งโคตร Epik High เลย
มันคือเพลงของ Epik High แบบที่เราคิดถึง เป็นเพลงที่ทำให้นึกถึงยุครุ่งเรืองของวงนี้
ถ้าไม่ใช่ Epik High ทำเอง เพลงนี้ต้องถูกทำขึ้นมาจากคนที่โตมากับเพลงของ Epik High
และใช่ :) producer ของเพลงนี้ ครั้งหนึ่งเคยเป็นเด็กที่ยอมอดข้าวเพื่อเอาเงินขึ้นรถเมล์
มาอัดเพลง เพราะมี Epik High เป็นแรงบันดาลใจให้อยากเป็น Rapper
SUGA แห่ง วง BTS คือเด็กชายคนนั้นและโปรดิวเซอร์ของเพลงนี้
เป็นเพลงที่มี Beat ที่ดีมาก และขอชมเป็นพิเศษตรงที่การเปิดเพลงที่แสนจะทรงเสน่ห์
ตรงข้ามกับดนตรีที่น่าจะสดใส เพลงนี้พูดถึงความมืดจากความเหนื่อยล้าจากความคาดหวัง
พูดถึงความกดดันที่ถูกส่งผ่านมาจากผู้ใหญ่ สู่วัยที่ควรเต็มไปด้วยความสดใส
แต่กลับต้องมานอนก่ายหน้าผากเดียวดายอยู่ในความมืดของโลกที่ไม่เป็นของตัวเอง
ท่อนหนึ่งของเพลงบอกว่า
บางครั้งฉันเหนื่อยเหลือเกิน
ฉันนอนอยู่บนเตียง อยากจะซ่อนตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่มอยู่อย่างนั้น
เพราะโลกข้างหลังประตูนั่น ช่างมืดมิดยิ่งกว่ากลางคืนเสียอีก
จริง
5. No Diferrent
เพลงนี้เป็นเพลงที่ร้องด้วยภาษาอังกฤษทั้งเพลง
ได้ Yuna มาร่วม Feat. และได้ Code Kunst มาร่วมโปรดิวซ์
Yuna คือความหัศจรรย์ ความโหยหวนอันแสนทรงเสน่ห์ที่ล้อไปกับแรปสบายๆ
เมื่อถูกรวมเข้ากับดนตรี beat ฟุ้งๆ ทำให้เพลงนี้โดดเด่นและสวยงามมาก
เป็นเพลงที่เหมาะกับการ slow dance ไหลเลื่อนลอยไปกับความหมายแสนหวานและแสนขม
คล้ายๆ กับรสชาติของความรักที่ทำให้มันเป็นสิ่งที่น่าจะเอาหัวใจไปลองเสี่ยงดูจริงๆ
ท่อนหนึ่งของเพลงบอกว่า
หัวใจสลาย เป็นสองส่วน
ส่วนหนึ่งฉันเก็บไว้ ส่วนหนึ่งอยู่กับเธอ
อีกครึ่งหนึ่งของเธออยู่กับฉัน
เราไม่ต่างกันสักหน่อย เห็นมั้ย
ใจสลาย
6. Rain Again Tomorrow
ชอบทุกอย่างในเพลงนี้เลย ตกหลุมรักตั้งแต่ melody แรก
เป็น เพลงที่มี beat สไตล์ lo-fi เท่ๆ ที่เหมาะกับ rhyme การแรกของ Epik High
เพลงพูดถึงความกดดันในชีวิตที่ทำให้บางครั้งเราหลงทางอยู่กับพายุความคิด
ท่อนหนึ่งของเพลงบอกว่า
ทะเลแห่งความคิด
ฉันจมลงไป บางครั้งฉันไม่รู้ว่ามันจบลงตรงไหน
ความพิเศษของตรงนี้ยังไม่จบ ขอให้คุณฟังมันต่อถึงเพลงถัดไป
7. Lullaby For A Cat
เพลงนี้เป็นเพลงสุดท้ายของอัลบั้ม เป็นสิ่งสำคัญที่เราย้ำให้คุณฟังอัลบั้มนี้แบบเรียงเพลง
คุณจะพบสิ่งพิเศษ เนื่องจากเพลงนี้มันต่อเนื่องจากเพลง Rain Again Tomorrow
มันคือ lo-fi beat ชิ้นมาสเตอร์พีซที่เราคิดอยากจะฟังแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการฟังเพลงด้านบน
เป็นการขมวดจบอัลบั้มที่ร้ายกาจมาก ร้ายการจจริงๆ!
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in