เราใช้คุ๊กกี้บนเว็บไซต์ของเรา กรุณาอ่านและยอมรับ นโยบายความเป็นส่วนตัว เพื่อใช้บริการเว็บไซต์ ไม่ยอมรับ
BookBookBooh Reviewseenam13
สองเรา เจ็บปวด เปราะบาง
  • สองเรา เจ็บปวด เปราะบาง It's Blue, It Hurts, It's Fragile.

    เข้าใจเอาตามที่ผู้แปลกล่าวว่าชื่อหนังสือเล่มนี้มากจากคำว่า เซชุน แปลว่า วัยหนุ่มสาว 
    หากแต่อาจจะเปลี่ยน อ่อนเยาว์ ให้กลายเป็น สองเรา ก็จะดูเข้าทีกว่า ในแง่การใช้คำที่สละสลวย (คิดเอาเองว่าเป็นเช่นนั้น)

    หนังสือเล่มนี้ของ Yoru Sumino เป็นเรื่องราวของการก้าวข้ามพ้นวัยอีกเหมือนเคย ดังเช่นที่นักเขียนผู้นี้เคยสร้างความประทับใจให้นักอ่านมาแล้วจากเรื่อง "ตับอ่อนเธอนั้นขอฉันเถอะนะ" และ "ฝันถึงเรื่องนั้นอีกแล้ว"  

    เรื่องราวของ ทาบาตะ คาเอเด เด็กหนุ่มผู้ซึ่งมีคติในการใช้ชีวิตอยู่สองอย่างคือ ไม่เข้าใกล้ใครมากเกินไปโดยไม่ระวัง และไม่พยายามแสดงความคิดเห็นขัดกับคนอื่นกับ อากิโยชิ ฮิซาโนะ เด็กสาวผู้สดใสร่าเริง มั่นใจในตัวเอง ชอบยกมือแสดงความคิดเห็นในคาบเรียนอยู่ตลอด อากิโยชิไม่เป็นที่ประทับใจนักในสายตาคนอื่น ๆ แต่เธอเป็นคนมีอุดมการณ์อย่างแรงกล้า ทั้งสองถูกดึงดูดเข้าหากันด้วยความโดดเดี่ยว เขาเลือกที่จะยอมรับเธอเป็นเพื่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งสองตั้งชมรมลับขึ้นมาด้วยกันโดยมีสมาชิกแค่ 2 คน ชื่อว่า "โมไอ" ทำกิจกรรมเล็ก ๆ อย่างไปชมนิทรรศการภาพถ่าย ไปดูหนังสารคดีสงคราม กิจกรรมอาสาสมัครต่างๆ ด้วยความหวังว่าจะเปลี่ยนแปลงโลกได้ในสักวัน 

    หนังสือจะตัดสลับช่วงเวลาที่ทาบาตะรู้จักกับอากิโยชิตอนปี 1-2 และทาบาตะที่ไม่มีอากิโยชิอยู่ด้วยแล้ว ตอนปี 4 เมื่อโมไอมีสมาชิกมากขึ้นเรื่อยๆ และดูเหมือนอุดมการณ์ของชมรมจะเปลี่ยนไป ทาบาตะจึงตัดสินใจลาออก นั่นคือจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด พลิกคว่ำชีวิตของทาบาตะผู้ซึ่งคิดว่าอากิโยชิเป็นคนที่แปลกไม่เหมือนใครและมุ่งมั่นในอุดมการณ์ เขาเดินจากมาและไม่คิดจะกลับไปอีก แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนทาบาตะใกล้จะเรียนจบและหางานได้แล้ว บางสิ่งบางอย่างทำให้เขาอยากจัดการโมไอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมมีแนวทางเหมือนตอนแรกเริ่มก่อตั้ง แต่เขาก็ได้พบว่า การเปลี่ยนแปลงไปและการเติบโตขึ้น นำมาซึ่งความเจ็บปวด การโหยหาการมีตัวตน ความเดียวดายและความรู้สึกกลวงเปล่านั้นช่างเปราะบาง เขาตัดสินทุกสิ่งทุกอย่างด้วยมุมมองของตัวเอง จนทำสิ่งผิดพลาดลงไป...

    หนังสือของโยรุ สุมิโนะยังคงมีลายเซ็นชัดเจนเช่นเดิม ลึกซึ้ง กินใจในแง่ของมุมมองต่อการมีชีวิต ไม่ตัดสิน ไม่ชี้ผิดชี้ถูก ดังคำกล่าวในเล่มที่ว่า เราเติบโตเป็นผู้ใหญ่โดยไม่เคยลืมฤดูกาลนั้น เราต่างมีบาดแผลที่เคยเจ็บปวด เคยผิดพลาด สูญเสียตัวตน และได้ทำใครบางคนสูญหายระหว่างเส้นทางการเติบโต โดยไม่เคยลืมเลือนมันได้เลย 

    เล่มนี้่อ่านไม่ยากอย่างที่คิด แต่ครึ่งเล่มตอนปูพื้นออกจะเนือยๆ ไปบ้าง แต่ครึ่งเล่มหลังพอเครื่องติดก็รุนแรง บีบคั้นความรู้สึกคนอ่านมาก แนะนำให้อ่านค่ะ


Views

เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น

Log in