"เปิดเพลงนี้อีกละ"
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ถึงชอบเปิดเพลง
Sunday Morning Version cover แบบ Bossa
ฟังแล้วให้ความรู้สึกดูเบาเบา
ทอดอารมณ์ มองเหม่อเหม่อ
แล้วคิดถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
แล้วถ้ายิ่งเป็นเช้าวันอาทิตย์ ตัวยังอยู่บนที่นอน มันเข้ากันดีกับใจ
อาจเป็นเพราะความหมายของเพลง
มีท่อนนึงที่เราชอบมาก
และเรายิ่งชอบฟังตอนเวลาอยู่ร้านเหล้า
ในร้านเหล้าแห่งหนึ่ง..
บางคนอาจชอบไปร้านเหล้า
แด๊นซ์ มันส์ ยกแขน เมาสุด ไฟวิบวิบ วับวับ
แต่เราชอบไปร้านเหล้า ที่มีดนตรีสด
ด้วยความที่อยากฟังเพลงท่อนนั้น
เรามักบอกแฟน ว่า "ขอเพลงนี้ให้หน่อย"
แต่ เรามักจะเดากันก่อน พนันกันว่า
นักร้องวงนี้จะร้องได้หรือไม่
ร้านแรก..
เรา : ดูจากแววนักร้อง ร้องได้แน่ๆ
แฟน : เค้าก็ว่าได้ จัดไป
แฟน : ผมขอเพลง Sunday Morning ครับ
เด็กเสิร์ฟ เดินไปบอกนักร้อง
และวินาทีที่รอคอยก็มาถึง..
ทันใดนั้นเอง
นักร้องพูดออกไมค์ว่า
"เอ่อ ต้องขอโทษจริงๆนะครับ เพลงที่ขอมา อาจเล่นไม่ได้ แต่เรามาฟังเพลงนี้กันนะครับ.. "
วืดดดดดดด -_-
หลังจากนั้น เวลาไปร้าน ก็มักจะพนันกันเสมอว่า นักร้องร้านนี้ จะร้องได้ไหม
จนผ่านมาถึง ร้านนี้..
เป็นร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก
มีโซนด้านไหน ด้านนอก
และ วันนั้น เราเลือกที่นั่งด้านนอกสุด
เพราะโต๊ะเต็ม
ร้านนี้คนแน่นร้านทุกวัน
เพราะเบียร์ถูก ฮ่าๆ
ก่อน 21.00 นั้น พี่แกให้โปร ขวดละ 60
แต่ถ้าเกินเวลา ก็มีโปรอยู่ 4 ขวด 265
ถูกและเมามีอยู่จริง
ตั้งแต่ขอเพลงมา 2-3 ร้าน
ยังไม่มีร้านไหน ที่ร้องให้ได้
เราก็ตัดใจแล้วว่า คงยาก
ระหว่างที่กินข้อไก่ทอด
ก็คิดว่า เออ ร้านนี้ทำอร่อย ให้เยอะด้วย
มันเป็นปม ผิดหวังมาจากร้านเหล้าร้านนึง
(ร้านนี้เป็นย่านที่มีตลาดนัดที่ขายของยามค่ำคืนของเด็กฮิปเตอร์ทั้งหลาย
ข้อไก่ทอดให้น้อยมาก แถมยังไม่อร่อย มีแต่แป้ง นี่ให้กินแป้งทอดใช่ไหม?)
คิดในใจ "เฟิร์ส อิมเพลสชั่น ที่นี่ดีจัง"
มาครั้งแรก ข้อไก่ทอดก็อร่อยแล้ว
(ในมือก็ยังคงหยิบข้อไก่ทอด กินไป)
วันนั้นเรากินเบียร์น้อย แต่แฟนเราไหลมาก
กินหมดเร็วจนเด็กเสิร์ฟ แอบพูดเบาๆว่า
"หูย กินหมดไวมาก"
และก็มาถึงตอนที่นักดนตรีกำลัง Soundcheck
เราก็คิดในใจว่า
ดูจากทรง แววไม่น่าร้องได้
ร้องคนเดียว ดีดกีตาร์คนเดียว
เฮ้อ อดไปตามระเบียบ
นักร้องก็ร้องเพลงตลาด เพลงไทย ไปเรื่อย
จนเราบอกกับแฟนว่า
"อยากฟังเพลง sunday morning เนอะ ยังไม่มีร้านไหนร้องได้เลย "
ณ ขณะนั้น นักร้องกำลังร้องเพลง let her go
แฟน : คนนี้ร้องเพลง let her go ได้ ก็ต้องร้องได้
เรา : ไม่ได้หรอก แววไม่ได้เลย
แฟน : เอาเปล่า ถ้าร้องได้ สั่งเบียร์เพิ่มอีก 1 ขวดนะ
( ณ ตอนนั้น สั่งมาโปรเดียว เรากินเบียร์ไปประมาณไม่ถึงขวดได้มั้ง อีก 3 ขวดแฟนเราเต็มๆ เรากินแต่ข้อไก่ทอด กินกับ)
คิดในใจ เอ้อ ยังไงก็ร้องไม่ได้แน่ๆ
เรา : เอาดิ
นักร้องอยู่ด้านในห้องแอร์
แต่เรานั่งโซนข้างนอก
นึกถึงสี่เหลี่ยมจตุรัส มุมคนละมุม
นักร้องอยู่มุมนึง และ เส้นทแยงมุม เป็นโต๊ะเรา
ไกลมาก มีเพียงลำโพงเท่านั้นที่ทำให้รู้สึกใกล้นักร้อง
เหตุการณ์เดิม
แฟนบอกเด็กเสิร์ฟ > เด็กเสิร์ฟเดินไปหานักร้อง > รอ
พอเพลง let her go จบลง
เสียงดนตรี เพลงใหม่ ก็ดังขึ้น
เสียงกีตาร์..
3 วินาที
คุ้นคุ้นว่ะ
หรือว่า หรือว่า
Sunday morning, rain is falling
เรา : เฮ้ยยยยย
แฟน : พี่ครับ เบียร์ขวด !
เรากับแฟน : ประสานเสียง พร้อมยกมือโบกส่งไปถึงนักร้อง ให้รู้ว่า
ฉัน ฉันอยู่ตรงนี้นะ ฉันขอเพลงนี้
ฟัง ฟ้งอยู่ ร้องต่อเลย
แม้จะไกลสุด เส้นทแยงมุม คนละมุม และห้องกระจกกั้น แต่เราขอเพลงนี้เอง และเราสนุกกับมันตอนเธอกำลังร้อง
That someday it would lead me back to you
สักวันหนึ่ง มันจะพาฉันกลับมาหาเธอ
That may be all I need
นี่อาจจะเป็นทั้งหมดที่ฉันต้องการ..
In darkness, she is all I see
ในความมืด เธอเป็นคนเดียวที่ฉันมองเห็น
.
.
I never want to leave.
เข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น
Log in