เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
[BTS Fanfic ] OS/SF collectionMacbeth1995
[SF] Back to December;1/??(Jijin)

    • [ Fanfic BTS ]
    • Gengre : OmegaverseAU!|Supernatural|Soft Drama |
    • Pairing : Jijin l Park Jimin*KimSeokjin l
    • Rate : PG
    • Note: ฟิคเรื่องนี้เขียนโดยอ้างอิงโอเมก้าเวิร์สและsupernatural(สิ่งที่อยู่เหนือธรรมชาติ) โดยในเรื่องกล่าวถึงสังคมของมนุษย์หมาป่าที่อยู่กันอย่างลึกลับและกลมกลืนไปกับสังคมมนุษย์ พวกเขาจะไม่เปิดเผยตัวต่อมนุษย์มากนักหากไม่จำเป็น พวกเขาปกครองกันด้วยระบบชนชั้นอัลฟ่า,เบต้า,และโอเมก้า การรวมกลุ่มกันหมาป่าจะแบ่งตามเขตที่อยู่ ซึ่งเรียกว่า 'ฝูง' และ ถูกนำโดย 'จ่าฝูง'  โดยผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ส่วนมากมักจะเป็นอัลฟ่า (บางฝูงก็มีเบต้าเป็นจ่าฝูง)   ตำแหน่งจ่าฝูงส่วนมากมักจะถูกเลือกจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด แต่บางฝูงก็ใช้การสืบทอดทางสายเลือด 

                                                                                                                                                                    









    กลิ่นของน้ำแข็ง,ไอเย็นที่กัดกินเนื้อไม้สนของป่าดำ เคล้าผลไม้สุกงอมสีแดงสด บางครั้งกลิ่นนั้นก็ปะทุ ระเบิดออก เสียดสีกับอากาศเย็นๆจนเกิดเป็นกลิ่นเถ้ารุนแรง

    กลิ่นที่ทำให้ฝูงของสัตว์ร้ายต้องยอมสยบแทบคมเขี้ยวนั้น

    กลิ่นของอัลฟ่า,กลิ่นของ ' จ่าฝูง '  

    กลิ่นของพัคจีมิน





    นัยน์ตาตากลมสีฟ้า,สีที่คล้ายสีของน้ำแข็งในฤดูเหมันต์ สะท้อนภาพของจันทร์เสี้ยวและจักรวาลยามค่ำคืนผ่านบานหน้าต่าง แก้มยุ้ยของทารกนั้นแดงปลั่งเพราะอากาศหนาวเย็นติดลบข้างนอกนั่น คนอุ้มมองทารกน้อยในอ้อมแขนพลันนึกมันเขี้ยวแก้มนุ่มนิ่มนั่นจนต้องฝังกดปลายจมูกลงแรงๆสักครั้ง จนเด็กน้อยร้องออแอประท้วงด้วยภาษาเด็ก 

    “อะไรกัน นี่อัปป้าหอมเราไม่ได้เหรอหืม?”

    ‘ซอกจิน’เลิกคิ้วถาม มองลูกน้อยที่นอนมองตาแป๋วในอ้อมแขน เจ้าลูกหมาน้อยร้องออแอกลับมา มือป้อมๆโบกไปมาในอากาศ ซอกจินมองภาพนั้นด้วยสายตาที่อ่อนโยน และจรดริมฝีปากจุมพิตที่ขมับน้อยๆของลูกอย่างนิ่มนวล

    “พูดเยอะจริงๆเลยนะ จองกุกกี้ของอัปป้าเนี่ย”

    อัปป้าของจองกุกกี้หัวเราะเบาๆ กระชับอ้อมกอดก่อนพาลูกน้อยกลับไปที่เตียงกว้าง คืนนี้อากาศค่อนข้างหนาวเย็นเป็นพิเศษ ทุกอย่างข้างนอกบ้านดูราวกับถูกสีขาวของหิมะกลืนกินจนขาวโพลนไปหมด ซอกจินเลยพาจองกุกมานอนด้วยกันบนเตียง เสียงหวานๆของซอกจินกำลังกล่อมเด็กน้อยตัวป้อมให้ค่อยๆจมสู่ห้วงนิทรา นัยน์ตากลมแบบลูกกวางน้อยปรือปรอยจะหลับแหล่มิหลับแหล่แต่พยายามจะลืมตาให้ได้มากที่สุดเพราะยังไม่ยอมนอน ซอกจินถอนหายใจยิ้มๆ 

    แหงล่ะ เจ้าลูกคนนี้ติดอัปป้าอีกคนอย่างเสียกระไรดี 

    อัปป้าอย่างซอกจินชักจะน้อยใจนิดๆแล้วสิ ซอกจินมองเด็กน้อยที่พยายามลืมตาต่อสู้กับความง่วงจนกระทั่งเปลือกตานั้นปิดพริ้มสนิท พุงน้อยกระเพื่อมขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ซอกจินคลี่ยิ้มบาง กดจูบที่แก้มนุ่มนิ่มพลางกระซิบแผ่วๆว่ารักเบาๆ ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้อย่างระวังเพราะไม่อยากปลุกเจ้าตัวเล็ก
    ซอกจินเหลือบมองนาฬิกาบนผนัง เข็มยาวบนผนังบอกเวลาว่าเกือบจะสามทุ่มแล้ว แต่สามีของเขาก็ยังไม่กลับมาเสียงที 

    จีมินไปประชุมฝูง 

    ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็คงดี

    ซอกจินคิดแบบนั้นตอนที่กลุ่มก้อนสีขาวเริ่มร่วงหล่นจากท้องฟ้าสีเข้มอีกครั้ง ย้อมทุกอย่างให้กลายเป็นสีขาวโพลน สีขาวของความทรงจำของผลึกน้ำแข็ง ความทรงจำของซอกจินและจีมิน







    เดือนธันวาคือเดือนที่หนาวที่สุดของปี แต่ก็เป็นเดือนที่ท้องฟ้านั้นสวยที่สุดเช่นกัน

    บางครั้งเขาก็ชอบเงยหน้ามองท้องฟ้า ก้อนเมฆปุกปุยเหมือนสายไหมทำให้ท้องฟ้าดูนุ่มนวลมากขึ้นบางครั้งเขาก็เผลอเอื้อมมือขึ้นไปในอากาศ นัยน์ตากลมสีเข้มเป็นประกายราวกับจะไขว่คว้าพวกมัน ซอกจินในครั้งวัยเยาว์ช่างไร้เดียงสายิ่งนัก แต่พอได้ลองตรึกตรองความจริงแล้วมันช่างน่าหัวเราะ  เพราะตอนนี้มือที่เอื้อมเหนือศีรษะไปสู่ฟ้ากว้างนั้นหมายจะไขว่คว้าอิสระมา แทนที่จะเป็นสายไหมปุกปุยนั่น ในตอนที่ซอกจินอายุสิบแปดปี ซอกจินคิดเช่นนั้น มือถูกยกค้างไว้ในอากาศ เมื่อความจริงตรงหน้ามันช่างหนักอึ้งยิ่งกว่าโลกทั้งใบเสียอีก เพราะซอกจินเป็นลูกชายของจ่าฝูง ภาระที่ต้องสืบทอดตำแหน่งจ่าฝูงนั้นสำคัญกว่า ซอกจินรู้ดีว่าเขาน่ะ ไม่เหมาะกับการเป็นผู้นำเลย 


    แต่ไม่เป็นไร เพื่อทุกคน ซอกจินก็คิดว่าเขาน่าจะทำได้


    ความจริงมาปรากฏตรงหน้าซอกจินอย่างไม่ทันตั้งตัวเมื่ออายุครบ15ปี 


    อาการฮีทของเขาเริ่มต้นขึ้น มันทำให้ฝูงของเขากระสับกระส่าย มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตระกูลของเขา ตระกูลคิมไม่เคยมีโอเมก้าเกิดขึ้นมาก่อน ตระกูลของซอกจจินนั้นเป็นจ่าฝูงมาหลายชั่วยุคสมัย ตระกูลคิมที่ปกครองเขตทะเลสาบจันทร์เสี้ยว ทุกคนในฝูงมองซอกจินเหมือนตัวประหลาด 


    คนเฒ่าคนแก่ต่างพร่ำว่ามันคือกาลกิณี 

    ทุกคนล้วนหันหลังให้ซอกจิน 


    ซอกจินที่เคยเป็นที่รักใคร่ เอ็นดู ถูกเลี้ยงดูฟูมฟักอย่างดีเพราะเป็นนายน้อยของฝูงตอนนี้กลายเป็นแค่ภาระที่แสนอ่อนแอ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ซอกจินที่ไม่เคยเตรียมใจรับเรื่องนั้นมันทำให้เขารู้สึกหายใจติดขัด อยากอาเจียน,ตัวตนของเขาถูกปัดทิ้ง มันกระเด็นลงบนพื้นเย็บเหยียบ ปริร้าว ถูกเหยียบซ้ำ แหลกสลายไม่มีชิ้นดี ซอกจินหวาดกลัวสายตาของผู้คนตั้งแต่นั้น ทุกครั้งที่ถูกจ้องมองซอกจินจะก้มหน้า หอบหายใจแรง ก้อนเนื้อในอกสูบฉีดเลือดมากขึ้นจนชีพจรเต้นเร็วจนเจ็บร้าวไปทั้งอก ร่างกายจะเริ่มสั่นระริกอย่างควบคุมไม่ได้


    เด็กหนุ่มปฏิเสธทุกอย่างรวมทั้งตัวเอง และปล่อยให้ตัวเองแหลกสลายไปทั้งแบบนั้น



    'ไม่เป็นไร ซอกจิน

    พ่อจะปกป้องลูกเอง '



    แต่อ้อมแขนแข็งแกร่งของพ่อ น้ำหนักและน้ำเสียงอบอุ่นยิ่งกว่าฤดูใบไม้ผลิ ขอบตาของซอกจินร้อนผ่าว ซอกจินร้องไห้ออกมาพลางกอดบิดาแน่น ราวกับชิ้นส่วนที่เคยปริร้าวนั้นถูกประกอบขึ้นใหม่อีกครั้ง แม้มันจะยังคงไม่หายและเหลือร่องรอยไว้ก็ตาม


    ซอกจินสัญญาว่าจะเข้มแข็งขึ้น 'ปลอกคอ' ถูกสวมตั้งแต่วันนั้น มันก็เหมือนโซ่ที่ล่ามซอกจินไว้กับความอ่อนแอของตัวเอง


    ความอ่อนแอที่ฉุดเขาลงยังก้นทะเลสาบจันทร์เสี้ยว แช่แข็งซอกจินไว้ไปพร้อมๆกับความเจ็บปวด ห้าปีที่ก้นทะเลสาบน้ำแข็งแสนหนาวเหน็บ,ไร้ซึ่งสิ่งใดนอกจากเขา  ซอกจินเคยคิดว่าหัวใจของเขาอาจจะด้านชาแลอาจจะเข้มแข็งมากพอที่จะสู้กับสายตาของคนในฝูงได้แล้ว แต่เวลาห้าปีนั้นกลับไม่ช่วยอะไรเขาเลยแม้แต่น้อย สายตาที่มองเขาราวกับเป็นสิ่งแปลกประหลาดยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดบนโลกยังคงเหมือนเดิม สายตาที่มองว่าซอกจินเป็นคนนอก สายตาที่มองว่าเขาน่ารังเกียจขนาดไหน มันทำให้ซอกจินรู้สึกอยากอาเจียนออกมาอีกครั้ง 

    แต่แล้วความอ่อนแอก็ผลักดันให้ซอกจินมีความกล้าที่แปลกประหลาด ความรู้สึกแรงกล้าที่ชักนำคิมซอกจินที่ไม่เคยย่างกายออกจากเขตทะเลสาบจันทร์เสี้ยวไปที่อีกฝั่งของทะเลสาบนั้น ไปยังส่วนที่โค้งที่สุดของมัน 


    มันฉุดกระชากหัวใจของซอกจินให้หนีไปจาก ความจริง ของตัวเองไกลแสนไกล


    จังหวะเปลี่ยนจากย่างก้าวเป็นเดิน,จากเดินเป็นวิ่ง จนกระทั่งซอกจินแปลงเป็นร่างของสัตว์เดรัจฉาน,ร่างของหมาป่าสีขาวสะอาด มันเหลียวกลับมามองทะเลสาบจันทร์เสี้ยวของมันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะไม่หันกลับมามองอีกเลย.






    ซอกจินจำไม่ได้ว่าตัวเองวิ่งมานานขนาดไหน หรือไกลแค่ไหน
    แต่มันคงมากพอที่จะทำให้ขาล้า ซอกจินหอบหายใจกอบโกยเข้าสู่ปอด ลึกมากพอที่จะทำให้ไอเย็นเสียดแทงในปอดจนเจ็บไปหมด เขากวาดสาดตามองรอบๆ  สีของไม้สนดำตัดพาดผ่านหิมะสีขาวรอบๆ ทุกอย่างรอบตัวล้วนเป็นสีขาวและดำ ไร้ซึ่งเสียงใดนอกจากเสียงลมหายใจและเสียงย่ำหิมะของซอกจิน 


    เขาอยู่ที่ไหน?


    ซอกจินเม้มปาก เขาไม่รู้จักที่อื่นนอกจากทะเลสาบจันทร์เสี้ยวของเขา ซอกจินจำได้ว่าเขามุ่งหน้าขึ้นทางเหนือ พยายามหลีกเลี่ยงเขตของฝูงอื่น ถ้าหากซอกจินหลงเข้าเขตของฝูงอื่น มิแคล้วถูกฆ่าตายอย่างแน่นอน ยกเว้นเสียแต่ซอกจินจะโชคดีพบกับฝูงที่ใจดีพอที่จะรับโอเมก้าเช่นเขาเข้าไปอยู่ แม้โอกาสมันจะน้อยนิดก็ตามที แต่เมื่อพิจารณาจากต้นสนสีดำโดยรอบแล้ว ซอกจินน่าจะกำลังหลงอยู่ในเขตป่าสนดำ  


    'เขตป่าสนดำ'  ซอกจินเคยได้ยินมาว่าฝูงที่นี่ไม่มีระบบสืบต่อตำแหน่งจ่าฝูงโดยสายเลือด แต่คัดเลือกจากผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น ป่าเถื่อน มันคือคำนิยามของที่นี่


    ความวิตกกังวล ความกลัวและความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดระยะทางที่เดินมาผสมปนเปกันไหมด, มันทำให้ซอกจินไม่ทันระวังตัว ซอกจินก้าวพลาด ตรงนั้นคือพื้นที่ว่างเปล่า หัวใจของซอกจินวูบหล่น ก่อนที่ร่างกายจะถูกแรงดึงดูดของโลกฉุดให้ร่วงหล่นสูงเบื้องล่างในเสี้ยววินาที

    วินาทีแรกซอกจินรู้สึกว่าแผ่นหลังเขาอยู่บนพื้นแข็งๆ วินาทีถัดมาความเจ็บนั้นแล่นปลาบไปทั่วร่างจนต้องร้องครวญออกมา ซอกจินไม่แน่ใจนักว่าเขาชาเพราะความเย็นของหิมะหรือว่าเพราะความเจ็บกันแน่ ไม่นานนักจมูกก็รับรู้ถึงกลิ่นสนิมจางๆที่ปะปนกับไอเย็นบาดผิว ซอกจินลืมตาขึ้นก้อนค่อยๆกวาดสายลงไปยังตำแหน่งที่รู้สึกเจ็บมากที่สุด ธารสีแดงข้นกำลังย้อมหิมะให้ละลาย  ฟันคมขบริมฝีปากอิ่มกลั้นก้อนสะอื้นลงลำคอ เพราะความประมาทเลินล่อของตัวเองถึงได้พลัดตกลงมาจากเนินสูง เด็กหนุ่มไม่แน่ใจนักว่าถูกอะไรบาดเข้าที่ต้นขา แต่มันก็ลึกพอตัวจนเลือดนั้นไหลซึมออกมาไม่หยุด ซอกจินสูดลมหายใจเข้าลึกๆรวบรวมสติที่กระจัดกระจายเพราะความตกใจให้กลับมา พยายามยันตัวลุกขึ้นแต่ไร้ผลเมื่อเขาไม่สามารถวางข้อเท้าได้เลย จึงพอจะอนุมานได้ว่าตอนนี้ข้อเท้าของเขาคงจะแพลงไปแล้วเช่นกัน

    ซอกจินกัดฟัน หยัดตัวลุกขึ้นอีกครั้ง ความเจ็บปวดนั่นแล่นปลาบจากบาดแผลเข้าสู่สมอง ซอกจินร้องครวญอย่างเจ็บปวดออกมาสุดเสียง เจ็บจนซอกจินน้ำตาไหล เด็กหนุ่มทำได้แค่นอนลงกับกองหิมะ ภาวนาให้ใครสักคนมาพบเข้าก่อนที่จะค่ำ 


    แต่ใครจะมาพบเขากันล่ะ? ถึงพบเข้าแล้วยังไงต่อ? เขาจะยอมช่วยซอกจินรึเปล่า? 

    ซอกจินก็แค่ 'โอเมก้า'  

    เขาแค่นหัวเราะ หลับตาลงนอนรอความตายที่พร้อมจะเข้ามากลืนกินร่างกายของเขา ความตายมันเงียบสงบแบบนี้เองสินะ? มันว่างเปล่า ไม่มีอะไรต้องกังวลและคิดถึง ไม่ช้าความรู้สึกทุกอย่างจะหยุดลง และซอกจินก็จะหายไป


    "คุณ"

    "ไหวรึเปล่า?"


    ซอกจินลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนที่จะสบเข้าพอดีกับเจ้าของนัยน์ตาสีเข้ม สีที่เหมือนเปลือกไม้สนดำของป่านี้






     
    ซอกจินไม่รู้ว่าตัวเองนั้นหลับไปนานแค่ไหน,รึถูกพามาที่นี่ได้อย่างไร สิ่งที่รู้เพียงแค่ว่าเขาตื่นมาเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องนอนของใครสักคน ข้าวของในห้องทุกอย่างถูกจัดวางและดูแลอย่างดี เหมือนใหม่ แต่มันก็ยังทิ้งร่องรอยของกลิ่น ไว้จางๆยามซอกจินหันหน้าเข้าซุกหมอน กลิ่นของเปลือกไม้สนดำ มันกลั้วกลิ่นไอเย็นและผลไม้บางอย่าง มันหอมหวาน แม้จะมีกลิ่นเถ้าตีขึ้นมาให้เสียดจมูกเคล้าจางๆในตอนท้ายก็ตาม 

    ซอกจินคิดว่า ซอกจินชอบกลิ่นนี้ มันทำให้ซอกจินรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมก็ตาม 

    ซอกจินติดในใจกลิ่นนั้นเล็กๆในขณะที่ครุ่นคิดถึงมัน เฝ้าค้นหาอะไรบางอย่างจากเพดานไม้เหนือศีรษะ ใคร่ครวญ เฝ้าคะนึงหาถึงมัน แต่เพราะพิษบาดแผลมันทำให้ซอกจินต้องพักผ่อน ซอกจินจมสู่ห้วงนิทราไปพร้อมปริศนาของกลิ่น ปริศนาที่ทำสลักลงในห้วงคำนึงโดยไม่รู้ตัว 


    ".....ยังไม่ตื่นอีกเหรอ?"


    เสียงพึมพำแผ่วๆและฝ่ามือร้อนจัดของใครสักคนแตะสัมผัสเข้าที่แก้มเย็นของซอกจิน สัมผัสนุ่มนวลเนิบนาบที่ไล้กรอบใบหน้าทำให้คนที่กำลังจมในห้องนิทรามืดนิรันด์รู้สึกตัวตื่น เปลือกตาสั่นไหวก่อนปรือขึ้นช้าๆ ปรากฏเค้าร่างแสนคุ้นตา ซอกจินกะพริบตาซ้ำๆปรับภาพตรงหน้าให้ชัดเจนมากขึ้น 

    อีกฝ่ายดูตัวเล็กกว่าซอกจินสักราวๆห้าเซนติเมตรได้ ร่างกายไม่ได้ดูใหญ่โตมากนัก แต่กำยำแม้ว่าร่างกายของอีกฝ่ายจะถูกคลุมทับด้วยเสื้อคลุมไหมพรมสีขาวแดง เรือนผมสีดำถูกเสยขึ้นเปิดใบหน้าเรียวให้สบกับนัยน์ตาเรียวคม

    นัยน์ตากลมของเขาสบกับนัยน์ตาเรียวสีเข้ม สีของเปลือกสนดำที่มองสบมาก่อนหน้า อีกฝ่ายดูงดงามเหมือนไม่มีอยู่จริงเมื่อถูกแสงจันทร์ฉาบร่างเพียงด้านเดียว บรรยากาศของที่ห้อมล้อมรอบตัวอีกฝ่ายดูสงบ เยือกเย็น สงัดเหมือนป่าสนดำนั่นล่ะ บรรยากาศเงียบจนน่าอึดอัดเมื่อพวกเขาเอาแต่สบตา ไม่มีการเคลื่อนไหว ไร้ซึ่งคำพูด มีเพียงเสียงลมหายใจกับสัมผัสจากปลายนิ้วกร้านที่เกลี่ยแก้มเย็นของซอกจินเป็นบทสนทนา มุมปากของบุคคลปริศนายกยิ้มขึ้นเล็กๆ เป็นรอยยิ้มเล็กๆที่ซอกจินได้รับจากคนตรงหน้า สัมผัสเล็กๆน้อยๆนั่นทำให้หัวใจอุ่นวาบอย่างน่าประหลาด เป็นสัมผัสที่แสนคุ้นเคยที่หายไปนานมากแล้ว


    นานจนซอกจินแทบจะจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่ได้จากคนอื่นนอกจากครอบครัวเป็นเช่นไร


    พัคจีมิน นั่นคือชื่อของบุคคลปริศนาที่ช่วยเขาไว้


    ซอกจินค้นพบว่าอีกฝ่ายอ่อนกว่าเขาประมาณสองปีได้ เจ้าตัวอายุเพียงสิบแปดปี เป็นมิตรและอ่อนโยน ขัดกับภาพลักษณ์ที่น่าเกรงขาม สงบนิ่ง และดุดัน แต่เจ้าตัวก็มักจะส่งรอยยิ้มเล็กๆที่ทำให้ซอกจินเผลอโอนอ่อนไปกับความอ่อนโยนที่จีมินมอบให้เมื่อปลายนิ้วกร้านเกลี่ยมุมปากที่เลอะให้ซอกจินอย่างนุ่มนวล 'ปากเลอะแล้วครับฮยอง '  จีมินว่าแบบนั้นพลางกลั้วหัวเราะ มันทำให้ซอกจินเขินอายจนต้องก้มหน้าคางเกือบชิดอกเมื่อถูกปฏิบัติราวกับเด็กกว่าเสียเอง ทุกอย่างที่คนเด็กกว่าทำให้มันทำให้เขาหมดซึ่งความหวาดระแวงและความกลัวจนหมดสิ้น จีมินอาศัยอยู่ในฝูงหมาป่าที่ในเขตป่าสนดำตามที่เขาคาดไว้ จีมินเป็นมิตรแต่ก็รักสันโดษกว่าที่คิด ถึงได้มาอาศัยอยู่ที่นี่คนเดียว


    "เมื่อก่อนผมก็เคยมีครอบครัว"

    "แล้วตอนนี้?"

    "ตายหมดแล้วครับ"


    จีมินเล่าในขณะที่เติมฟืนเข้าเตาผิง ซอกจินเงียบไป พวกเขานั่งมองเปลวไฟที่กำลังลุกโชจน์ช่วงราวกับเป็นสิ่งบันเทิงเดียวในบ้านหลังใหญ่ของจีมิน เสียงปริแตกของเปลือกไม้เมื่อกองไฟถอนหายใจเอาเถ้าถ่านและสะเก็ดของมันปลิวขึ้นไปตามปล่องอิฐแดง ความร้อนแผ่ออกมาให้ความอบอุ่นแก่พวกเขาที่นั่งขลุกกันอยู่กับพื้นในคืนที่อากาศหนาวเย็นที่สุด ซอกจินลอบมองเสี้ยวหน้าของจีมิน สีหน้าที่ราบเรียบ ไร้ซึ่งอารมณ์ ไม่มีแม้กระทั่งความเศร้าโศกออกมา มันทำให้ขอบตาของซอกจินร้อนผ่าว ซอกจินเอนศีรษะลงสบลาดไหล่ที่เล็กกว่า หวังแค่ว่ามันอาจจะเพิ่มความอบอุ่นหรือซึมซับบาดแผล บรรเทาบาดแผลความโดดเดี่ยวของจีมินลงบ้าง แม้กลายเป็นว่าแรงบีบของมือที่เล็กกว่าของจีมินนั้นกำลังปลอบประโลมซอก  จินเสียเอง ปลายนิ้วที่กำลังเกลี่ยหลังมือเนียนด้วยน้ำหนักและจังหวะที่สม่ำเสมอคล้ายกับจะบอกว่า
    ไม่เป็นไร  ซอกจินหลับตาลง ภาวนาให้ฤดูหนาวในหัวใจของพวกเขาหายไปโดยไว

    อาจเป็นเพราะพวกเขามีบาดแผลแบบเดียวกัน พวกเขาสูญเสียสถานที่ที่มีตัวตนของตัวเองไป

    หมาป่าสีขาวและสีดำจึงต้องคอยเลียบาดแผลให้กันและกัน







    'จินฮยองอยู่ที่นี่ได้ตราบเท่าที่ต้องการนะครับ'


    จีมินเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบเมื่อไฟได้มอดดับลงไป และซอกจินก็แค่พยักหน้ารับ 

    คืนนั้นพวกเขานอนเบียดกันบนเตียง ทั้งๆที่ปกติจีมินมักจะไปนอนอีกห้องหนึ่ง อาจจะเป็นเพราะประโยคคำถามก่อนหน้าที่ซอกจินพอจะรู้ถึงนัยยะบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ดังนั้นพวกเขาถึงเริ่มปฏิสัมพันธ์กันอย่างง่ายๆเพื่อความคุ้นเคย เมื่อแผ่นหลังชนกัน แนบชิดสนิท แบ่งปันไออุ่นเพื่อให้ร่างกายจดจำทั้งอุณหภูมิและจังหวะชีพจรที่เริ่มแปลกไป พวกเขาเงียบ ไร้ซึ่งบทสนทานา 

    จนกระทั่งเอวเพรียวของซอกจินถูกวงแขนอบอุ่นกอดรัดเข้า ซอกจินปิดเปลือกตาแน่นเมื่อลมหายใจร้อนเป่ารดกกหู เสียงกระซิบแผ่วๆดังขึ้นริมหู ซอกจินรู้สึกปั่นป่วนไปหมดเมื่อทุกอย่างตีรวน


    'เสียงหัวใจเต้นแปลกดีนะครับ....จินฮยอง'







    มันค่อนข้างนานนิดหน่อยกว่าที่ซอกจินจะหายดี คงเพราะซอกจินเป็นโอเมก้าด้วยล่ะนะ ถึงได้หายช้านัก แต่กว่าซอกจินจะหายสิ่งที่เกิดขึ้นตามสัญชาตญาณนั่นคือ การสร้างรัง มันลำบากจีมินนิดหน่อยที่ต้องมาจัดการเคลียร์ห้องเล็กๆสุดทางเดินที่จีมินไม่ได้ใช้ให้ซอกจิน 

    มันทำให้ซอกจินอึ้งนิดหน่อยตอนที่เห็นจีมินยกของหนักๆพวกนั้นคนเดียวโดยไม่ปริปากบ่นแม้แต่นิดเดียว


    'ก็ผมเป็นอัลฟ่านี่ครับ'


    ความจริงที่ซอกจินรู้ตัวช้ามากเกินไปทำให้ซอกจินอ้าปากค้างเมื่อจีมินกล่าวมันออกมาสบายๆ คงเพราะก่อนหน้านี้เขายังบาดเจ็บอยู่และยังถูกพิษไข้เล่นงาน ถึงประสาทรับกลิ่นพังไปหมดแล้ว แม้ตอนนี้จะยังไม่หายดี แต่ซอกจินก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรกับตัวเขา 

    ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกตัวว่าจีมินเป็นอัลฟ่ากันล่ะ?

    ท่ามกลางความสับสนงุนงงที่ทำให้ซอกจินหัวหมุน พัคจีมินยกยิ้มมุมปาก นั่นพาให้สีหน้าดูเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจเมื่อประกอบกับคำพูดที่ทำให้ซอกจินแทบอยากจะชกคนตรงหน้า


    'ซอกจินฮยองรู้ไหมครับว่ากลิ่นฮยองหอมและหวานมากแค่ไหน'


    ซอกจินเดินหนีเสียงหัวเราะอารมณ์ดีของจีมินที่ดังไล่ตามหลังมา แก้มของเขาร้อนมาก ซอกจินเดาว่าใบหน้าของเขาคงแดงจัดมากแน่ๆ ในตอนนั้นเองที่ซอกจินเพิ่งตระหนักถึงอันตรายเมื่ออยู่กับอัลฟ่าแสนเจ้าเล่ห์อย่างพัคจีมิน เจ้าหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่ทำตัวเป็นลูกเจี๊ยบนุ่มนิ่มหลอกให้ซอกจินตายใจมาตลอด


    มันน่าฟาดนักเชียว!




    -To be continued-





  • Story by Macbeth1995


    Twitter; @astronaut1995

    #สถานีอวกาศno95




    Talk;

    mini seriesค่ะ ยังไม่ได้คิดให้ละเอียดๆเลยค่ะว่าจะกี่ตอนจบดี
     แต่เอาเป็นว่าจะพยายามนะคะ แฮ่ เอาใจช่วยด้วยนะคะ! 
    มาสั้นๆค่ะ ต้องไปทำงานแล้ว 
Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in
ryeoiske (@ryeoiske)
ชอบมากกก จีมินคือลุกอัลฟ่ามาก โอยย แค่คิดภาพก็เท่มากแล้วค่ะ
Arpasiri Munponetong (@fb2126343017685)
ฮืออบอุ่นมากอ่ะ
Sarunporn Roylarp (@fb5501533854661)
น่ารักมากค่า รอนะค้าาา
Macbeth1995 (@wipeoutbear)
@fb5501533854661 ขอบคุณนะคะ♥
pinepeeraya (@pinepeeraya)
ว๊ากกกกกกกกก กว่าจะเจอฟิคจีจินดีๆ เอาใจช่วยน้าค้า❤️❤️❤️❤️
Macbeth1995 (@wipeoutbear)
@pinepeeraya ขอบคุณค่าาาา??