เนื่องด้วยความที่ช่วงนี้ว่างมากๆแล้วไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยเข้าเน็ตฟลิกซ์ไปค้นพวกซีรี่ส์ที่เคยเก็บเข้าลิสต์ไว้ แล้วก็ไปเจอเรื่องนี้ที่อยู่ในลิสต์มาประมาณเกือบปีแต่ไม่ได้ดูซักที
โอเค เริ่มดูเรื่องนี้แล้วกัน
Peaky Blinders (2013)
เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์จากช่อง BBC Two แต่ทางเน็ตฟลิกซ์ได้นำมาไว้ในนี้แล้ว ตอนนี้มีทั้งหมด 4 ซีซั่น กำลังจะมีซีซั่นที่ 5 เร็วๆนี้!
Peaky Blinders เป็นซีรี่ส์ที่มีความยาวตอนละประมาณ 1 ชั่วโมง โดยทุกซีซั่นจะมีซีซั่นละ 6 ตอน เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากดูซีรี่ส์ที่มีตอนเยอะแยะเป็นมหากาพย์
Peaky Blinders?
คำว่า Peaky Blinders เนี่ย เป็นชื่อของแก๊งนักเลงในเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ อยู่ในช่วงประมาณปลายปี1890 [ แต่ในซีรี่ส์เรื่องนี้ จะเริ่มต้นในปีค.ศ.1919 ]
ลักษณะเด่นของกลุ่มพีคกี้ไบลน์เดอร์สนั่นก็ตามชื่อเลย
Peaky ที่หมายถึงหมวกพีคกี้ และ Blinders ที่หมายถึงใบมีดโกน ซึ่งสมาชิกในกลุ่มนี้ ก็จะใส่หมวกพีคกี้ที่ติดใบมีดโกนไว้บริเวณปีกหมวกด้านหน้า ถือเป็นอาวุธลับประจำแก๊งกันเลยทีเดียว
และในส่วนของเครื่องแต่งกาย ทุกคนจะใส่สูทตามแบบฉบับผู้ดีเมืองอังกฤษ และสวมเสื้อคลุม ซึ่งเรารู้สึกว่ามันเท่มากๆเมื่อนำมารวมกับบริติชสำเนียงเบอร์มิงแฮม ฟังยากแต่ก็เท่สุดใจ
ก่อนอื่นจะต้องขอแนะนำตัวละครหลักๆในเรื่องนี้
ตระกูลเชลบี้
สามพี่น้อง
อาเธอร์ เชลบี้ (ซ้าย) / Paul Anderson
โธมัส เชลบี้ (ขวา) / Cillian Murphy — พระเอก
จอห์น เชลบี้ (กลาง) / Joe Cole
โดยสามคนนี้จะเป็นตัวหลักเวลาที่พีคกี้ต้องออกไปทำภารกิจนอกสถานที่ เป็นสามพี่น้องที่น่ากลัวไม่หยอกเลย
แต่ตระกูลเชลบี้ไม่ได้มีพี่น้องแค่สามคนนี้เท่านั้น
ตระกูลเชลบี้ยังมี
เอด้า เชลบี้ / Sophie Rundle
เอด้าเป็นน้องสาวที่ใจเด็ดมาก ดูไม่ค่อยจะลงรอยกับพี่ซักเท่าไรแต่ก็เป็นคนที่แคร์ครอบครัวมากๆคนนึงเลย
Finn Shelby / Harry Kirton
ฟินน์นี่นับว่าอายุน้อยที่สุดในตระกูลเชลบี้รุ่นนี้เลยก็ว่าได้ เป็นน้องน้อยนั่นเอง ด้วยความที่อายุห่างกับพวกพี่ๆมากๆก็เลยทำให้ฟินน์ไม่ได้ออกไปทำภารกิจแบบพวกพี่ๆเขา
และจะขาดคนนี้ไปไม่ได้ ตัวจี๊ดของตระกูล
Polly Shelby / Helen McCrory
โดยป้าโพลเนี่ยจะเป็นคนดูแลกิจการของเชลบี้ทั้งหมดในช่วงที่ทอมมี่/อาเธอร์/จอห์น ไปเป็นทหารที่ฝรั่งเศส และความที่ป้าโพลเป็นผู้อาวุโสในตระกูล เลยถือว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่มีอิทธิพลมากๆกับตระกูลเชลบี้ และคอยเป็นคนที่ให้คำแนะนำต่างๆกับทอมมี่ที่เป็นหัวหน้าแก๊งมาโดยตลอด [ ตัวละครนี้คุณเฮเลนแสดงออกมาได้ดีมากๆ ]
ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจว่าเราจะดูหนังแนวเล่าเรื่องแนวสังคมประวัติศาสตร์การเมืองแบบนี้ได้รู้เรื่องหรือเปล่า แต่ Peaky Blinders ก็สามารถทำให้เราดูได้อย่างไม่มีติดขัดเลยแม้แต่น้อย
ตัวละครหลักของเรื่องนี้เรารู้สึกว่าทุกคนมีความน่ากลัวอยู่ในคาแรคเตอร์ทั้งหมด และเราจะขอพูดถึงตัวละครที่เราชอบมากๆ
ทอมมี่
จะไม่พูดถึงพระเอกเลยก็คงไม่ได้ ทอมมี่มีความน่ากลัวที่หมายถึงการเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ เป็นคนที่ไม่กลัวตาย เป็นคนที่ถ้าแผนที่หนึ่งร้อยของเขาพังไม่เป็นท่า เขาก็จะยังมีแผนที่หนึ่งร้อยหนึ่ง เป็นคนที่แข็งแกร่งทั้งบู๊และบุ๋น มีความเด็ดเดี่ยวและมีความฉลาดหลักแหลม เป็นคนเจ้าเล่ห์ที่สามารถมีกลยุทธ์มาทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องยอมแพ้อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง ไม่แปลกใจเลยที่ทอมมี่จะได้เป็นหัวหน้าแก๊ง
อาเธอร์
ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่เรากลัวมากๆ ไม่ใช่กลัวแบบผวา แต่เป็นกลัวที่หมายถึงเราไม่รู้ว่าปีศาจกลืนกินเขาไปมากขนาดไหน
ถ้าทอมมี่คือสายใช้ความคิด อาเธอร์ก็คือฝ่ายใช้กำลังอย่างสุดโต่ง
อาเธอร์เปรียบเสมือนเป็นมือสังหารประจำตระกูล ถ้าพูดถึงเรื่องเหนี่ยวไกคนที่ตระกูลนี้หมายหัว ต้องอาเธอร์เท่านั้นที่เป็นคนลงมือตามธรรมเนียมของเชลบี้
และอาเธอร์มีปัญหาเกี่ยวกับสภาวะผวาหลังสงคราม ทำให้เขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ นั่นทำให้เขาน่ากลัวมากขึ้นเมื่อต้องใช้กำลัง เพราะจะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้เลย
จอห์น
จอห์นดูเหมือนจะไม่ค่อยมีอะไรให้น่าเกรงขามอย่างพี่ๆทั้งสองคน แต่ก็ถือว่าขาดไม่ได้เลยในการทำหน้าที่ของพวกเขา จอห์นและอาเธอร์จะถนัดด้านการใช้กำลัง ตามคำสั่งของทอมมี่ และจอห์นเป็นคนที่ไม่กลัวใคร
นับว่าเป็นตัวละครที่มีความกวนประสาทอยู่ไม่น้อยเลย ด้วยท่าเดินที่มันนักเลงมากๆและการคาบไม้จิ้มฟันไว้ในปากตลอดเวลา
ป้าโพล
ตัวละครนี้เป็นตัวละครที่เรียกได้ว่าเป็นแม่มดจริงๆ ด้วยความที่ตระกูลเชลบี้เป็นยิปซี ป้าแกเลยมีสิ่งที่คล้ายๆกับแม่มดเช่นการอ่านอะไรก็แล้วแต่จากกากชา การที่สามารถรับรู้ได้ถึงความคิดความต้องการของฝ่ายตรงข้าม และการอ่านเกมของทุกคนออก
อาเธอร์ที่ว่าไม่รู้จะระเบิดลงตอนไหน ทอมมี่ที่ไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรไว้ในหัวบ้าง ก็ยังไม่น่ากลัวเท่าป้าโพลที่โผล่มาแค่รอยยิ้มมุมปากก็ทำให้ฝ่ายตรงข้ามผวาไปทั้งตัว เป็นคนที่ประมาทไม่ได้แม้แต่นิดเดียว
เป็นตัวละครที่เรารู้สึกว่าฉลาดมากๆ ตัวของทอมมี่เองฉลาดอยู่แล้ว แต่ถ้ายิ่งได้ป้าโพลคอยสนับสนุน ก็ยิ่งทวีคูณความน่ากลัวของพีคกี้มากขึ้นไปอีก
ภาพรวม
ตอนเริ่มดูครั้งแรกเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าเห้ย นี่มันสุดยอดมาก เป็นซีรี่ส์ในยุคประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ดูน่าเบื่อเลย แถมยังสมจริงมากอีกด้วย ทั้งฉากแล้วก็ตัวละคร การใช้คำพูดของนักแสดง ทำให้เรารู้สึกว่าเรากำลังอยู่ในยุคนั้นจริงๆ
โทนสีของเรื่องที่ให้ความรู้สึกลุยๆเท่ๆแบบแก๊งมาเฟียที่ทุกคนในเมืองก็ให้ความเกรงใจ ตัวละครทุกตัวที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง
และเราพูดเลยว่า เราชอบซีรี่ส์เรื่องนี้มากๆตั้งแต่ตอนที่เริ่มดูอีพีแรก เพราะรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายความเป็นเมืองอังกฤษ ดนตรีอินดี้ร็อคของวงดนตรีจากประเทศอังกฤษที่มีจังหวะหนักๆแต่ไม่หวือหวา มันยิ่งส่งให้ตัวเรื่องน่าลุ้นและน่าติดตามมากขึ้น
ในส่วนของเนื้อเรื่องที่ไล่ระดับจากปัญหาต่างแก๊งไปจนถึงการเข้าไปมีส่วนร่วมในการเมืองระดับชาติ ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีมากๆและยังพูดถึงเหตุการณ์และบุคคลในประวัติศาสตร์ที่มีตัวตนจริงๆในยุคนั้นด้วย
และยิ่งดูไปจนถึงซีซั่นล่าสุด ก็ยิ่งมีความร้อนระอุมากกว่าเดิมเพราะปัญหาที่เคยสร้างไว้ในซีซั่นแรกๆก็ได้ตามมารังควานตระกูลเชลบี้อย่างไม่จบไม่สิ้น
ซีซั่น 4 ที่เป็นซีซั่นล่าสุดในตอนนี้เรารู้สึกว่าเนื้อหามันเข้มข้นมาก มันคือการแก้แค้นของตระกูลสองตระกูลที่ไม่มีใครยอมใคร
แล้วแต่ละคนก็มีแผนซ้อนแผน รู้ทันแต่ละแผนของฝ่ายตรงข้ามกันทั้งหมด เลยทำให้อยากรู้ว่าในตอนสุดท้ายสงครามนี้มันจะจบลงยังไง
แถมในระหว่างการแก้แค้น ก็ยังมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะมีการประท้วงหยุดงานของพวกฝ่ายแรงงาน ก็ต้องแยกไปแก้ปัญหาอีกประเด็นนึง
ถ้าใครที่ช่วงนี้กำลังหาอะไรดูแก้เบื่อที่มันไม่สั้นและไม่ยาวมากเกินไปแถมยังมีเนื้อหาเข้มข้น เราก็ขอแนะนำซีรี่ส์เรื่องนี้ให้เป็นอีกเรื่องนึงที่ทุกคนควรดูเลยนะ
****ซีรี่ส์เรื่องนี้มีการใช้ความรุนแรงอย่างโหดเหี้ยมอยู่บ้างในบางตอน และฉากเซกส์ที่สมจริงมากเช่นกัน เพราะฉะนั้นถ้าใครไม่ค่อยชอบซักเท่าไรก็อยากให้ลองพิจารณาดูอีกทีค่ะ****
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in