เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
LIFE IN LETTERSSilapa Junior
At the Funeral : งานอำลาลุงโภชน์
  • 1

    วันนี้ตอนเช้า ได้ทราบข่าวร้ายจากแม่

    แม่ชวนผมไปงานศพ


    2

    ไม่น่ามีใครชอบไปงานศพแต่พอได้ข่าวแล้วเป็นคุณลุงที่รู้จัก ถึงยังไงก็ต้องไปแสดงความเสียใจ

    ลุงโภชน์ เป็นศิลปินแห่งชาติเป็นอาจารย์ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสามีของน้าแอ๋ว ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยมหา’ลัยของแม่ และเป็นพ่อของลูกๆ อีกสองคน คือพี่แป้ง กับ น้องปั้น (ใช้ตัวผมอ้างอิงน่ะนะ)

    เท่าที่ผมรู้จักลุงโภชน์มา เป็นคนเจ๋งมากประหลาดใจทุกทีที่นึกได้ว่าแกเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพราะฝีมือ (แหม สมัยนี้ลองคิดดูว่าจะมีใครที่จะมีศักยภาพพอที่จะ ‘สร้างบ้าน’ ทั้งหลังขึ้นมาจาพื้นที่ว่างได้ด้วยตัวคนเดียว  ลุงโภชน์ทำได้ครับ) แต่เป็นเป็นเพราะ ท่าที ที่เอกเขนกอย่างน่าอิจฉา คุยง่าย สบายๆ ไม่น่าจากไปเร็วเลย


    3

    ผมมาถึงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม แม่พาผมไปสวัสดีลุง - ป้าที่เคยได้พบปะกันตอนสมัยเด็กๆ ทั้งที่เคยไปเยี่ยมบ้านเค้า ไปต่างจังหวัดด้วยกันต่างประเทศด้วยกัน ไม่ทันจะละจากการพนมมือไหว้ผู้ใหญ่ ก็ต้องพนมมือไหว้พระต่อทันทีเพราะว่าเริ่มสวดแล้ว เสียงสวดครั้งนี้แตกต่างออกไป แม่เอี้ยวตัวมากระซิบบอกผมว่าเป็นเพราะลุงโภชน์ได้พระราชทานเพลิงศพ สังเกตเห็นว่ามีโกฏิ ตั้งอยู่ด้วย รู้ตัวอีกทีตอนจูโน่น้องชายจิ้มผมเข้าที่พุงคงจะกระสับกระสายไม่อยู่สุขสักพักแล้ว ผมเองก็เผลอสับปะหงกไปตอนไหนไม่รู้แม่เลยบอกให้พอน้องไปเดินเล่นแถวนี้ เดี๋ยวสวดเสร็จแล้วจะโทรเรียก

    เราไปนั่งเล่นเกมในมือถือกันเงียบๆ ที่ริมท่าน้ำ ใต้ป้ายบอกชื่อท่า ‘วัด ครุนอก’ลมโกรกบางเบา กระทบหน้า ทำให้อารมณ์สงบขึ้นเลยนั่งคิดเลยเถิดไปถึงความไม่แน่นอนของชีวิต ช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่กับพ่อ-แม่-น้อง ถ้ามีใครสักคนต้องล้มหายตายไปไปสักคนเราจะทำใจได้ไหมนะ คงทำใจไม่ได้หรอก แต่หมายถึงว่าเราจะ เสียดายโอกาสที่นึกโชคดีที่อย่างน้อยจูโน่ก็ได้มีโอกาสเจอกันคนเจ๋งๆ อย่างลุงโภชน์ พวงหรีดจากวงพาราดอกซ์ และบริษัทสี ซากุระ คงจะเป็นตัวยืนยันคร่าวๆ ได้อย่างดี


    4

    การสวดจบลง ผู้คนเริ่มกระจายตัวกันไปไหว้พระ-ไหว้น้าโภชน์และแสดงซัพพอร์ตให้กับครอบครัว และทยอยกันกลับ เหล่าลูกๆได้สวมบทเป็นตากล้องให้กับแก๊งหนุ่มใหญ่สาวใหญ่รวมกลุ่มกันถ่ายรูปหน้าบริเวณสักการะ

    ดูอบอุ่นดีไม่หยอก

    ระหว่างกดชัตเตอร์ก็ได้เหลือบไปเห็นเหล่าลูกน้าลูกอาที่ผมเคยเล่นด้วยตอนยังไม่บรรลุนิติภาวะ

    น้องแควลูกน้าคอมที่เคยนั่งเล่น Gunbound แบบเกรงใจเนต 32.1kbs กันที่เชียงใหม่ตอนนี้โตตัวใหญ่ล่ำบักเอ้ก ใส่เสื้อ Ducati กับที่คาดผมเรียนอยู่ วิศวะลาดกระบัง แต่น้องก็ยังเป็นคนอัธยาศัยดี ยิ้มเก่งเหมือนเดิม

    พี่แอนลูกน้าต๊อกสาวทอมบอยตาโตที่ชวนเราไปเล่นอะไรโลดโผนกันที่สุราษฯ  ตอนนี้เรียนจบป.ตรีที่ไทยแล้ว กำลังจะไปต่อแพทย์ที่ โปแลนด์ หน้าตาสะสวยทิ้งคราบทาทา อัลบั้มแรกไปซะเกลี้ยง แต่ก็ยัง มีความคิดเห็นด้วยช่วยกัน (คือช่วยกัน คาล์มดาวน์เหล่าแม่ว่า อะไร๊ ยังติดต่อกันเรื่อยๆสนิทกันเหมือนเดิ๊ม ไม่ได้โตแล้วเขินกันสักหน่อย (มองหน้าแบบรู้กัน)) เหมือนสมัยเด็กๆ ที่แอบเหล่าแม่หนีกันไปปีนต้นไม้


    5

    เมื่อเสียงชัตเตอร์จากล้องซัมซุงตัวสุดท้ายดังขึ้น (ซึ่งนานมากเพราะขอถ่ายกันหลายกล้องเหลือเกินนานจนตกอยู่ไปอยู่ในห้วงความคิดได้หนึ่งย่อหน้า) ก็มีเสียงแซวจากน้าคอมขึ้น

    ‘ใครขาแข็งเจ็บเข่าลุกไม่ได้บอกนะ’ ทุกคนหัวเราะกันเป็นพิธี พลางค่อยๆ ถ่อตัวขึ้นช้าๆ แบบไม่ให้ลูกช่วยกลัวจะเป็นอิเหนาจากมุกที่เพิ่งขำไปหยก

    ‘นี่ยู้ เธอมานี่เลย’ น้าแอ๋วขึงเสียงเรียกแม่เราทีเล่นทีจริง

    ‘พวกหล่อฟังเอาไว้เลยนะชีเป็นผู้จักการที่มั่วที่สุดชั้นบอกเลย’ สาบานว่านี่คือภาษาที่แก๊งสาววัยทองใช้กันจริงๆ

    ‘ชั้นให้ชีช่วยจัดการบอกที่ทางเพื่อนๆ นะ งานจัดอยู่วัดครุนอกชีไปบอกว่า วัดครุใน’

    ‘อุ้ย จริงเหรอ ชั้นว่าชั้นไม่..’ แหน่ะ ขุ่นแม่แอ๊บแบ้วขึ้นมาทันที

    ‘วัดครุในจ้ะ’ คุณน้าที่หน้าตาคล้ายอาจารย์หัวหน้าภาควิชาหนึ่งในคณะผมขัดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นๆพร้อมยิ้มอ่อนให้แม่

    ‘ตายจริง เราขอโทษ’ แม่หัวเราะแก้เก้อพลางควงแขนน้าเอ๋วเป็นนัยอ้อนง้อ

    ‘ไมเป็นไรจ้ะ ยู้ เทอน่ะดีที่สุด’ ที่พูดนั่น ไม่ใช่น้าแอ๋ว แต่เป็นป้านิรนามคนเดิมแถมมากับบิ้มอ่อนอีกหนึ่งดอก

    เรานี่กลั้นขำแทบไม่ไหว อะไรมันจะบิชชี่ได้ทันสมัยนิยมขนาดเน้ มาป้ามาเอาถ้วยไป!

    ‘อย่างนี้มันต้องจับมาเบิร์ดกระโลกหสักที!’ เสียงมุกแนวชิงร้อยฯ ลุงอู๊ดมาไวเท่าร่างท้วมใหญ่พุ่งผ่าวงเข้ามานี่ถ้าอยู่ในรายการต้องเล่นมุขส่งละนะ

    ทุกคนหัวเราะครืนกันอีกครั้ง

    และครั้งนี้ ผมเห็นน้าแอ๋วยิ้ม


    6

    เหมือนกับงานศพ ไม่น่ามีใครชอบการสูญเสียมันคงจะเป็นกระบวนการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ภายหลังการสูญเสียแต่ละครั้งมันก็ทำให้เห็นอะไรๆ ชัดขึ้น ผมดีใจมากที่แม่ผมได้เป็นส่วนเล็กๆที่ทำให้น้าแอ๋วผละจากความเศร้าออกมาได้ ถึงจะไม่กี่วินาทีก็เถอะ

    ความห่วงใยและมิตรภาพของกลุ่มเพื่อนรักเมื่อ 30 ปีที่แล้ว มันชัดขึ้นจนผมมองเห็นได้

    ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทองแดง

    และก็ขอให้หลับให้สบายนะครับ รองศาสตราจารย์ สมโภชน์ ทองแดง หรือ ลุงโภชน์
    จากจูเนียร์ ลูกแม่ยู้

    6 พฤษภาคม 2559

     

    ปล. บทความได้รับการขออนุญาตจากน้าแอ๋ว ภรรยาของลุงโภชน์แล้วครับ 

     

     

     

Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in